ไม่คาดว่าจะกลายเป็นดราม่าได้สำหรับภาพแม่ลูก ปิ่น เกตุมณี และลูกชายเจ้านายกอดกัน ขณะไปออกทริปพักร้อนที่ทะเล ซึ่งเรื่องนี้ด้านคุณพ่อเจ เจตริน ก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของบ้าน ที่มีรูปแบบการเลี้ยงดูลูกแบบสนิทสนม
เป็นเพราะความสนิมสนมของครอบครัว หรือมุมมองของผู้เสพข่าวกันแน่ ก็ไม่ทราบทำให้ภาพ ที่คุณแม่ยังสวยปิ่น เกตุมณี ที่กอดลูกชายน้องเจ้านาย ขณะที่เที่ยวพักผ่อนกลางทะเล กลายเป็นดราม่า ไม่เหมาะสมไปจนได้
ซึ่งเรื่องนี้พ่อเจ เจตริน เปิดเผยว่า เพิ่งเห็นเมื่อเหมือนกัน แต่ตนเองเห็นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติของครอบครัว เพราะที่บ้านก็จะแสดงความรักด้วยการกอด หอมกันอยู่แล้ว ส่วนตัวก็มีงง บ้างที่แม่ลูกกอดกันกลายเป็นดราม่า แต่จะว่าไปก็เข้าใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกยุคนี้ให้ได้ก็พอ
"บทสัมภาษณ์"
ถามถึงดราม่าพี่ปิ่นนอนกอดน้องเจ้าขุน ?
"เพิ่งเห็นเมื่อเช้า มาถึงตรงนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรนะ มันก็เป็นเรื่องปกตินะ พี่มองในมุมนี้ว่าแต่ละครอบครัวเขาก็ให้การอบอรมหรือการเลี้ยงดูลูกแตกต่างกันไป ทุกคนก็จะดูแลแบบโน้นดูแลแบบนี้ ที่สำคัญพื้นฐานของการดูแลลูกก็คือความรัก เป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก" "คราวนี้ความรักทุกคนมันก็มีหลายแบบ แต่บ้านเรานอกจากการเลี้ยงดูเอาใจใส่และความรักที่มีให้กับลูกแล้ว ก็มีเรื่องของความสนิทสนม บ้านเราจะเป็นบ้านที่ผม ปิ่น เจ้านาย เจ้าขุน เจ้าสมุทร จะกอดกัน หอมกันจะเป็นแบบนี้ เราก็คุยกับปิ่นและลูก ว่าพวกฉัน พ่อแม่ จะกอดพวกเธอไปจนเธอแก่ เอาแบบนี้ดีกว่าไม่ว่าจะโตแค่ไหนจะเป็นหนุ่ม ปกติแล้วจะมีช่วงวัยที่เด็กหนุ่มโตแล้วเริ่มจะห่างพ่อแม่ แต่นี่ไม่ได้ ปิ่นเขารักลูก เขาก็จะเป็นแบบนี้เขาก็กอดก็หอมปกติ"
กับดราม่าที่เกิดขึ้นพี่ปิ่นว่าอย่างไรบ้าง ?
"ไม่เลย คือไม่ได้เรียกว่าชาชินนะ แต่มันเป็นเรื่องอะไรที่ต้องยอมรับในกระแสโซเชียล เพราะมันก็จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบก็ว่ากันไป แต่ในมุมของเรา เราไม่ได้คิดอะไร เราก็ใช้ชีวิตของเราปกติ เพราะนั่นคือชีวิตของเราปกติ อย่างวันนั้นในรูปปิ่นเขารวมตัวกับบรรดาเพื่อนสนิท บรรดาแม่ๆ ออกไปเที่ยวเกาะกัน นั่งเรือยอร์ชไป มีตัวเขา มีลูกแต่ละบ้านไป อันนี้ก็เป็นเพื่อนเขาถ่าย ก็ธรรมดา ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่เราต้องอึดอัดอะไร"
เรางงไหมแม่ลูกแต่กลายเป็นดราม่า?
"(หัวเราะ) ก็นิดหน่อยนะ ก็รู้สึกว่าแม่ลูกกอดกัน มันเป็นสิ่งที่น่ารัก แล้วการไปเที่ยวทะเลมันก็ต้องใส่ชุดกางเกงว่ายน้ำ ผมออกจะปลื้มว่าปิ่นถ่ายรูปมาสวยมาก เพระเขาออกกำลังกายเยอะ หุ่นเขายังเซี๊ยะอยู่ ผมก็รู้สึกว่าแม่ลูกเขากอดกัน หอมกัน ผมก็โอเค ไม่ได้รู้สึกอะไร "
ไม่ได้ไปโฟกัสผิดจุด ?
"ผมว่าความคิด ผมเคารพความคิดของแต่ละคน อยู่ที่เจตนาดีกว่า ดูเจตนาว่าใครจะดราม่าไม่ดราม่า ในอินสตาแกรมผมก็ไม่ได้มีใครว่าอะไร หรือดราม่า มาสนุกสนานชื่นชมกัน เพราะเขาก็รู้ไลฟ์สไตล์ของเรา ส่วนตรงไหนที่จะดราม่าผมก็ไปห้ามเขาไม่ได้ อันนั้นก็แล้วแต่ทัศนคติและมุมมองของแต่ละคน เราก็ไปว่าเขาไม่ได้ แต่ทางบ้านผมก็ยืนยันว่ามันเป็นการแสดงออกความรักของเรา มันเป็นเรื่องของการโพสต์อินสตาแกรม อยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น"
อีกมุมหนึ่งก็เป็นแคปชั่นที่ดูหวานของเรา ?
"ใช่ ก็คืออินสตาแกรมของผมเป็นอินสตาแกรมที่ค่อนข้างเอนเตอร์เทรนอยู่แล้ว คือสร้างความสนุกสนาน มีขำ ให้คนได้ผ่อนคลายกันไป ผมลงผมก็มั่นใจว่าแฟนๆ น้องเจ้าขุน หรือบรรดาแฟนลูกๆ เขาจะอิจฉาแม่ปิ่น แต่มุมเรา เราอิจฉาเจ้าขุน ช่วงหลังแม่ปิ่น เวลาลูกนานๆ ปิดเทอมมาที ก็ไปดูแลลูก กอดลูก ก็ลืมกอดเราไปแล้ว"
น้อยใจภรรยา?
"ไม่หรอก ก็เบาๆ ก็เข้าใจเขา เพราะลูกเราไปเรียนเมืองนอกกันหมดนะ นานๆ กลับมาที ช่วงนี้เขามาเดือนเดียว ก็ต้องกอดต้องหอมให้เต็มที่ อย่างเจ้าขุน เจ้านาย เวลานั่งทานข้าง ผมเสร็จกลับมาจากคอนเสิร์ตตอนดึกๆ เหลือสองคน บางทีเจ้านายจะไปนอน ผมยังบอกให้มากอดทีดิ อะไรแบบนี้ กอดที หอมมัน มันก็จะแบบนิดหนึ่ง แต่กับแม่ลูกผมว่าเต็มที่เถอะ เนี่ยโชคดี เพราะว่าลูกเขาโตแล้ว ช่วงวัยนี้กอดเขาได้ก็กอดเถอะครับ ฝากถึงพ่อแม่หลายๆ คน กอดได้กอด หอมได้หอม อย่าไปทิ้งช่วงห่างเลย มีความสุข กอดได้ยันเขาเป็นหนุ่ม จนเขาแต่งงาน จนเขามีลูกก็กอดเขาไปแบบนี้"
เบื่อไหมมีกระแสดราม่าในโซเชียลเรื่อยๆ ?
"ผมว่าเราต้องยอมรับ และอยู่กับมันให้ได้ ไม่ใช่ไปหนีมัน เพระยังไงก็ต้องอยู่ร่วมกัน น้องๆ สื่อมวลชนกับพี่เจก็ต้องอยู่ร่วมกัน บางทีเราใช้โซเชียลในการพีอาร์ข่าวเรา เราก็ต้องอยู่ร่วมกัน ก็ต้องมีสิ่งดีไม่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจและจุดยืนของเรา คือเราก็เป็นคนดีของเรา เราต้องทำจุดยืนของเราให้ดี ครอบครัวของเรา เราไม่ได้จะดราม่าอะไรตลอดจนเราต้องรู้สึกท้อแท้ เกิดขึ้นทุกวัน หรือต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็ต้องอยู่กับมัน ที่สำคัญคอยซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน อย่างดาราคนอื่นโดนดราม่าเราก็คอยช่วยซัพพอร์ต เราก็ต้องสตรอง"
