โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เดือด! โร่แจ้งจับแก๊งลิขสิทธิ์กรรโชกทรัพย์แม่ค้าตลาดประชารัฐศรีสะเกษ เชิดเงินไป 1.5 แสน

Manager Online

เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 14.24 น. • MGR Online

ศรีสะเกษ- แม่ค้าศรีสะเกษเดือด! โร่ขึ้นโรงพักแจ้งจับแก๊งลิขสิทธิ์กรรโชกทรัพย์แม่ค้าตลาดประชารัฐ-ตลาดต้องชมบ้านไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์จ.ศรีสะเกษ ข่มขู่เชิดเงินไป 1.5 แสน แถมหอบตุ๊กตาตัวใหญ่ไปด้วย

วันนี้ ( 20 ส.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มแม่ค้า จำนวน 6 คน จากตลาดประชารัฐ-ตลาดต้องชม บ้านไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นำโดย น.ส.อชอรญา มลิพันธุ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 4 บ้านยางตากวย ต.นิคมพัฒนา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้พากันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชัยทัศ ใสสดศรี รอง ผกก.(ป.) และ พ.ต.ท.สมภพ ประกอบผล สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคล จำนวน 10 คน ประกอบด้วยชาย 7 คน หญิง 3 คน โดยในจำนวนดังกล่าว มีชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 คน อ้างว่า ชื่อ “ผู้กองพงษ์” เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจจับลิขสิทธิ์ ได้รับมอบอำนาจมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง เพื่อให้มาจับกุมพวกตนที่ขายสินค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ที่ตลาดต้องชมบ้านไพรพัฒนา

น.ส.อชอรญา มลิพันธุ์ อายุ 43 ปี ให้การว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลาประมาณ 11.00 น.ได้มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจจับละเมิดลิขสิทธิ์สินค้าที่ตลาดประชารัฐ โดยมีกลุ่มบุคคลได้มาซื้อสินค้าแล้ว อ้างว่า เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สินค้า และบังคับพวกตนให้ขึ้นรถยนต์ถ้าไม่ขึ้นไปบนรถจะใส่กุญแจมือนำตัวไปที่ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และบังคับให้พวกตนปิดร้าน ซึ่งพวกตนไม่ยอมปิดร้าน เพราะพวกตนจะขายสินค้าต่าง ๆ ได้เพียงเล็กน้อยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้น แต่พวกตนได้โทรศัพท์แจ้งให้ญาติมาเฝ้าร้านแทน

จากนั้นกลุ่มบุคคลได้พากันเก็บเอาสินค้าของพวกตนหลายอย่าง อ้างว่าผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นำเอาไปด้วย โดยกลุ่มคนดังกล่าวไม่มีการแสดงบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือว่าหลักฐานที่ทางราชการออกให้แต่อย่างใด ทำให้พวกตนและครอบครัวที่อยู่ในเหตุการณ์มีความหวาดกลัวมาก

น.ส.อชอรญา กล่าวต่อว่า เมื่อพวกตนถูกนำตัวมาที่ สภ.ภูสิงห์ กลุ่มคนทั้งหมดได้บังคับข่มขู่เรียกเงินจากพวกตนคนละ 50,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พวกตนไม่มีเงินจ่ายและไม่ทราบด้วยว่า สินค้าตัวใดเป็นสินค้าที่มีลิขสิทธิ์บ้าง เพราะซื้อมาจากร้านค้าในตัวเมืองศรีสะเกษ และบางส่วนซื้อมาจากแถวสำเพ็ง กรุงเทพฯ รวมทั้งซื้อสินค้ามาจากตลาดช่องจอม จ.สุรินทร์มาขายด้วย

โดยกลุ่มคนที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ได้ข่มขู่พวกตนและบังคับให้พวกตนจ่ายเงินคนละ 30,000 บาท พวกตนก็ไม่มีจะจ่ายให้และยินยอมติดคุกแทนค่าปรับ แต่พวกคนร้ายไม่ยอมที่พวกตนจะยอมติดคุกแทน และได้ข่มขู่ให้พวกตนจ่ายเงินคนละ 25,000 บาท โดยอ้างว่า จะมีใบเสร็จรับเงินให้เมื่อจ่ายเงินแล้ว และข่มขู่พวกตนว่า หากไม่ยอมจ่ายเงินอาจจะได้รับความไม่ปลอดภัย ทำให้พวกตนหวาดกลัวมาก เนื่องจากว่า มีชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจชื่อ “ผู้กองพงษ์” มายืนข่มขู่พวกตนอยู่ด้วย พวกตนจึงได้โทรศัพท์ไปขอกู้ยืมเงินจากญาติพี่น้องและคนรู้จักกัน เพื่อนำเอาเงินมาให้ “ผู้กองพงษ์” กับพวก จากนั้น “ผู้กองพงษ์” กับพวกได้ปล่อยพวกตนโดยไม่มีใบเสร็จรับเงินให้แต่อย่างใด และไล่พวกตนกลับไปที่ร้านค้าของตนเองที่ตลาดประชารัฐ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร (กม.)

นางบุณนิศา วันทะวงษ์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายคนหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากพวกตนโดนข่มขู่และจ่ายเงินให้คนร้ายไปแล้ว คนร้ายที่เป็นหญิงได้อ้อนวอนขอตุ๊กตาตัวใหญ่ที่คนร้ายนำเอามาด้วย และขอหมวกรวมทั้งสินค้าหลายอย่างไปใช้ด้วย พวกตนหวาดกลัวจึงยอมให้สิ่งที่คนร้ายต้องการเอาไป และคนร้ายได้คืนสินค้าบางส่วนกลับคืนมาหลังจากที่ได้รับเงินจากพวกคน 6 คน ๆ ละ 25,000 บาท รวมเป็นเงิน 150,000 บาทไปแล้ว ซึ่งพวกตนเห็นว่า การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว น่าจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ อาจเป็นคนร้ายที่อาศัยช่องโหว่ของกฎหมายมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกตน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการจ่ายเงินและการข่มขู่พวกตน กล้องวงจรปิดของ สภ.ภูสิงห์ จะบันทึกภาพไว้ทั้งหมด

พวกตนจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา กรรโชกทรัพย์ และข่มขู่ รวมทั้งข้อหาอื่น ๆ ตามกฎหมาย กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว และจะไปร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม อ.ภูสิงห์ด้วย

พ.ต.ท.สมภพ ประกอบผล สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องนี้ไว้แล้ว ซึ่งคดีนี้ พ.ต.ท.อรรณพ มณีวงษ์ สารวัตรสอบสวน เป็นเจ้าของคดี จะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และทำการตรวจสอบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นใครมาจากไหน มีหนังสือมอบอำนาจถูกต้องหรือไม่อย่างไร และมีการข่มขู่เรียกรับเงินทองหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลาดต้องชม หรือตลาดประชารัฐ บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นตลาดที่จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการส่งเสริมการค้าการท่องเที่ยวในชุมชน มีการจำหน่ายสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์พาณิชย์ และเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ซึ่งในวันเปิดตลาดแห่งนี้ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษและคณะได้เดินทางมาประกอบพิธีเปิดด้วยตัวเอง เพื่อหวังส่งเสริมให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามีตลาดในการจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และสินค้าโอทอปต่างๆ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุข

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0