โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เจ้าของยันได้มาถูกกฎหมาย ปัดฮุบที่ดิน'ถนนสาธารณะ'

เดลินิวส์

อัพเดต 09 ธ.ค. 2562 เวลา 23.41 น. • เผยแพร่ 09 ธ.ค. 2562 เวลา 23.12 น. • Dailynews
เจ้าของยันได้มาถูกกฎหมาย ปัดฮุบที่ดิน'ถนนสาธารณะ'
เจ้าของที่ดิน 70 ไร่ รีสอร์ตดังเมืองคอน แจงเอกสารครอบครองที่ดินถูกกฎหมาย หลังโซเชียลฯ ถล่มบุกรุกที่ดินหลวง ปัดฮุบถนนสาธารณะเป็นที่ส่วนบุคคล ยันได้มาถูกต้องตามกฎหมาย

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความลงในเพจสิชลบ้านเรา และกลุ่มประเทศคอนอ้างว่า "มีนายทุนบุกรุกที่ดินหลวง หน่วยงานไหนรับผิดชอบที่ดินตรงนี้" โดยมีข้อความในรูปภาพระบุว่า "ขออภัยในความไม่สะดวกที่ส่วนบุคคลใช้สำหรับบริการลูกค้าของโรงแรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกนำอาหารและเข้ามารับประทาน และใช้สถานที่ดังกล่าวขอบคุณค่ะ" กระทั่งได้รับการส่งต่อและแชร์กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเด็นการครอบครองที่ดินกำลังอยู่ในความสนใจของประชาชน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 10 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ประสานสุข วิลล่า บีช รีสอร์ต เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยได้พบกับ นายวิศวะ พงศ์สุธรรม ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ต จึงได้สอบถามในประเด็นการปิดถนนและกลายมาเป็นที่ส่วนบุคคลจริงหรือไม่ โดยนายวิศวะ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 65 ปีที่ผ่านมา แม่ของตนซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2497 มีพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 70ไร่ ปัจจุบันเป็นที่ดินเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก. พื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ตริมทะเลประมาณ 20 ไร่ ส่วนที่เหลือยังปล่อยให้เป็นพื้นที่การเกษตรปลูกยางพารา โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในเอกสารที่ดินระบุว่ามีพื้นที่ตั้งแต่ภูเขาจรดริมทะเล ไม่เคยระบุว่ามีถนนสาธารณะริมทะเล อีกทั้งที่ดินบริเวณริมทะเลของชาวบ้านละแวกนี้ก็ไม่เคยมีถนนสาธารณะติดทะเลแม้แต่รายเดียว และพื้นที่ติดต่อกับของตนซึ่งสิ้นสุดถนนเทศบาลตำบลสิชล ก็เป็นที่ดินราชพัสดุจำนวน 5 ไร่ และตนได้ทำสัญญาขอใช้พื้นที่แล้ว

นายวิศวะ อ้างด้วยว่า หลังจากซื้อที่ดินแปลงนี้มาแล้ว ต่อมาในปี 2513 แม่ของตนได้สร้างบ้านพักหลังเล็ก ๆ หลายหลัง เพื่อให้คนเช่าพัก พร้อมกับได้สร้างถนนและปักเสาพาดสายไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่ของตัวเองเพื่อความสะดวก ต่อมาปี 2524 กรมประมงได้มาจัดซื้อที่ดินด้านใน เพื่อก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช และขอบริจาคที่ดินจากชาวบ้านเพื่อทำถนนสาธารณะ ตนจึงมอบที่ดินเพื่อให้ถนนสาธารณะตัดผ่านที่ดินของตนเอง ซึ่งเป็นถนนด้านหลังที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ ในขณะนั้นได้มีการปักเสาไฟฟ้าแรงสูงตลอดแนวถนน แต่ไม่มีงบประมาณในการก่อสร้างถนน ทางกรมประมงจึงได้ทำหนังสือถึงเจ้าของรีสอร์ตเพื่อขอใช้พื้นที่ทำถนนชั่วคราวริมหาดทะเลผ่านที่ดินชาวบ้านหลายรายจนถึงสำนักงาน หลังจากทำถนนเสร็จประชาชนทั่วไปจึงได้ประโยชน์ในการใช้ถนนไปพร้อม ๆ กันด้วย

ต่อมาถนนสาธารณะด้านหลังที่นายวิศวะ และชาวบ้านได้มอบให้กรมประมงได้ก่อสร้างถนนแล้วเสร็จ ทางกรมประมงจึงได้ทำหนังสือยกเลิกการใช้ถนนริมทะเลในปี 2540 รวมระยะเวลาใช้ถนนสายริมทะเลนี้ยาวนานถึง 16 ปี อาจทำให้ประชาชนเข้าใจว่าถนนสายนี้เป็นถนนสาธารณะ เมื่อกรมประมงได้แจ้งยกเลิกไปแล้ว นายวิศวะยังไม่ปิดถนนสายนี้ กระทั่งปี 2542 เกิดคลื่นยักษ์ซัดถนนพังได้รับความเสียหาย จึงปรับปรุงพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว และประกาศเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้ประชาชนเจ้าใจว่าปิดกั้นถนนสาธารณะ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นถนนสาธารณะมาตั้งแต่เริ่ม

นายวิศวะ ระบุว่า หลังจากประกาศเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล มีการร้องเรียนกันหลายครั้ง แต่ละครั้งมีการสรุปของหน่วยงานที่รับผิดชอบและที่ว่าการอำเภอสิชลถึง 2 ครั้งว่า ถนนสายนี้ไม่ได้เป็นที่สาธารณะ โดยในครั้งล่าสุดมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทางผู้ว่าฯ ในขณะนั้นลงความเห็นว่า ถนนสายนี้ไม่ได้เป็นที่สาธารณะ จนเป็นเหตุนำคดีฟ้องศาลปกครอง และที่สุดศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาตัดสินว่า ถนนสายนี้ไม่ได้เป็นที่สาธารณะเช่นกัน ใช้เวลาในกระบวนการชั้นศาลกว่า 9 ปี สรุปไม่ได้เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งสามารถตรวจสอบเอกสารได้จากเว็บไซต์คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เพราะเป็นข้อมูลสาธารณะ

“การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อการสาธารณะถือว่าเป็นเรื่องดี ช่วยสอดส่องดูแลผู้กระทำความผิดและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ แต่การแสดงความคิดเห็นควรจะอยู่บนพื้นฐานโดยสุจริต ไม่ใช่กล่าวหาทำให้บุคคลอื่นเสียหาย อาจจะเข้าข่ายมีความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือมีความผิดฐานพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้” เจ้าของรีสอร์ต กล่าวทิ้งท้าย.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0