โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เฒ่าปืนดุ โดนกล่าวหาขโมยปลา รัวหมดแม็กหนุ่มรุ่นลูกร่างพรุน ดับ

สยามรัฐ

อัพเดต 01 เม.ย. 2563 เวลา 15.37 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 15.37 น. • สยามรัฐออนไลน์
เฒ่าปืนดุ โดนกล่าวหาขโมยปลา รัวหมดแม็กหนุ่มรุ่นลูกร่างพรุน ดับ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 63 ขณะที่ ร.ต.อ.ไพบูลย์ ไชยสิทธิ์สกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งจาก นายหาญ โคตรมณี กำนัน ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 7 ม.7 บ้านหนองหว้า ต.หนองหว้า จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนรุดออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วัฒนา มายุรส รอง ผกก.สอบสวน สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ต.สุขสันต์ สืบสหการ สว.สส.สภ.กุมภวาปี นำกำลังตำรวจสืบสวนและตำรวจป้องกันและปราบปราม รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.กุมภวาปี และอาสากู้ภัยมูลนิธิประชาธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ ตั้งอยู่ริมถนนกลางหมู่บ้านหนองหว้า พบชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนอยู่หน้าบ้านจำนวนมาก ตำรวจจึงใช้เชือกโปลิศไลน์กันแนวเขตไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา พบศพนายประสิทธิ์ วงศ์ดวง อายุ 44 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บริเวณประตูหลังบ้าน บนพื้นบ้านพบรอยเลือดหยดเป็นทาง และพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. ตกอยู่ทั่วพื้นบ้านจำนวน 8 ปลอก และหัวกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 1 นัด ตรวจสอบตามร่างกายผู้เสียชีวิต พบรูกระสุนบริเวณหน้าอก 2 นัด ชายโครงซ้าย 2 นัด ขาซ้าย 1 นัด และขาขวา 2 นัด รวมทั้งสิ้น 7 นัด ถูกยิงในระยะประชิด และกระสุนพลาดเป้า 1 นัด

สอบสวนญาติผู้เสียหายทราบว่า คนที่ก่อเหตุไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน คือนายสำราญ แน่นอุดร อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 115 ม.7 บ้านหนองหว้า ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุได้เดินถืออาวุธปืนออกมาจากซอยข้างบ้าน หลบหนีไปทางบ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่ห่างกันกับบ้านผู้ตายราว 200 เมตร โดยคนร้ายทำรองเท้าแตะสีดำ 1 ข้าง ตกอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง ทะเบียน ขขพ-909 อุดรธานี ที่คนร้ายขี่มาก่อเหตุลืมจอดทิ้งไว้หน้าบ้านผู้ตาย

ตำรวจจึงถ่ายรูปและตรวจยึดเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดบ้านที่อยู่เยื้องกันกับบ้านผู้ตาย สามารถบันทึกรูปพรรณคนร้ายได้อย่างชัดเจน และทันทีหลังทราบข้อมูลคนร้าย พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.สส.ฯ จึงนำกำลังตำรวจสืบสวนออกติดตามไล่ล่าคนร้าย พร้อมกับประสานทีมตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี นำโดย พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ อาณัติอักษร รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ร่วมสนับสนุนกำลัง เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน ถึงแม้จะมีอายุมากก็ตาม

จากการสอบสวน นางพรพรรณ อนุมาตย์ อายุ 56 ปี และนางสมบูรณ์ ฮองอ้น อายุ 65 ปี พี่สาวคนโตและคนเล็กของผู้ตาย พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะที่พวกตนนั่งอยู่หน้าบ้าน เห็นนายสำราญ คนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์สีแดงมาจอดอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับถามหาน้องชายว่ามันอยู่ไหน พร้อมกับบอกว่า น้องชายพวกตนขู่อาฆาตจะใช้มีดปาดคอ และกล่าวหาว่าคนร้ายไปขโมยปลาในตาข่ายที่น้องชายพวกตนกางดักจับปลาในลำห้วยนาขี ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านราว 1.5 กิโลเมตร ทำให้พวกตนตกใจ จึงถามคนร้ายว่าได้ยินกับหูหรือไม่ คนร้ายบอกว่ามีคนเล่าให้ฟัง และอยากมาถามว่าน้องชายพวกตนได้พูดอาฆาตเอาชีวิตของคนร้ายหรือไม่ หากน้องชายพูดจริงและมีพยานยืนยัน พวกตนก็พร้อมจะเสียค่าปรับไหมที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน

“ขณะกำลังเจรจาตกลงเรื่องราวกัน น้องชายได้เดินลงมาจากบนบ้านมายืนอยู่หน้าบันได พร้อมกับร้องบอกคนร้ายว่า “ผมไม่ได้พูดให้ร้ายแต่อย่างใด และไม่ได้ออกชื่อคนที่มาขโมยปลาในตาข่ายจับปลาแม้แต่คำเดียว” ซึ่งทันทีที่คนร้ายเห็นน้องชายได้ล้วงปืนพกออกมาจากเอว พร้อมกับพูดว่า “มึงใช่ไหมที่หาว่ากูไปขโมยปลา และจะปาดคอกู” ผู้ตายจึงวิ่งเข้าไปหลบหลังตู้ขายของ แต่คนร้ายได้วิ่งเข้าไปใช้ปืนกราดยิงน้องชายไปชุดแรก 4 นัด จนน้องชายล้มฟุบลงขณะวิ่งหนีออกไปทางประตูหลังบ้าน ก่อนที่คนร้ายจะเดินไปยิงซ้ำอย่างใจเย็นอีกจำนวน 2 นัด ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหนีกลับไปทางบ้านพักของตัวเอง”

ขณะที่นางเสน จุลม่วง อายุ 86 ปี แม่ของผู้ตาย นำรูปลูกชายสมัยบวชเป็นพระมาดู พร้อมกับเล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกชายคนเล็กจากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เสียชีวิตแล้ว 2 คน ผู้ตายเป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร และมีครอบครัวอยู่ที่ จ.นครพนม มีบุตรชายหญิง 2 คน โดยตนได้แบ่งที่ให้กับผู้ตายปลูกยางพาราจำนวน 15 ไร่ และผู้ตายจะเดินทางไปมาจากบ้านเกิดและบ้านภรรยาที่ จ.นครพนม ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ภายในบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงออกมาดูและเห็นคนร้ายไล่ยิงลูกชายตนต่อหน้าต่อตา ทำให้ตนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องขอชีวิตลูกชาย และขอให้พูดจากันดีๆ แต่ก็สายเกินไป คนร้ายก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม และไม่ยอมฟังเหตุผล แต่ก็พร้อมที่จะให้อภัยหากคนร้ายยอมมอบตัว และมาขอขมาศพลูกชาย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านคนร้าย เพื่อสอบถามญาติ พบกับ นางแดง ชมคำ อายุ 49 ปี มีศักดิ์เป็นหลานสาวคนร้าย และมีบ้านอยู่ติดกันกับบ้านคนร้าย เล่าว่า คนร้ายมีอุปนิสัยโมโหร้ายและใจดำ แม้กระทั่งญาติซึ่งเป็นพี่สาวของตน รวมทั้งญาติคนอื่นๆ ก็เคยถูกคนร้ายนำปืนออกมายิงขู่หน้าบ้าน หลังมีเรื่องแนวเขตแนวโฉนดที่ดินที่อยู่ติดกันรอบบริเวณบ้านคนร้าย รวมทั้งชาวบ้านหากมีเรื่องกับคนร้าย จะถูกข่มขู่ด้วยอาวุธปืนเช่นกัน

ส่วนสาเหตุในเรื่องยิงคนตาย ตนไม่รู้เรื่องว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะเพิ่งทราบเรื่องราวเมื่อช่วงสายของวันนี้ และหากลุงได้ดูข่าวขอให้มอบตัวกับตำรวจ เพราะโทษหนักจะได้เบาลง เพราะอายุก็มากแล้ว

ทางด้าน พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจสืบสวน สภ.กุมภวาปี และตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี ได้ออกสืบสวนจนทราบพบเห็นตัวคนร้ายที่ขณะเดินเท้าเข้าไปในเขตอำเภอหนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี และ กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี นำโดย พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี นำกำลังติดตามคนร้าย พบนายสำราญ เดินเท้าบนถนนทางขึ้นบ่อแก๊สภูฮ่อม บ่อที่ 5 ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง

ตำรวจจึงร้องตะโกนบอกขอให้คนร้ายมอบตัว แต่คนร้ายได้ยิงต่อสู้ตำรวจ จำนวน 2 นัด จึงถูกตำรวจยิงสวนกลับไป 1 นัด กระสุนถูกบริเวณช่องท้องของคนร้าย ล้มฟุบลงพื้นถนน ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวส่งโรงพยาบาลหนองแสง ก่อนจะนำตัวส่งต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในเบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมีทะเบียนอย่างถูกต้อง แต่ขอตรวจสอบว่าคนร้ายได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0