โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เด็กสมัยนี้สอนยาก หรือ ครูสอนไม่เป็น?

LINE TODAY

เผยแพร่ 23 ม.ค. 2561 เวลา 11.17 น. • Expinion.J

เพิ่งผ่านวันครูมาได้ไม่นานทำให้รู้สึกนึกถึงสมัยที่ยังเป็นนักเรียนและคิดไม่ตกกับเรื่องระบบการศึกษาไทย ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็มักจะมีคำถามซ้ำๆเกิดขึ้นมาเสมอ ทำไมครูยังคงสอนแบบเดิม 10 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นแบบเดิม ทำไมเด็กไทยใช้เวลาไปกับการเรียนหลายคาบต่อวัน แต่เด็กกลับโตมาแบบคิดวิเคราะห์ไม่เป็น ทำไมเด็กเดี่ยวนี้ถึงสอนยาก หรือเด็กไทยโง่?

“ เด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ แต่ต้องสอนด้วยวิธีที่ต่างกัน เพราะเด็กแต่ละคนต่างก็มีพื้นฐานหรือต้นทุนชีวิตที่จะเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมา ไม่เท่ากัน”

เป็นคำพูดของ ทัฬหวิชญ์ ฐิติรัตน์สกุล หรือ สกาย ครูรุ่นใหม่ไฟแรงด้วยวัยเพียง 25 ปีที่ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของเด็กไทย ซึ่งจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ ภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเป็นอดีตนักวิจัยการตลาดให้กับบริษัทชื่อดังหลายแห่ง โดยสกายเล่าว่าที่ผันตัวเองมาเป็นครู เพราะรู้สึกว่า อาชีพที่เคยทำให้ประโยชน์แค่กับคนรวยไม่กี่กลุ่ม และเขาสามารถทำให้งานเค้ามันให้อะไรกับสังคมได้มากกว่านั้น จนมาพบกับ มูลนิธิ Teach for Thailand ที่สรรหาคนรุ่นใหม่จากทุกสาขาอาชีพเพื่อเข้าไปเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและสร้างอนาคตด้านการศึกษาที่ดีให้กับเด็กในชุมรายได้น้อย ซึ่งสกายใช้เวลา 2 ปีกับการศึกษาและเรียนรู้ถึงแก่นปัญหาของระบบการศึกษากับเด็กไทย 

โดยเค้าเล่าว่า ตอนแรกที่ได้เข้าไปสอน ซึ่งเป็นโรงเรียนในเขตปริมณฑล เข้าไปด้วยอุดมการณ์ที่แรงกล้าและเตรียมการสอนตามหลักสูตรมาเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทำให้เซอร์ไพร์คือ ทั้งๆที่เป็นโรงเรียนที่ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากในตัวเมืองกรุงเทพฯ ไม่ใช่โรงเรียนต่างจังหวัด แต่ทำไมพื้นฐานด้านการศึกษามันถึงได้ต่างกันขนาดนี้ 

ในห้องมีนักเรียน 40 คน เป็นนักเรียนชั้น มอต้นแต่เด็กส่วนใหญ่อ่านหนังสือไม่ได้ หารเลขไม่เป็น ท่องสูตรคูณไม่คล่อง และมีชีวิตครอบครัวที่ลำบากพ่อแม่ไม่อยากให้เรียนเพราะรู้สึกว่าเด็กเรียนไปก็ไม่ได้อะไร ทำให้เด็กรู้สึกว่าเรียนไปเพื่ออะไร เขาได้อะไร สกายจึงเรียกเด็กมาคุยเพื่อทำความเข้าใจว่าเราต้องเรียนไปทำไม ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ก็ชอบบอกว่าอยากได้ครูที่ใจดี สนุกสนาน พาเล่นเกมส์ ทำกิจกรรม พอเราลองเป็นแบบนั้น กลับไม่ได้ช่วยให้เด็กอยากเรียน เทอมแรกผ่านไปแบบเละเทะ เด็กสอบตกเกินครึ่งห้อง จนรู้สึกว่าเราเข้ามาทำให้แย่กว่าเดิมหรือเปล่า

เทอม 2 เลยเริ่มสร้างกฎระเบียบขึ้นในห้อง พอสนุกและปล่อยมากเกินไปทำให้เด็กเล่นเกินเหตุ จึงต้องฝึกให้เด็กมีระเบียบมากขึ้นก่อน โดยถ้าเด็กคุยกัน ก็จะมีเตือน จดชื่อ หรือเรียกผู้ปกครองมาพบ จะไม่มีการตีหรือใช้ความรุนแรงใดๆ พอเด็กเริ่มอยู่ในระเบียบมากขึ้น ก็มานั่งคิดว่าแล้วจะปรับแผนการสอนอย่างไร วันหนึ่งเลยเห็นเด็กที่เป็นเด็กดื้อไม่ตั้งใจเรียนในห้องเรียน แต่พอเขาไปเตะฟุตบอลเขากลับตั้งใจมากและทำมันได้ดี เราเลยคิดว่า วิธีการที่จะสอนเด็กกลุ่มนี้ได้คือ ต้องทำให้เขารู้สึกอยากเรียน อยากทำ สนุก และ สามารถทำมันได้ หรือ "I want I can” เพราะ"เราไม่อยากเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เด็กรู้สึกว่า ครูสกายมาแล้วคาบนี้เล่นได้ แต่อยากให้เด็กรู้สึกว่า ครูสกายมาแล้ว ตื่นเต้นที่จะเรียนเลขมากกว่า"

เทอมถัดมาเลยเริ่มลองสอนวิธีการแบบใหม่ เราตระหนักว่า "ครูที่เด็กต้องการ ไม่ใช่ครูที่ใจดี แต่เป็นครูที่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าสามารถทำได้” และเด็กกลุ่มนี้ชอบที่จะสนุก เวลาที่เราสอนเลข อย่างสมการ เช่น X + X = 2X แต่เด็กไม่เข้าใจ เค้าจะตอบว่าเป็น XX เราจึงบิดวิธีด้วยการ แทนคำว่า X เป็นชื่อของเด็กในห้องเรียน เพื่อให้เด็กรู้สึกสนุก ตลกที่มีชื่อเพื่อน อย่างเช่น พอบอกว่า กี้ + กี้ จะเท่ากับเท่าไหร่ เด็กก็สามารถตอบได้ว่าเป็น 2 กี้ พอเด็กเริ่มสนุก และพอเค้าเริ่มทำได้ ถ้าเจอโจทย์ที่ยากขึ้นเขาก็เริ่มไม่บ่นและตั้งใจมากขึ้น ทุกอย่างก็ค่อยๆดีขึ้น

แล้วปัญหาของการศึกษาไทยจริงๆมันคืออะไร แล้วทางออกควรจะเป็นอย่างไร ?

ปัญหาของการศึกษาไทยคือเรายังคงทำอะไรแบบเดิมๆ ความต้องการแบบเดิม ต้องการงานวิจัย ต้องการการประเมินโรงเรียนที่ดี เปิดหนังสือ ให้เด็กท่องจำไปสอบ ไม่ได้เน้นให้คนเรียนอยากเรียน ทั้งที่เรารู้ว่าปัญหามันคืออะไร เรารู้ว่า เราสอนแบบเดิม เราไม่ได้ประเมินโดยเน้นตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ เราไม่ยอมรับความจริงว่าการศึกษาไทยมันมีปัญหาแล้วเราต้องแก้ไข แต่เรายังคงโฟกัสที่ผลการประเมินโรงเรียนและงานวิจัยของครู และที่สำคัญเรารู้ว่ามีปัญหา แต่ไม่มีใครที่จะนำพากันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เหมือนเรารู้คำตอบ แต่กระบวนการดำเนินการมันไม่เกิดขึ้น

ในส่วนของครูรุ่นเก่าอยากให้ลองเปิดใจให้กับครูรุ่นใหม่บ้าง ลองวิธีใหม่ๆ ซึ่งในกลุ่มของครูรุ่นใหม่สมัยนี้เราจะมีการทำ Professional Learning Community (PLC) ให้ครูมานั่งรวมกลุ่มกันพูดคุย แชร์วิธีการสอน แชร์ประสบการณ์ในห้องเรียนว่าเจออะไรมา แล้วเค้ามีวิธีการสอนแบบไหน เพื่อจะได้ลองนำวิธีของคนอื่นไปทดลองสอนในห้องเรียนของตัวเองได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามเราคิดว่า ไม่มีหรอกเด็กที่สอนยาก เพราะเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ แต่แค่ด้วยวิธีที่ต่างกัน และก็คงไม่ใช่ว่าครูสอนไม่เป็น เพราะทุกคนสามารถเป็นครูได้ เพียงแค่ต้องเอาเด็กเป็นที่ตั้งมากขึ้นและไม่ยอมแพ้ที่จะสอน ทดลองหาวิธีใหม่ๆมาสอนอยู่เสมอ เด็กอาจจะไม่ได้เข้าใจทุกคนตั้งแต่คาบแรก มันต้องมีคาบที่ล้มเหลว แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ มันก็จะมีทาง เพราะ ถ้าหากครูแพ้ เด็กก็จะแพ้ด้วย

การเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้อยากอย่างที่คิด หากทุกคนเปิดใจ เข้าใจ เริ่มเปลี่ยนแปลงและให้โอกาส มีเป้าหมายเดียวกัน ทั้งครู เด็ก และผู้ปกครองที่จะให้เด็กได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเพื่อให้เด็กเติบโต ต่อยอดไปเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคมไทยต่อไป

คลิปวิธีการสอนของครูรุ่นใหม่ ขอบคุณคลิปจากเพจ Toolmorrow
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0