โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เด็กชายวัย 7 ขวบ ใส่รองเท้าโรเลอร์เบลด พลาดเชือกเกี่ยวคอดับ

อีจัน

อัพเดต 06 มิ.ย. 2563 เวลา 03.40 น. • เผยแพร่ 06 มิ.ย. 2563 เวลา 03.39 น. • อีจัน
เด็กชายวัย 7 ขวบ ใส่รองเท้าโรเลอร์เบลด พลาดเชือกเกี่ยวคอดับ
สลดเด็กชายวัย 7 ขวบ ใส่รองเท้าโรเลอร์&#…

สลดเด็กชายวัย 7 ขวบ ใส่รองเท้าโรเลอร์เบลดเล่นพลาดถูกห่วงเชือกคล้องคอดับ

วานนี้ 5 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 18.30 น. เกิดเหตุเด็กชายวัย 7 ขวบ ผูกคอเสียชีวิตกับราวผ้าม่านหน้าต่าง ภายในบ้านหลังหนึ่ง ย่านบ้านหนองขาม ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ ด.ช.จิรภัทร เนาวรัตน์ หรือน้องตี่ตี๋ อายุ 7 ขวบ ที่พ่อกับเจ้าหน้าที่นำน้องออกมาทำการช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันบริเวณประตูหน้าบ้าน สภาพศพสวมชุดนอนลายสก็อต สีม่วง ข้างศพพบ นายเสรี เนาวรัตน์ อายุ 39 ปี (พ่อ) และนางอำนวย คำมูล อายุ 62 ปี (ยาย) ร้องไห้กอดศพลูกชาย และหลาน โดยมีญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมาช่วยพูดปลอบใจ

จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจด้วยการผูกคอ เนื่องจากบริเวณลำคอพบรอยเชือกอย่างชัดเจน โดยนายเสรี เนาวรัตน์ ผู้เป็นพ่อ และญาติจะนำตำรวจ แพทย์เวร อาสากู้ภัยฯ เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านตรงบริเวณที่ น้องตี่ตี๋ถูกเชือกลูกเสือแบบผ้าสีแดงที่มีลักษณะผูกมัด 3-4 ปม และปมสุดท้ายถูกมัดเป็นห่วงแขวนอยู่บนราวผ้าม่านหน้าต่าง ข้างเตียงนอนของย่าที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และมะเร็ง บริเวณหัวเตียงพบตู้ชั้นวางของล้ม ข้าวของกระจัดกระจาย และพบโรเลอร์เบลด สีแดง-ดำ วางอยู่ที่พื้นตำรวจจึงถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายเสรี เนาวรัตน์ อายุ 39 ปี พ่อ ให้การทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกชายคนเดียว ส่วนภรรยาเดินทางไปทำงานที่ กทม. และบ้านหลังนี้อาศัยอยู่เพียง 4 คน มีตนเอง ลูกชาย แม่ และป้าที่พิการหูหนวก ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนพาแม่ที่ป่วยนั่งรถเข็นไปนั่งเล่นที่สวนย่อมหน้าบ้านตามปกติ ส่วนตนนอนเล่นอยู่เปล และบอกให้ลูกชายมาเล่นโรเลอร์เบลดที่หน้าบ้าน หลังจากลูกชายทำการบ้านเสร็จ เพราะลูกชายชอบเปิดโทรศัพท์ดูการเล่นเกมในมือถือ ส่วนป้าทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ผ่านไปสักพัก ลูกชายได้เข้าไปในบ้าน แต่ตนกับแม่ก็ยังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน
ผ่านไปราว 15 นาที เห็นว่าใกล้มืดค่ำและมียุงชุม และแม่อยากเข้าห้องน้ำ ตนจึงรีบเข็นรถพาแม่มาเข้าห้องน้ำในบ้านแล้วเสร็จ พบลูกชายแขวนคอกับราวผ้าม่านบนหัวเตียงนอนผู้ป่วยของแม่ จึงรีบวิ่งเข้าไปนำร่างลูกชายลงมาปั๊มหัวใจช่วยเหลือชีวิต พร้อมกับถอดโรเลอร์เบลดออกจากเท้าทั้งสองข้าง ที่ทำให้ลูกชายของตนเสียชีวิต และปั๊มหัวใจผายปอดลูกอยู่นานหลายนาที แต่ไม่มีอาการตอบสนอง จึงโทรศัพท์แจ้ง 1669 มาช่วยเหลือชีวิตลูกชายแต่ก็ไม่ทันแล้ว

นายเสรี บอกอีกว่า ถ้าหากป้าตนเองหูไม่หนวกคงจะได้ยินเสียงหลานชายที่ดิ้นจนชั้นวางของล้ม และคงช่วยเหลือชีวิตลูกชายได้ทัน ตนรู้สึกช็อกกับการสูญเสียครั้งนี้ ลูกชายเป็นเด็กฉลาดเรียนหนังสือเก่ง พูดจาไพเราะ และเป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และทุกวันตนจะพาลูกชายไปปั่นจักรยานยนต์เล่นที่สวนสาธารณะหนองตะไก้ หลังหาอาหารให้แม่กินและเข้านอน แต่วันนี้ไม่ได้พาลูกชายไปปั่นจักรยานยนต์ เพราะตนได้คุยกับลูกชายไว้ว่าจะพาไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นคำพูดและรับปากลุกครั้งสุดท้าย ตนรู้สึกผิดมากที่ดูแลลูกไม่ดี”
ส่วนกรณีเชือกบ่วงนั้น นายเสรี เผยว่าลูกชายตนมีนิสัยชอบเล่นชักเชือกธงชาติ เนื่องจากเขาเคยเป็นหัวหน้าระดับชั้นอนุบาลเป็นตัวแทนทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน และชอบนำเชือกผูกธงชาติมาผูก และแขวนไว้ตามราวผ้าม่านหน้าต่างในบ้าน และต้นไม้หน้าบ้าน ที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ลูกคงทำไปตามประสาของเด็กที่เคยทำมา แต่ครั้งนี้ที่เท้าสองข้างลูกชายมีโรเลอร์เบลดที่ตนเพิ่งซื้อให้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ลูกตนพลาดลื่นไถลคอไปเกี่ยวกับเชือกที่ผูกปมเป็นห่วงไว้ เพราะลูกชายยังเล่นโลเลอร์เบลดไม่ชำนาญ จนทำให้ลูกชายตนเสียชีวิต
ด้านร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง ตรวจสอบสภาพศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้นสันนิฐานว่าเด็กเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ ด้วยการแขวนคอ เพราะตามร่างกายไม่มีร่องรอยการต่อและถูกทำร้ายคาดจะเป็นอุบัติเหตุจากพฤติกรรมของเด็กที่ชอบเล่นเชือกชักธงชาติตามจุดต่างๆ ของบ้าน และยังพบเชือกอยู่ที่ราวผ้าม่านหน้าต่างหน้าบ้าน และมีลักษณะเหมือนกันกับจุดที่น้องตี่ตี๋เสียชีวิต ซึ่งญาติก็ไม่ติดใจในสาเหตุในการเสียชีวิต และเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามทางเราจะนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมกับประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ส่วนการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของน้องตี่ตี๋ พบว่ามีการเปิดยูทูบดูการเล่นเกมตามปกติที่ไม่มีความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเหตุจูงใจให้เป็นพฤติกรรมในการเรียนแบบแต่อย่างใด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0