เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมาเตะกันแล้วในสัปดาห์นี้และคู่ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดก็คงไม่พ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีคิวดวลกับ ยูเวนตุส
สำหรับสถานการณ์ของทั้งคู่ในกลุ่ม เอช แมนฯ ยูไนเต็ด มี 4 คะแนนจาก 2 นัด ส่วน ยูเวนตุส มี 6 แต้มเต็ม วันนี้ทั้งคู่จะมาแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกันซึ่งผลจะเป็นอย่างไรนั้นก็คงต้องรอวันพรุ่งนี้ แต่ก่อนอื่นตอนนี้ทาง 'ขอบสนาม' จัดมาให้แล้วกับสาระต่างๆ ที่น่าสนใจก่อนเกม
เฮดทูเฮด
นี่เป็นการเจอครั้งแรกของทั้งคู่ในรอบ 15 ปีหรือย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2002-03 ซึ่งเกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่มและผลปรากฏว่าเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะได้ทั้ง 2 นั้นเหย้า-เยือน โดยที่ แมนเชสเตอร์ ชนะ 2-1 ส่วนที่ ตูริน ชนะ 3-0 แต่ท้ายที่สุดแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ไปถึงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้นเพราะแพ้ เรอัล มาดริด ไปด้วยสกอร์รวม 5-6 ขณะที่ ยูเวนตุส ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ทว่าก็ไปไม่ถึงฝันหลังจากดวลจุดโทษแพ้ เอซี มิลาน
เช่นเดียวกับปี 1999 ที่ แมนฯ ยูไนเจ็ด เป็น ทริปเปิ้ลแชมป์ พวกเขาก็เอาชนะ ยูเวนตุส ได้ด้วยสกอร์รวม 4-3 ในรอบรองชนะเลิซ ก่อนเข้าไปสร้างตำนานพลิกแซงชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบ็ดเสร็จการเจอกันของทั้งคู่ 12 นัดเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 5 ยูเวนตุส ชนะ 5 เสมอ 2 นัด และเป็นการเจอกันในรายการของ ยูฟ่า ทั้งหมด
สถิติการพบกันระหว่างประเท
5 เกมหลังสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจอกับทีมจาก อิตาลี ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาชนะได้ทุกนัด โดยเกมที่ชนะถล่มทลายที่สุดคือการยำใหญ่ เอซี มิลาน 4-0 ในเลก 2 ของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซีซั่น 2009-10 เบ็ดเสร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ให้ทีมจาก อิตาลี เลย ตลอด 8 เกมหลังสุดรวมเหย้า-เยือน โดยแบ่งเป็นชนะ 6 เสมอ 2 ส่วนทางฝั่ง ยูเวนตุส ก็ไม่เบาเพราะ 8 เกมหลังสุดที่จะประชันแข้งกับทีมจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พวกเขาก็ไม่แพ้เลยเช่นกัน โดยแบ่งเป็นชนะ 4 เสมอ 4
ความสัมพันธ์กับคู่แข่ง
นี่จะเป็นการกลับคืนสู่บ้านหลังเก่าอีกครั้งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังจากเคยค้าแข้งในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาก่อนช่วงปี 2003-09 และพี่แกก็คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่พา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2008 ส่วนผลงานกับทัพ 'ปีศาจแดง' เคยลงเล่นมาทั้งหมด 292 เกม ยิงได้ 118 ประตู คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ สโมสรโลก อย่างละ 1 สมัย
ขณะที่ ปอล ป็อกบา ก็เคยเป็นผู้เล่นของ ยูเวนตุส มาก่อนหลังได้ย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 ได้ลงเล่น 178 นัด ยิงได้ 34 ประตูตลอด 4 ฤดูกาล คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัยติด และไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2015 แต่สุดท้ายก็แพ้ บาร์เซโลน่า
ด้าน โชเซ่ มูรินโญ่ เคยทำงานใน อิตาลี มาก่อนกับ อินเตอร์ มิลาน ช่วงปี 2008-10 และสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ด้วยในปี 2010 (ปีนั้นเป็น ทริปเปิ้ลแชมป์) และก็เคยเป็นเจ้านายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ซามี่ เคดิร่า ที่ เรอัล มาดริด ช่วงปี 2010-13 รวมถึง ฮวน กวาดราโด้ ด้วยที่ เชลซี ในปี 2015
สถิติรอบแบ่งกลุ่ม
ก็ไม่แปลกที่ ยูเวนตุส จะเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอช ณ เวลานี้ เพราะสถิติที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่มจัดว่าแจ่มเลยทีเดียว โดยพวกเขาแพ้แค่ 2 นัดเท่านั้นจาก 23 เกมหลังสุดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แบ่งเป็นชนะ 14 เสมอ 7 ส่วน 2 นัดที่พ่ายแพ้นั้นเป็นการเจอกับทีมจาก สเปน ทั้งหมด
ส่วนทาง แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาชนะทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (นับเฉพาะการเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด) ก่อนจะไปแพ้ เซบีย่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่ปีนี้เกมนัดแรกที่บ้านของตัวเอง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แค่เสมอกับ บาเลนเซีย 0-0
