โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

"เชฟโรเลต แคปติวา" เกิดใหม่แต่ไม่เหมือนเดิม

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 22 ก.ย 2562 เวลา 04.30 น.

 

เชฟโรเลต ตัดสินใจกลับมาทำตลาดเอสยูวีในไทยอีกครั้ง และคราวนี้เป็นการนำเข้ามาจากโรงงานผลิตของบริษัทร่วมทุน SGMW  (เซียงไฮ้ออโตโมทีฟ,จีเอ็ม และวู่หลิง) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรถโมเดลนี้ทำตลาดในหลายยี่ห้อ ชื่อรุ่นก็ต่างไปในแต่ละประเทศ แต่ในเมืองไทยเชื่อว่าชื่อ “แคปติวา” ยังพอขายได้และไม่ต้องไปปวดหัวกับการสร้างชื่อใหม่

…เรียกง่ายๆว่ารุ่นใหม่ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับโมเดลเดิมเลย และเป็นการนำรถที่พัฒนาโดยบริษัทร่วมทุนกับบริษัทจีน (แคปติวาเดิม ร่วมกับ แดวู ของเกาหลีใต้) มาแปะป้ายเชฟโรเลตแล้วขาย

ความน่าสนใจของ “แคปติวา ใหม่” คือขนาดตัวถังที่ใหญ่ หรือเทียบความยาว ความสูง และระยะฐานล้อมากกว่า ฮอนด้า ซีอาร์-วี และมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 แต่วางเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ ดังนั้นราคาจะเสียบอยู่ตรงกลางระหว่างเอสยูวีระดับซีเซ็กเมนต์ กับ บีเซ็กเมนต์(โตโยต้า ซี-เอชอาร์,ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นต้น) โดยรุ่น LS ราคา 999,000 บาท LT 1,099,000 บาท และรุ่นท็อป Premier ราคา 1,199,000 บาท (2 รุ่นหลังเป็น 7 ที่นั่ง)

นอกจากคู่แข่งที่อยู่ในตลาดที่ล้วนเป็นแบรนด์แข็งโป๊กทั้งนั้น การกลับมาของ “แคปติวา ใหม่” ยังต้องเจอกับแบรนด์ในระดับใกล้เคียงกันอย่าง“เอ็มจี” ที่มีรุ่น แซดแอส ขายดีในกลุ่ม บี-เอสยูวี และเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ เอชเอส (HS) ที่จะเข้ามาทำตลาดแทน จีเอส(GS) ช่วงปลายเดือนนี้

ผมเชื่อว่า เอ็มจี เอชเอส ที่ตัวถังเล็กกว่านิดหน่อย วางเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ พิกัดเดียวกัน แต่แรงม้ามากกว่าคือ 160-170 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด ราคาอยู่ระดับเดียวกับแคปติวา นี่ละครับ ตัวเริ่มต้นอาจจะกว่า 9 แสนบาท ส่วนตัวท็อปผมว่าอยู่แถวๆ 1.1 ล้านบาท

ทั้งนี้ “เอ็มจี” เมื่อไล่ดูธุรกิจขึ้นไป บริษัทแม่ก็คือ “เซี่ยงไฮ้ออโตโมทีฟ” SAIC ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ที่ จีเอ็มเป็นพันธมิตรอยู่ แล้วดึงโปรดักต์ตัวนี้มาขายในไทยงานนี้เลยกลายเป็นศึกสายเลือดระหว่างเอสยูวีสายพันธุ์จีนที่มาเปิดตัวชนกันเต็มๆในตลาดไทย

แคปติวาใหม่ มากับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว แต่ทรงรวมๆดูยาว แคบ สูง ประกบล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ผมดูว่ารถใหญ่แต่รองเท้าเล็กไปนิด ซึ่งเชฟโรเลต ยืนยันว่าเป็นเรื่องต้นทุนอย่างหนึ่งที่ต้องควบคุม(เอ็มจี เอชเอส ตัวท็อปใช้ล้อ 18 นิ้ว)

ตัวท็อปราคาไม่ถึง 1.2 ล้านบาท ได้ของเล่นมาเต็มๆทั้ง หลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ไฟหน้าโปรเจ็กต์เตอร์แบบLED พร้อมหน่วงเวลาปิด กระจกมองข้างพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) กล้อง 360 องศา เบรกมือไฟฟ้า พวงมาลัยหุ้มหนัง ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร และไฟอ่านแผนที่ พร้อมช่องเก็บแว่นตาแบบ LED ด้านเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แผงหน้าปัด DIC มัลติฟังก์ชัน 7 นิ้วแบบ Full TFT เซ็นเซอร์ช่วยจอดด้านหน้า ตลอดจนระบบเสียง Infinity by HARMAN ลำโพง 9 ตัว รวมซับวูฟเฟอร์ (4 speakers, 4 twitters, 1 subwoofer)

วัสดุและงานประกอบของแคปติวาใหม่ อยู่ในเกรดเดียวกับพวก ซี-เอสยูวีแบรนด์ญี่ปุ่น พร้อมฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการใช้งานจัดมาแบบไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เช่น ช่องเชื่อมต่อ USB 4 จุด(ด้านหน้า2 จุดและหลัง 2 จุด) การนั่งเป็นผู้โดยสารแถว 2 พื้นที่เหลือเพียบ ยืดแข้งขาได้สบาย เบาะพิงสามารถปรับเอนไปด้านหลังได้มากองศาแบบเตียงผ้าใบชายหาด ขณะที่รถหลังคาสูงเข้าออกสะดวก ลุกนั่งสบาย

ด้วยโครางสร้างของรถแบบ แคบ ยาว สูง และช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมกเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง ถ้าเป็นผู้ขับรู้สึกว่ารถจะเซตมานุ่ม และมีอาการโยกคลอนเยอะเมื่อใช้ความเร็วสูง แต่เมื่อนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง (แถว2) กลับรู้สึกว่ารองรับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี อาการที่หงุดหงิดจากการเป็นผู้ขับ พอเปลี่ยนมานั่งเป็นผู้โดยสาร กลายเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชม

ตรงนี้สะท้อนว่าใครซื้อใช้เป็นรถครอบครัวน่าจะเหมาะสม โดยจัดให้ผู้อาวุโสนั่งด้านหลัง ส่วนลูกๆให้นั่งแถว 3 ไป (ซึ่งเป็นมุมส่วนตัวที่เด็กๆจะชอบมาก) สบายตัวกันทุกตำแหน่ง

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางอเนกประสงค์ ผมว่าเดินทาง 3-4 คนกำลังดี ส่วนเบาะนั่งแถว 3 เอาไว้เก็บสัมภาระ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องอัดกันไป 7 คน เบาะหลังสุดยังมีพื้นที่ให้นั่งได้จริงหรือไม่ลำบากขนาด “หลังชัน เข่างอ” เพียงแต่คุณนั่งกันมาเต็มลำขนาดนี้ กลัวว่ารถจะอืดมากๆ

อัตราเร่งของ แคปติวา ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ในการทดสอบที่ผมนั่งกันไป 2 คน การตอบสนองยังค่อนข้างอืด อัตราเร่งมาไม่ทันใจ ขณะที่ระบบเกียร์ ไม่ได้ส่งเสริมให้การถ่ายทอดกำลังของเครื่องยนต์ลงสู่ล้อหน้าได้เนียนเท่าไหร่นัก (ขนาดทดอัตราเฟืองท้ายไว้ถึง 5.511)

หากคุณเร่งแรงๆ ต้องการบี้ความเร็วหนักๆ ยังต้องแลกด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่หวีดดัง ราวกับมันจะร้องว่า “เจ้านายอย่าขยี้ผมมากนักเลย” ส่วนพวงมาลัย และแป้นคันเร่งนํ้าหนักค่อนข้างเบา พร้อมสัมผัสแปลกๆของแป้นเบรก ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับระยะชะลอหยุดพอสมควร

เชฟโรเลต แคปติวา ปล่อยไอเสียระดับ 198 กรัม/กม.ไม่รองรับนํ้ามันแก๊สโซฮอล์ E85 จึงเสียภาษีสรรพสามิตเต็มๆ 30% ขณะที่อัตราบริโภคนํ้ามัน ผมลองวัดจากช่วงรถติดในกรุงเทพฯตอนเช้า ขึ้นทางด่วนไปลงพระราม 2 จนสุดที่แยกวังมะนาว จังหวัดเพชรบุรี ระยะทางประมาณ 100 กม. ตัวเลขที่หน้าปัดแสดงผลไว้ 11.6 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ…กลับมาเกิดใหม่ แต่คราวนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิม สมรรถนะไม่โดดเด่น ด้วยโครงสร้างของรถและความอ่อนแอของขุมพลัง แต่ใครชอบรถใหญ่ๆ ขับนุ่มๆ นั่งสบาย พื้นที่ภายในกว้างขวางออพชันดี การออกแบบสวยงาม ตอนนี้มี “เชฟโรเลต แคปติวา” มาเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกแล้วละครับ 

คอลัมน์ เทสต์ไดร์ฟ

โดย : กรกิต กสิคุณ

 

หน้า 28-29  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,507 วันที่ 22 - 25 กันยายน พ.ศ. 2562

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0