เซฟโลกแล้วยังเซฟร่าง สุขภาพดี หนีมะเร็งได้เพียงเลิกใช้ภาชนะพลาสติก

“ปีใหม่นี้จะมีสุขภาพดี” โกเฮลท์ตี้ทั้งทีจะมัวทำแต่วิธีเดิม ๆ ได้ยังไงล่ะ? นี่ปี 2019 แล้วนะ บอกลาวิธีมีสุขภาพดีแบบเบสิก แล้วมาลองอะไรใหม่ ๆ ที่เราคาดไม่ถึงกันดีกว่า ปีนี้ไม่ต้องฝืนกินคลีน ไม่ต้องโหมออกกำลังกาย เพราะแค่ลีนพลาสติกออกจากชีวิตนิด ๆ หน่อย ๆ ก็มีสุขภาพดีได้แล้ว
เปิดไฟฉายสแกนร่าง เรามีพลาสติกอยู่ในชีวิตเยอะแค่ไหน? “กินอะไรก็ได้พลาสติก” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จากการประชุมวิชาการระบบทางเดินอาหารของ United European Gastroenterology ณ กรุงเวียนนา มีรายงานว่า ค้นพบไมโครพลาสติกเจือปนอยู่ในร่างกายของมนุษย์เป็นครั้งแรก ทางนักวิจัยได้ตรวจอุจจาระของกลุ่มตัวอย่างพบว่า มีพลาสติกที่แตกต่างกันถึง 9 ชนิด ซึ่งคาดว่าอาจมาจากการกินอาหารที่บรรจุด้วยห่อพลาสติก, การดื่มน้ำจากขวดพลาสติก และการกินปลาที่อุดมไปด้วยพลาสติกในร่างกาย ทั้งนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพยังเตือนอีกว่า ในพลาสติกมี “สารก่อมะเร็ง” ชื่อว่าสารซีโนเอสโตรเจนผสมอยู่ เมื่อเรารับไมโครพลาสติกซึ่งมีอนุภาคขนาดเล็กมากเข้ามาในร่างกายแล้ว สารก่อมะเร็งนี้อาจเข้าสู่กระแสเลือด, ระบบน้ำเหลือง และตับได้
ห่วงโลกไม่เท่าห่วงเธอ 3 วิธี ลีนพลาสติกออกจากร่างสู่เส้นทางสายเฮลท์ตี้
ต่อให้กินอาหารดีแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ใส่ใจเรื่องภาชนะที่ใส่อาหาร ปณิธานสุขภาพดีก็ไม่อาจเป็นจริงได้นะ เรามีวิธีสุขภาพดีด้วยการลดการใช้ภาชนะพลาสติกมาฝาก ดังนี้
1. เลิกนำกล่องพลาสติกเข้าโมโครเวฟ เพราะมันเสี่ยงก่อโรคมะเร็งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า การกินอาหารที่โดนรังสีจากไมโครเวฟบ่อย ๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คลื่นไมโครเวฟที่ทำให้อาหารเกิดความร้อนนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาหารหรือก่อให้เกิดสารตกค้าง แต่ภาชนะพลาสติกที่เรามักนำเข้าเวฟนั่นแหละ คือ ตัวก่อการร้ายในร่างกายของเรา
ภาชนะพลาสติกส่วนใหญ่ ทั้งจาน ถ้วย กล่องโฟม และช้อนส้อม มักผลิตจากพอลิสไตรีน ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับความร้อนมากนัก โดยทนต่ออุณหภูมิได้ไม่เกิน -20 ถึง 80 องศาเซลเซียส
หากเราเอาแต่รักสบาย มัวแต่คิดว่า ใช้แค่ครั้งเดียว กินแล้วทิ้ง เวฟด้วยจานพลาสติกคงไม่เป็นไร ก็ขอให้คิดใหม่ด่วน ๆ เพราะเมื่อมันโดนความร้อน สารเคมีที่ชื่อสไตรีนจะละลายออกมาและเจือปนลงไปในอาหาร โดยเจ้าสไตรีนจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนต่าง ๆ ทำให้มีอาการง่วงซึม อ่อนเพลีย และก่อให้เกิดโรคมะเร็ง แถมยังทำให้ร่างกายของเรามีเปอร์เซ็นต์ของพลาสติกสะสมมากขึ้นด้วย 
2.ไม่กินอาหารที่คลุมด้วยฟิล์มพลาสติก แม้จะดูสดใหม่และยังไม่หมดอายุ เพราะเสี่ยงก่ออาการพิษเรื้อรังสมัยนี้ร้านขายอาหารมักห่อหุ้มคลุมวัตถุดิบด้วยฟิล์มพลาสติกใส เพราะมันช่างดูสะอาดสะอ้าน เห็นอาหารได้ชัด และยังกันฝุ่นเข้าไปได้อีก แต่รู้อะไรไหม ฝุ่นจากภายนอกยังไม่น่ากลัวเท่าเจ้าฟิล์มพลาสติกที่เห็นใส ๆ แต่ร้ายไม่เบาอันนี้เลย ฟิล์มพลาสติกคลุมอาหาร หรือ Plastic Wrap ทำมาจากพอลิไวนิลคลอไรด์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ PVC ซึ่งเป็นพลาสติกที่อันตรายที่สุดในโลกและเป็นพิษทุกขั้นตอนในวงจรชีวิต ตั้งแต่ผลิต ใช้งาน ยันทำลายทิ้ง ในฟิล์มพลาสติกจะมีสารเติมแต่งเพื่อปรับปรุงคุณภาพ PVC อย่างสารพลาสติไซเซอร์ สารพาทาเลต และสารแต่งสีซึ่งมีตะกั่วและแคดเมียมผสมอยู่ หากใช้คลุมอาหาร สารอันตรายเหล่านี้สามารถแพร่กระจายออกมาจาก PVC และปนเปื้อนในอาหารได้ โดยเฉพาะหากสัมผัสกับอาหารมัน ๆ สารพิษจะยิ่งละลายได้ดี แม้สารพิษที่ได้จาก PVC จะไม่ออกฤทธิ์ทันที แต่หากได้รับอย่างต่อเนื่องร่างกายจะเป็นพิษเรื้อรัง โดยมีอาการเลือดออกในปอด ตับโต และนำไปสู่โรคมะเร็งในที่สุด
3.เปลี่ยนมาใช้ขวดแก้ว หรือกระติกน้ำสแตนเลส แทนการดื่มน้ำจากขวดพลาสติกน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกใสกิ๊งที่เราคิดว่าสะอาดอาจมีสิ่งแปลกปลอมที่เราคาดไม่ถึงซ่อนอยู่ ออร์บ มีเดียรายงานว่า พบไมโครพลาสติกในน้ำดื่มบรรจุขวดถึง 93% ของกลุ่มตัวอย่างจากหลายแบรนด์ดังในท้องตลาด  แม้ตอนนี้ยังไม่มีวิจัยชี้ชัดว่า ร่างกายต้องมีจำนวนไมโครพลาสติกเท่าใดถึงจะส่งผลร้าย แต่ถ้าเลี่ยงได้ เราก็ควรเลี่ยงการดื่มน้ำบรรจุขวดพลาสติกนะ หากไมโครพลาสติกหลุดเข้าสู่ร่างกายแล้ว เราไม่สามารถขับมันออกไปได้ เนื่องจากพลาสติกไม่สามารถย่อยสลายได้นั่นเอง  เพื่อไม่เป็นการสะสมพลาสติกในร่างกายอีก เราอาจลองเปลี่ยนมาใช้เครื่องกรองน้ำ โดยกรอกน้ำใส่ขวดหรือกระติกน้ำที่ทำจากสแตนเลสแทนการซื้อน้ำบรรจุขวดดื่มทุกวัน นอกจากจะปลอดภัยจากไมโครพลาสติก ยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะอีกด้วย

แค่เปลี่ยนการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน แค่ลองทำในสิ่งที่เราอาจคิดว่ามันก็ไม่ได้สำคัญหรือน่าสนใจขนาดนั้น แค่ลดการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน “แค่นี้แหละ” ก็สามารถมีชีวิตเฮลท์ตี้รับปีหมู แบบ Save ทั้งโลก และ Save ทั้งสุขภาพของตัวเราเองให้ห่างไกลจากพิษร้ายของพลาสติกได้แล้ว 

เพิ่มช่องทางการรับข่าวสารและข้อมูลดี ๆ ผ่าน Line Official AZAYfan ที่จะช่วยทำให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ได้ที่