เมื่อวันที่ 17 ก.ค. พ.ต.ท.สมบัติ ผิวผ่อง สารวัตร(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ในบ่อน้ำร้างภายในที่ดินว่างเปล่าหมู่ 1 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ ห่างจากที่ทำการผู้ใหญ่บ้านประมาณ 100 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบที่ก้นบ่อน้ำพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ คาดว่าเสียชีวิตมานานแล้ว สอบสวน น.ส.รุ่งนภา บาลศิริ อายุ 28 ปี ให้การว่า ตนกับแฟนได้เข้าไปขุดมันสำปะหลังในที่ดินดังกล่าวเมื่อเดินไปดูที่บ่อน้ำก็พบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ที่ก้นบ่อ จึงรีบไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนเศษ ตนและเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าแต่ไม่คิดว่าเป็นกลิ่นศพ คิดว่าเป็นซากสุนัขหรือแมวตายจึงไม่มีใครสนใจ จากนั้น 1 สัปดาห์กลิ่นก็หมดไป และที่น่าขนหัวลุกคือช่วง 2 สัปดาห์ก่อนมาเจอโครงกระดูก แฟนของตนเห็นเงาตะคุ่มๆ ตอนกลางคืน และมีเสียงคล้ายเสียงฝีเท้าของคนเดินภายในบ้านหลายครั้งจนทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตนปันใจนัดหมายให้ผู้ชายมาหาที่บ้าน สุดท้ายต้องไปหาพระเป็นที่พึ่งสาบานความบริสุทธิ์ใจและผูกแขนเพื่อความเป็นสิริมงคลให้
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบโครงกระดูกดังกล่าวอยู่นั้น ได้มีสองแม่ลูกชาวบ้านหมู่ 2 ต.สระคู เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา สามีของตนซึ่งป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและมีอาการจิตหลอนได้หนีออกจากบ้านไปจนถึงวันนี้ยังไม่กลับมาบ้านจึงสงสัยว่าโครงกระดูกที่พบจะเป็นสามีของตนหรือไม่ ด้านพนักงานสอบสวนจึงได้ส่งชิ้นส่วนโครงกระดูกไปพิสูจน์ทางการแพทย์พร้อมกับให้เด็กหญิงที่สงสัยว่าเป็นพ่อของตนเองไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
