ตลาดกางเกงยีนส์กลับมาเติบโตมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักมาจากหลายแบรนด์มีการลดราคา ซึ่งผลสำรวจบอกว่าสาวชาวอเมริกันมีการซื้อกางเกงยีนส์มากขึ้น แถมเพิ่มพื้นที่ให้ตู้เสื้อผ้าเพื่อเก็บกางเกงยีนส์
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 – กุมภาพันธ์ 2019 ตลาดกางเกงยีนส์ในสหรัฐอเมริกามีความคึกคักอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มกางเกงยีนส์ของผู้หญิง
ข้อมูลจาก The NPD Group พบว่ามียอดขาย 364 ล้านตัว ส่วนใหญ่เป็นการซื้อแบบลดราคามากกว่าครึ่ง มีการเพิ่มขึ้นถึง 22 ล้านตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของตลาดโดยรวม
ในส่วนของร้านค้าปลีกนั้น กางเกงยีนส์กลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภควางแผนที่จะซื้อมากขึ้น โดยที่หลายแบรนด์มีการลดราคา รวมถึงร้านรูปแบบ Specialty Store ก็มีการจัดโปรโมชั่นตลอด พบว่ายอดขายเติบโตขึ้น 30% และดันกลุ่มกางเกงยีนส์ผู้หญิงให้โตขึ้น 17%
โดยที่ร้านค้าปลีกอย่าง American Eagle, H&M และ TopShop มียอดขายกางเกงยีนส์ผู้หญิงมากกว่า 1 ใน 3 ของยอดขายรวม และมีการเติบดต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนช่องทางออนไลน์ก็มีการเติบโตเช่นกัน พบว่าเติบโตขึ้น 32% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ในกลุ่มของกางเกงยีนส์ผู้หญิง มีข้อมูลพบว่าหญิงสาวที่ซื้อกางเกงยีนส์ผ่านออนไลน์นั้น จะมีการใช้จ่ายมากขึ้น และซื้อบ่อยขึ้น มีการใช้จ่ายสำหรับกางเกงยีนส์ต่อปีเพิ่มขึ้น 4% และมีการซื้อกางเกงยีนส์ผ่านออนไลน์เฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง
นักวิเคราะห์ได้มองว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดกางเกงยีนส์ผู้หญิงนับว่าเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมโดยรวม เพราะพฤติกรรมผู้หญิงต้องการสวมใส่อะไรที่มากกว่ากางเกงแลกกิ้ง หรือกางเกงเล่นโยคะแล้ว
แต่นักการตลาดต้องมองหาการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้ผู้บริโภค การลดราคาอาจจะไม่สร้างความยั่งยืนให้ตลาดเสมอไป ต้องสร้างความหลงใหลให้กับกางเกงยีนส์
