เมื่อเทศกาลคริสต์มาสใกล้จะมาถึง หลายๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มเข้าสู่โหมดเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความอบอุ่น ผู้คนเปิดเพลงวันคริสต์มาสร้องคลอกันอย่างเพลิดเพลิน นำมิสเซิลโทมาแขวนประดับตามบ้านและสวน ส่วนเด็ก ๆ ต่างตั้งใจเขียนรายการของขวัญเตรียมส่งให้ซานตาคลอส ดังนั้นทางอโกด้า จึงนำเสนอ 12 ตลาดคริสต์มาสในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย คัดสรรมาให้เป็นไอเดีย พร้อมที่พักใกล้เคียง เพื่อบินไปสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขกันอย่างเพลิดเพลิน
เริ่มต้นที่ ยุโรป เพราะต้นกำเนิดตลาดคริสต์มาสเกิดขึ้นที่นั้น ซึ่งหลายเมืองในทวีปนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเดินเที่ยวเล่นท่ามกลางบรรยากาศของเทศกาลแห่งความอบอุ่น ใต้แสงไฟสุดตระการตาที่ประดับประดาไปตามถนนเช่น Gendarmenmarkt Christmas Market กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เป็นอาคารประวัติศาสตร์จำนวนสามแห่งที่จตุรัสเก็นดาร์เม็นมาร์ก มีความสวยงามน่าไปเยี่ยมชมในทุกฤดูของปี โดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาสจะมีการนำไฟมาประดับประดาทั่วบริเวณตลาด มีร้านค้าขายงานฝีมือโอริกามิ เข็มขัด และงานศิลปะที่ทำจากกระจก แถมยังมีร้านขายอาหารเยอรมัน ออสเตรีย และบาวาเรียจานเด็ด กลิ่นหอมชวนชิมให้เลือกอร่อยมากมาย
พร้อมกันนี้ยังมีบริการพิเศษ เมื่อสั่งไวน์ผสมเครื่องเทศ โดยทางร้านจะคิดราคาสูงกว่าราคาที่ขายทั่วไป เพราะเงินที่คิดเพิ่มนั้นเป็นเงินวางมัดจำสำหรับแก้วมัค ซึ่งสามารถคืนหรือเก็บไว้ก็ได้ เพราะโดยปกติแล้ว แก้วนี้จะได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น ส่วนที่ที่ทางอโกด้าพักแนะนำ คือ โรงแรม COSMO Hotel ที่อยู่ใกล้กับจตุรัสเก็นดาร์เม็นมาร์ก ในย่านวัฒนธรรมและแหล่งช้อปปิ้งของกรุงเบอร์ลิน ทำให้สะดวกต่อการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นในเมือง หรือลองเลือกดูที่พักอื่นในเบอร์ลินบนอโกด้าอีกกว่า 2,000 แห่งได้ที่ https://www.agoda.com/city/berlin-de.html?site=id1811392)
แต่ถ้าหากใครชื่นชอบเทคโนโลยี ต้องลองมาที่ตลาดคริสต์มาส ณ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน St Stephen’s Basilica Christmas Market กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เพราะที่นี่มีชื่อเสียงในการจัดแสดงภาพวาด 3 มิติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง โดยผู้คนสามารถดู และเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องที่ฉายบนด้านหน้าของตัวมหาวิหารได้ นอกจากนี้ยังมีลานสเก็ตฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี รวมถึงบูธอาหารเครื่องดื่มฮังการีสูตรพิเศษ อาทิ ไส้กรอกทอดสไตล์พื้นเมือง และ บรั่นดีผลไม้ อีกด้วย
ขณะที่ เด็กชาวฮังกาเรียนจะได้รับของขวัญสองครั้งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยในวันที่ 6 ธันวาคม เด็ก ๆ จะวางรองเท้าไว้ตรงขอบหน้าต่างเพื่อรับของขวัญชิ้นเล็ก ๆ อย่างขนมหวานหรือช็อกโกแลต และจะได้รับของขวัญใต้ต้นคริสต์มาสอีกครั้งในคืนก่อนวันคริสต์มาสหรือในวันคริสต์มาส สำหรับที่พักแนะนำโดยอโกด้ามีที่พักกว่า 8,000 แห่งให้เลือกในบูดาเปสต์ https://www.agoda.com/city/budapest-hu.html?site=id1811392 และ โรงแรม Kempinski Corvinus กับโรงแรม Hotel President จะอยู่ไม่ไกลจากตลาดคริสต์มาสอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง และมหาวิหารเซนต์สตีเฟ ไม่กี่นาที
หรือย้อนเวลาสู่ยุคกลางในมิวนิก ที่ Advent spectacle at Wittelsbacherplatz ตลาดคริสต์มาสยุคกลาง กรุงมิวนิก ประเทศเยอรมนี เป็นตลาดคริสต์มาส ซึ่งคนขายจะใส่เครื่องแต่งกายสมัยยุคกลาง มีการนำภาชนะย้อนยุคมาใช้และการแสดงโชว์สุดพิเศษ ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลาดจะครึกครื้นเป็นพิเศษ มีทั้งนักดนตรียุคกลางมายืนร้องเพลง และอัศวินสวมเกราะเดินตรวจตราบนถนน อีกทั้งอาหารในงานก็เป็นสูตรดั้งเดิม สอดคล้องไปกับธีมของงาน ส่วนใครที่มองหาของขวัญที่เป็นของกิน ตัว Lebkuchen ขนมคุกกี้ดั้งเดิมของเยอรมันน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากปกติแล้ว Lebkuchen จะเป็นคุกกี้รูปหัวใจขนาดใหญ่ มีข้อความเกี่ยวกับคริสต์มาสประดับอยู่ เหมาะสำหรับคนรักขนมหวาน ส่วนที่พักอโกด้าแนะนำ โรงแรม Hotel Cristal และโรงแรม Vi Vadi Hotel Downtown Munich ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟกลาง แถมนั่งรถไปไม่เกินสิบนาทีก็ถึงตลาด หรือเลือกจองโรงแรมและบ้านพักกว่า 900 แห่งในมิวนิกกับอโกด้า ได้ที่ https://www.agoda.com/city/munich-de.html?site=id1811392
ส่วนWinter Wonderland Hyde Park กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หรือ วินเทอร์ วันเดอร์แลนด์ ณ สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คไม่ได้มีเพียงร้านขายของขวัญหรือของกินช่วงคริสต์มาสเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องเล่นและจุดเที่ยวชมกว่า 100 จุดให้ไปสนุกเพลิดเพลิน โดยในปีนี้ตลาดจะมีชิงช้าสวรรค์แบบเคลื่อนย้ายได้ที่สูงที่สุดในโลก ลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร คาราโอเกะ ประติมากรรมรูปปั้น การแสดง และกิจกรรมบันเทิงมากมายสำหรับทั้งครอบครัว
หากใครอยากลองเครื่องดื่มคริสต์มาสแบบอื่น ที่ไม่ใช่ช็อกโกแลตร้อนหรือแบบผสมเครื่องเทศ ก็สามารถไปลองเมนูเครื่องดื่มหลากหลายได้ที่ Bar Ice ในวินเทอร์วันเดอร์แลนด์ ซึ่งบริการเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ และเสิร์ฟในแก้วที่แกะสลักจากน้ำแข็ง ซึ่งใครสนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยวขอแนะนำให้จองตั๋วไว้ล่วงหน้า ส่วนที่พักแนะนำโดยอโกด้ามีมากกว่า 26,000 แห่งในลอนดอนที่ https://www.agoda.com/city/london-gb.html?site=id1811392 หรือ โรงแรม Westbourne Hyde และโรงแรม Best Western Mornington Hotel ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินและบริเวณใจกลางเมือง สะดวกในการไปเที่ยวชมเมืองในเวลากลางวัน ก่อนไปเดินช้อปที่ตลาดคริสต์มาสในตอนเย็น
ดื่มด่ำกับเทศกาลคริสต์มาสสไตล์เช็กแท้ๆ ที่ตลาดคริสต์มาสจัตุรัสเมืองเก่าในปรากOld Town Square กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่สวยงามและมีชีวิตชีวาที่สุดในประเทศ ชมการเต้นรำและการแสดงศิลปะเพื่อความบันเทิงอันหลากหลาย ลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น อย่าง แฮมย่าง ไส้กรอก เค้กคริสต์มาสเช็ก และเบียร์ ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มร้อน ๆ อย่างไวน์น้ำผึ้ง เหล้าเจือจางด้วยน้ำ และช็อคโกแลตร้อน
อีกทั้งชาวเช็กนิยมนำปลาตระกูลปลาคาร์ฟมาทอดกิน เป็นเมนูพิเศษมื้อเย็นแทนการกินไก่งวงในคืนก่อนวันคริสต์มาส สำหรับที่พักแนะนำหลังจากเที่ยวรอบตลาดคริสต์มาสแล้ว สามารถเข้าพักที่โรงแรม Ventana Hotel อันอบอุ่นสบาย ถัดจากจัตุรัสเมืองเก่าเพียงไม่กี่นาที หรือเข้าพักที่โรงแรม Iron Gate Hotel & Suites Prague ที่มีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือก หรือลองดูที่พักอื่นอีกกว่า 6,000 แห่งในปรากที่อโกด้า https://www.agoda.com/city/prague-cz.html?site=id1811392
สำหรับKarlsplatz Art Advent กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หรือตลาดคริสต์มาสที่จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนชอบงานศิลปะและวัฒนธรรม เพราะที่นี่มีสินค้างานฝีมือธีมคริสต์มาสคุณภาพสูงที่ไม่เหมือนใครวางขายอยู่มากมาย โดยคนขายจะต้องผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการก่อน ถึงจะสามารถนำผลงานหรือสินค้ามาแสดงและขายที่ตลาดได้ ด้านร้านขายอาหารและเครื่องดื่มก็มีแบบออร์แกนิก เดินกินไปช้อปของไปได้ไม่เบื่อแน่นอน
ซึ่งชาวออสเตรียมีความเชื่อว่า ถ้านำกิ่งต้นเชอร์รี่ไปวางไว้ในแจกันที่ใส่น้ำในวันที่ 4 ธันวาคม แล้วมีดอกไม้บานออกมาจากกิ่งในคืนก่อนวันคริสต์มาส ครอบครัวของพวกเขาจะได้รับโชคดี โดยมีที่พักซึ่งแนะนำโดยอโกด้าที่มีมากกว่า 3,000 แห่งในเวียนนา ได้ที่ https://www.agoda.com/city/vienna-at.html?site=id1811392 หรือ โรงแรม Grand Ferdinand - Beyond Stars and Standard ใจกลางเมืองมีห้องพักแนวโมเดิร์นให้บริการ อีกทั้งยังใกล้กับตลาดคริสต์มาส ส่วนโรงแรม Schlosshotel Romischer Kaiser ให้บริการห้องพักดีไซน์หรูหรา
ทั้งนี้ คริสต์มาสเป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีผู้คนร่วมเฉลิมฉลองมากที่สุดในอเมริกา โดยเทศกาลจะเริ่มต้นด้วยช่วงเวลาช้อปปิ้ง อย่าง Black Friday ที่จะมีขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ปลายเดือนพฤศจิกายน โดย The Great Dickens Fair ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งใครที่เป็นแฟนนวนิยายของชาลส์ ดิกคินส์จะต้องหลงรักตลาดคริสต์มาสแห่งนี้ เพราะที่นี่มีการนำนวนิยายคลาสสิกเรื่อง A Christmas Carol มาเป็นธีมของงานที่ The Cow Palace โดยผู้คนจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในนิยายจริง ๆ เมื่อได้เดินรอบตลาดยามค่ำคืนอันคึกคัก ที่มีการเซ็ตฉากให้คล้ายกับลอนดอนยุควิคตอเรียในศตวรรษที่ 19 หรือลองเล่นเกมหาโอลิเวอร์ ทวิสต์ หรือพระราชินีวิกตอเรีย ท่ามกลางคนที่แต่งตัวชุดสไตล์วิกตอเรียนนับร้อยคน ก่อนจะเดินไปที่ผับอังกฤษ หรือ English pubs สั่งเครื่องดื่มสักแก้วมาคู่กับพายเนื้อและเกาลัดคั่ว แล้วค่อยไปเดินช้อปปิ้งหาซื้อของขวัญต่อก็ได้ความเพลิดเพลินไม่แพ้กัน
สำหรับคริสต์มาสหลายประเพณีกำเนิดขึ้นในยุควิคตอเรียน เช่น การส่งการ์ดคริสต์มาส การร้องเพลงคริสต์มาสแครอล การดึงแครกเกอร์คริสต์มาส และการกินไก่งวงอบ ส่วนที่พักแนะนำสามารถเลือกจองที่พักกว่า 1,000 แห่งในซานฟรานซิสโกกับอโกด้า ได้ที่ https://www.agoda.com/city/san-francisco-ca-us.html?site=id1811392 หรือถ้าใครกำลังหาที่พักแบบสงบไม่วุ่นวาย โรงแรม AC Hotel San Francisco Airport / Oyster Point Waterfront มีทั้งฟิตเนสเซ็นเตอร์ สวนกลางแจ้ง และบาร์ที่มองเห็นวิวทะเล เมื่อไปเดินเล่นตรงบริเวณหน้าอ่าว
ขณะที่ Vancouver Christmas Market เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เป็นตลาดคริสต์มาสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเยอรมันแห่งนี้ มีสินค้าหลายประเภทจากทั่วโลกให้เลือกซื้อ ทั้งสินค้าธีมคริสต์มาส งานฝีมืออันสวยงามต่าง ๆ รวมถึงอาหาร เช่นขาหมู เค้กปล่องไฟ ชีสราแคล็ตต์ ไส้กรอกบราตวัวร์สต์ เหมือนกับตลาดคริสต์มาสในยุโรป แถมในตลาดยังมีมุมเหมาะสำหรับถ่ายรูปลงอินสตาแกรมหลายมุม อย่างในต้นคริสต์มาสที่เดินเข้าไปได้ และทางเดินคู่รัก ที่คู่รักสามารถไปล็อคกุญแจด้วยกันได้
โดยเฉพาะในวันบ็อกซิ่งเดย์ ของแคนาดาคือวันที่ 26 ธันวาคม ร้านค้ามากมายจะนำสินค้าลดราคามาขาย นับเป็นงานเซลล์ยิ่งใหญ่แห่งปีสำหรับนักช้อป วันบ็อกซิ่งเดย์มีต้นกำเนิดในสหราชอาณาจักร โดยมาจากคำว่า Christmas Box ส่วนที่พักแนะนำ โรงแรม The Pinnacle Hotel Harbourfront และโรงแรม Vancouver Marriott Pinnacle Downtown เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวทั้งตลาดและเมือง สามารถมองเห็นท่าเรือ Coal (Coal Harbour) จากมุมบน หรือลงไปนั่งผ่อนคลายริมน้ำ ยังมีที่พักในแวนคูเวอร์อีกมากกว่า 1,000 แห่งบนอโกด้าhttps://www.agoda.com/city/vancouver-bc-ca.html?site=id1811392
อย่างไรก็ตาม Enchant Christmas กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศอเมริกา แม้จะไม่ใช่ตลาดคริสต์มาสแบบในยุโรป แต่ก็เป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่สว่างไสวที่สุดในอเมริกา จุดเด่นของตลาดแห่งนี้คือ เขาวงกตประดับไฟคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นการเดินผจญภัยคล้ายในเรื่องราวดั้งเดิมเรื่องหนึ่ง ส่วนรอบข้างก็มีเส้นทางสเก็ตที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ที่มีไฟ กวางเรนเดียร์ และของตกแต่งแนวคริสต์มาส
ซึ่ง ต้นคริสต์มาสแห่งชาติของอเมริกาตั้งอยู่ด้านหน้าทำเนียบขาว และจะมีต้นคริสต์มาสขนาดเล็กลงมาอีก 56 ต้น ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐ และดินแดนต่าง ๆ ของอเมริกาล้อมรอบอยู่ ส่วนที่พักแนะนำโดยอโกด้ามีที่พักถึง 900 กว่าแห่งในวอชิงตันดีซี ติดต่อได้ที่ https://www.agoda.com/city/washington-d-c-us.html?site=id1811392 หรือ โรงแรม Homewood Suites by Hilton Washington DC Capitol-Navy Yard อยู่ไม่ไกลจากสนามเบสบอล Nationals Park สถานที่จัดงาน Enchant Christmas ส่วนโรงแรม Residence Inn Washington Capitol Hill / Navy Yard มีห้องพักกว้าง เหมาะสำหรับทริปครอบครัว และยังอนุญาตให้นำสัตว์ไปเข้าพักด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฤดูกาลแห่งความสุขและการให้ของขวัญ ค่อย ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในเอเชียแปซิฟิก แต่ละประเทศก็มีสถานที่ท่องเที่ยวนำเสนอที่แตกต่างกันไป อย่าง Christmasland ในเมืองนิวไทเป ประเทศไต้หวัน เป็นตลาดคริสต์มาสขนาดใหญ่ ที่ทั้งตกแต่งสวยที่สุด และมีต้นคริสต์มาสสูงที่สุดในไต้หวัน ที่นี่มีหลากหลายกิจกรรมสนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัย อย่างเช่นเครื่องเล่น เกมคานิวัล และคอนเสิร์ต ตื่นตากับการจัดแสดงไฟ LED และการแสดงแสงสีอันงดงาม มีเพลงพื้นบ้านเล่นและการแสดงเต้นโชว์ประกอบกัน เดินทางสะดวกเพียงนั่งรถไฟใต้ดิน แล้วเดินผ่านจัตุรัส Citizens ตามแสงไฟไปที่คริสต์มาสแลนด์ มีที่พักแนะนำโดยอโกด้ามากกว่า 3,000 แห่งในไทเป
https://www.agoda.com/city/taipei-tw.html?site=id1811392 โรงแรม Hotel Cham Cham และโรงแรม Caesar Park Hotel Banqiao ซึ่งเป็นที่พักสร้างใหม่แนวโมเดิร์น อยู่ไม่ไกลจากตลาดและตัวเมืองไทเป
ส่วน German Christmas Market เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เป็นตลาดคริสต์มาสที่เปรียบเหมือนยกตลาดคริสต์มาสที่เยอรมันมาตั้งในญี่ปุ่น ตลาดนี้มีร้านค้าขายของขวัญและของที่ระลึกมากมาย รวมไปถึงร้านนาฬิกา และเวิร์กช็อปสอนทำงานฝีมือแนวคริสต์มาส ในส่วนของอาหารก็มีเมนูเยอรมัน และอาหารยุโรปประเภทอื่นให้เลือกชิม เครื่องดื่มร้อน ๆ อย่าง ไวน์ผสมเครื่องเทศ หรือช็อคโกแลตร้อน ที่ช่วยคลายหนาวได้เป็นอย่างดี
โดยสวนสาธารณะโอโดริของเมืองซัปโปโร จะมีมุมสวย ๆ เหมาะกับการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมอยู่หลายมุม พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศโรแมนติกของเทศกาลประดับไฟประจำฤดูหนาวที่ซัปโปโร (Sapporo White Illumination) ซึ่งมีไฟ และรูปปั้นหลากสีสันประดับประดาอยู่สวยงาม ตัดกับสีขาวของหิมะ ส่วนที่พักแนะนำโรงแรม Tokyu Stay Sapporo Odori และโรงแรม La’gent Stay Sapporo Odori Hokkaido ตั้งอยู่ใกล้กับตลาด แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักพร้อม หรือเลือกจองที่พักกว่า 2,000 แห่งในซัปโปโรกับอโกด้าได้ที่ https://www.agoda.com/city/sapporo-jp.html?site=id1811392
หากใครเคยนึกสงสัยว่าคริสต์มาสในประเทศเขตร้อนนั้นเป็นอย่างไร ต้องแวะมาที่คริสต์มาสวันเดอร์แลนด์ในสิงคโปร์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ อันโด่งดัง ตื่นตากับประติมากรรม และต้นคริสต์มาสที่สร้างขึ้นโดยใช้แสงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย นับถอยสู่เวลา Blizzard Time ที่จะทำให้ผู้คนสนุกไปกับหิมะ หรือจะไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งที่ตลาดก็สนุกไม่แพ้กัน ส่วนเด็ก ๆ ก็สนุกได้กับเกมคานิวัล เครื่องเล่น และถ้ำจำลองที่มีซานต้านั่งรอเด็ก ๆ ไปเยี่ยมอยู่
อีกทั้งทุกคนจะประทับใจไปกับกลิ่นอายคริสต์มาสบนถนนออร์ชาร์ด แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของสิงคโปร์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ ด้วยการนำแสงไฟระยิบระยับมาตกแต่งทั่วบริเวณ ส่วนที่พักสามารถเลือกพักในสิงคโปร์กว่า 1,000 แห่งได้ที่อโกด้า https://www.agoda.com/city/singapore-sg.html?site=id1811392หรือลองพักที่โรงแรม SO / Sofitel ที่โดดเด่นทั้งที่ตั้งและการตกแต่ง แต่ถ้าอยากพักในที่ไม่พลุกพล่าน ลองไปเช็คอินที่โรงแรม Six Senses Maxwell ที่ทั้งหรูหราและเงียบสงบ
-
