เจ้านายแบบนี้ อย่ามีจะดีกว่า

เรื่องนี้ Based on a true story ค่ะ 

ในการทำงาน ไม่ว่าจะที่ไหนๆ มันก็ต้องมีลำดับชั้น มีเจ้านายมีลูกน้อง ในการบังคับบัญชาใช่ไหมคะ อย่ามาปฏิเสธนะคะว่าที่ทำงานของคุณทุกคนเท่าเทียมกันทั้งเงินเดือน และตำแหน่งหน้าที่ มันไม่มีอยู่จริงหรอกค่ะ ไม่เชื่อลองถามพี่ผู้ชายบางท่านที่แผนกของคุณดูสิคะ หลายคนขนาดอยู่ที่บ้านแท้ๆ ยังต้องมีสายบังคับบัญชา รายงานตรงไปยังเมียเลยค่ะ ดังนั้น เราหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ที่จะมี ‘เจ้านาย’

บางคนโชคดี เจอเจ้านายดี อุ้มชู ดูแล ก็ดีไปนะคะ แต่บางทีมันก็จะมีความซวยบังเกิดขึ้นได้ เช่น พอเราย้ายงาน ย้ายไปอยู่แผนกใหม่ ไปเจอนายใหม่ แล้วเจ้านายดันมีกลิ่นปาก แถมยังชอบพูดมากจนน้ำลายมารวมตัวกันที่มุมปากทั้งสองข้าง เป็นฟองสีขาวสวยงาม จนเราคิดว่าเจ้านายของเรากำลังก่อหวอดแบบปลากัด หรือบางคนเจอนายขาวีน เสียงดัง จนเราแอบคิดว่านางน่าจะไปบริหารงานที่บริษัทผลิตแตรรถยนต์จะเหมาะกว่า

แต่เชื่อสิคะ นั่นยังไม่ร้ายเท่าเรื่องที่นีย์อยากจะเล่าดังต่อไปนี้ค่ะ รับรอง เพราะถ้าคุณเจอเจ้านายแบบนี้  คุณอาจจะรักเจ้านายที่ปากเหม็น หรือขี้วีนไปเลยก็ได้

เจ้านายที่อะไรๆ ก็ด่วน

แหม่ บางทีนีย์ก็อยากจะถามเหมือนกันนะคะว่า ที่บ้านทำธุรกิจรถไฟชินคันเซ็นหรือไง อะไรๆ มันถึงได้ด่วนไปหมด เช่น “น้องนีย์คะ ช่วยทำรายงานอันนี้ให้พี่หน่อยนะคะ สรุปมาสัก 6-7 หน้า ทำสองเวอร์ชั่นทั้ง ไทย และอังกฤษเลยนะคะ”

“พี่ชีต้าร์จะเอาวันไหนคะ (ชื่อนางยังเป็นสัตว์ที่รวดเร็วเลยอ่ะค่ะ)”

“อีก 30 นาที พี่มารับนะคะ พรินต์เอาไว้เลย พอดีงานด่วนต้องเอาตอนนี้ อย่าทำพลาดนะคะ เพราะต้องส่ง CEO”

ในใจนีย์ตอนนั้น คือ @#$#@%%^^$#^&&%$**YGR$ เลยอ่ะค่ะ อยากถอดส้นสูงแล้วปีนขึ้นไปบนโต๊ะและเตะเข้าที่กกหูของนาง และตะโกนใส่หน้านางว่า “ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นงานด่วน คือ มันต้องเคยเป็นงานไม่ด่วนมาก่อนใช่ไหมคะ แล้วอะไรทำให้พี่ อมงานนี้เอาไว้จนมันด่วน แล้วหวยมาออกที่นีย์คะ”

แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะตอนนั้นนีย์ยังไม่ผ่านโปร เลยได้แต่แก้แค้นด้วยการพิมพ์คำหยาบคายและความในใจแทรกลงไปในเนื้อความเป็นช่วงๆ เพื่อให้ CEO ได้อ่าน (นีย์มั่นใจค่ะว่า นางไม่ได้ตรวจก่อนส่งหรอก เพราะอะไรๆ ก็ด่วน นีย์เลยสนองคุณให้นางไป) เช่น “This sales report from sales department aims to provide the management team who is bald and short and ugly like hell with recent performance in first quarter of 2019.” นี่ล่ะค่ะ ตัวอย่างของการแก้แค้น

เจ้านายที่มีคนโปรดอย่างออกนอกหน้า

เข้าใจนะคะ บางคนมาเจอกันในที่ทำงาน ถูกชะตากัน เอ็นดูกัน มันเรื่องปกติมนุษย์ค่ะ แต่มันก็มีเจ้านายบางพวกที่อวยกันจนนีย์เผลออาเจียนเอาข้าวกลางวันออกมาหมดเลย ตอนที่พวกนางอวยกัน นีย์พยายามมองหน้าสบตากันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ว่าคนอื่นรู้สึกขนลุกเหมือนเรามั้ย แต่ทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาราวกับเพิ่งโดนตำรวจจับคดีค้ายาเสพติด และกำลังโดนถ่ายรูปออกสื่อ 

เอาจริงๆ ทุกคนก็คิดเหมือนนีย์ค่ะ แต่ไม่อยากพูด เพราะกลัวซวย 

แต่บางทีมันก็เยอะไปไหมคะ เช่น เจ้านายกินข้าวแต่กับลูกน้องคนนี้ บางทีก็เรียกเข้าห้องบ่อยมาก บางรายโทรหาบ่อยมาก ชื่นชมออกสื่อบ่อยมาก อย่างเช่น…

“สมศักดิ์นี่เขาดีมากเลยนะคะ ทำงานเกินความคาดหมายพี่ไปมากๆ จริงๆ ไม่นึกเลยว่า นอกจากน้องจะมีกล้ามล่ำสันแล้ว ยังทำงานเก่งถูกใจพี่ขนาดนี้ ปีนี้คงต้องโปรโมต 6 ขั้น ไปเลยตามจำนวน Six-pack”

“6 ขั้นนี่ คงโปรโมตเป็นระดับพ่อ CEO แล้วมั้งคะ ว่าแต่ความล่ำนี่มันเกี่ยวกับงานยังไงหรือคะ” นีย์ถามไป

“เขาทำงานหนักไงคะ เขาเลยล่ำ” นางเลียปากไปด้วย

“โอ้ เหมือนนีย์เลยค่ะ นีย์ก็ผอมไปหมดแล้วค่ะ เพราะทำงานหนัก”

“ไม่เหมือนนะคะ น้องนีย์ขี้เกียจจนตัวลีบ แขนขาอ่อนแรง เพราะไม่ได้ทำงานมากกว่าค่ะ”

“แหม เกิดเป็นนีย์เนี่ย อะไรๆ ก็ไม่ดีนะคะ ว่าแต่วันนี้นีย์จะได้เจอพี่กับน้องสมศักดิ์ตรงหลืบบันไดหนีไฟอีกไหมคะ ที่พี่ชอบไปนั่งเขี่ยอะไรกันอยู่น่ะค่ะ พอดีนีย์มีของมาฝากทั้งสองคนน่ะค่ะ”

“ซื้ออะไรมาฝากหรือคะ”

“หนังสือกฎแห่งกรรมน่ะค่ะ อ่านแล้วจรรโลงใจดี ศีลข้อ 3 อยู่หน้า 26 นะคะ นีย์พับหน้านั้นไว้ให้แล้ว เปิดแล้วเจอเลย”

เจ้านายพวกที่ชอบบอกว่า ‘ตัวเองเป็นคนตรง’ แต่จริงๆ แล้ว ‘ไม่ตรง’

“พี่ก็เป็นคนตรงๆ อยู่แล้วนะคะ มีไรก็จะพูดตรงๆ และถ้าน้องๆ มีประเด็นอะไร ไม่พอใจพี่ตรงไหน บอกพี่ได้เลยตรงๆ พี่รับได้ เราจะได้คุยกันแบบคนตรงๆ เหมือนกัน”

แต่เชื่อไหมคะ เหล่าเจ้านายที่ชอบพูดแบบนี้ถี่ๆ 90% ไม่ใช่คนตรงค่ะ มักจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา และพอฟังเรื่องราวที่คนให้ Feedback ตัวเองตรงๆ พวกนางจะทนไม่ได้ จะเสียใจ จะปกป้องตัวเอง และหลายครั้งจะหาทางเอาคืน เพราะนางแค้นฝังหุ่น
ค่ะ #พี่เป็นคนตรง แต่หลายๆ ครั้ง #พอพวกหนูตรงกว่าพี่ และ #พี่รับไม่ได้ค่ะ

และข้อสุดท้าย คือ 

เจ้านายที่มีเหตุผล แต่เหตุผลนั้นไม่สมเหตุสมผล 

เจ้านายรายนั้นในตอนนั้น นางเป็นนายใหม่ที่เพิ่งย้ายมา นางตำหนิว่านีย์ดูแลของในออฟฟิศไม่ปลอดภัย เพราะนางไปตรวจเจอว่านีย์เอา Laptop ของนีย์ทิ้งไว้ในลิ้นชักโต๊ะออฟฟิศ แล้วไม่ล็อกลิ้นชัก นางเลยแก้ปัญหาอย่างคนมีวุฒิภาวะ ด้วยการเอา Laptop นีย์ไปซ่อน ให้นีย์มาหาไม่เจออยู่ 3 ชั่วโมง ให้นีย์ร้อนใจ 

แล้วนางค่อยมาเฉลยค่ะ ว่านางเป็นคนเอาไป เพราะนางเห็นว่านีย์กำลังจะไปแจ้งตำรวจว่าที่ออฟฟิศมีคนร้าย

“พี่ว่า น้องนีย์ทำแบบนี้ไม่โอเคนะคะ คอมฯ มันจะหายได้”

“ขอโทษค่ะพี่ แต่การที่พี่มาค้นลิ้นชักนีย์แบบไม่บอกกล่าว มันก็ไม่ใช่เรื่องเหมาะนะคะ แล้วมันคือลิ้นชักลึกสุดในหลืบด้วยค่ะ แสดงว่าพี่จงใจเข้ามา”

“คือ เอ่อออออ…พี่มีเหตุผลนะคะ พี่ต้องช่วยบริษัทสอดส่องดูแลน่ะค่ะ และอีกเหตุผลคือ เราคือทีมเดียวกัน”

“งั้นวันหลังนีย์เข้าไปค้นตู้เอกสารพี่บ้างนะคะ เพราะเราทีมเดียวกัน แล้วพี่ไปเปิดลิ้นชักพนักงานกี่คนแล้วคะเนี่ย”

“ทำไมไม่มีเหตุผลเลยคะ ผิดก็รับผิดไป มายอกย้อน คุยกันด้วยตรรกะสิคะ”

“ตรรกะมันพังตั้งแต่พี่ค้นลิ้นชักคนอื่นแบบไม่แจ้ง และเอาของไปซ่อนแล้วละค่ะ ต่างอะไรกับมิจฉาชีพคะแทนที่จะสอนกันดีๆ แล้วเนี่ย เงินนีย์หายไปจากลิ้นชักนั้น 2 แสน นี่พี่ก็เอาไปซ่อนใช่ไหมคะ ขอคืนด้วยค่ะ” 

นางเงิบ และด้วยความที่นางตรรกะดี มีเหตุผล นางก็เลยไปดูหมอดู เพื่อให้หมอดูบอกว่าดวงบริวารไม่ดี นางเลยต้องมาไหว้เทพเจ้าที่ออฟฟิศทุกบ่าย 3 และทำคุณไสยใส่นีย์ค่ะ แต่ทำอะไรนีย์ไม่ได้ เพราะคุณยายทวดของนีย์เคยมอบปลัดขิกให้เหน็บไว้ที่เอว เพื่อกันของชั่วร้ายตั้งแต่เด็กค่ะ

ถ้าเจอเจ้านายอะไรทำนองนี้ เตรียมหาทางหนีทีไล่กันดีๆ นะคะ!