เจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้ รับปล่อยคลิปน้ำอุ่นนัว ‘ลัลลาเบล’ ให้เห็นว่าเป็นนาฬิกาน้ำอุ่น ด้านชุดสืบสวนเผย ผลชันสูตร เสียชีวิตเพราะดื่มเหล้าเกินขนาด…
ความคืบหน้าการเสียชีวิตปริศนาของนางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล ล่าสุด นายชวลิต นรพันธ์พิพัฒน์ พ่อนางสาวธิติมา นำชุดชั้นในไร้สาย หรือบาร์ปีกนก ของผู้ตายมามอบให้กับพนักงานสอบสวนสน.บุคคโล เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานอื่นๆ รวมถึง ประกอบสำนวนคดี
นายชวลิต เปิดเผยว่าขณะนี้ตำรวจยังไม่แจ้งถึงผลชันสูตร และผลตรวจเลือดของผู้ตาย และนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่นให้ทราบ จากนี้เชื่อตำรวจจะให้ข้อมูลเองทั้งหมด ย้ำไม่มีความเป็นห่วงทางเรื่องคดี เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจทำงานเต็มที่
นายชวลิต ยังบอกด้วยว่าแม้เรื่องดังกล่าวจะผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้วแต่ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับน้ำอุ่น และคนที่มาร่วมปาร์ตี้ในวันเกิดเหตุแต่อย่างใด นอกจากนี้ ที่สน.บุคคโล พลตำรวจตรีสัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 พร้อมชุดคลี่คลายคดี อยู่ระหว่างประชุมติดตามความคืบหน้าคดี
ทั้งนี้ รายงานจากชุดสืบสวน แจ้งว่า ผลชันสูตรเบล เสียชีวิตจากดื่มสุรา หรือทางการแพทย์ เรียกว่า Alcohol intoxication พบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่พบสารเสพติดในร่างกายและไม่พบยีนหรือโครโมโซม หรือ สายดีเอ็นเอของผู้อื่นในร่างกายของลัลลาเบล
ด้านเจ้าของบ้านจัดงานปาร์ตี้ ยังคงยืนยันว่า พวกตนบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าเครียดมาก รวมไปถึงประเด็นคนที่สวมนาฬิกาสีทองลูบหน้าน้องลัลลาเบล ตนก็ยังยืนยันว่าเป็นมือของน้ำอุ่น เพราะตอนอยู่บ้านนาฬิกาที่น้ำอุ่นคือสีทอง แต่อาจจะเปลี่ยนหรือไม่ ไม่แน่ใจ ตนจึงเป็นคนปล่อยคลิปน้ำอุ่นนัวน้องลัลลาเบลภายในบ้านวันเกิดเหตุออกมา เพื่อยืนยันว่าเป็นนาฬิกาของน้ำอุ่นจริง ซึ่งสาเหตุที่ปล่อย ก็ไม่ได้เป็นการไม่เกียรติน้องลัลลาเบล แต่เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินนั้น ตนยอมรับว่าจ้างพริตตี้บ่อยจริง แต่เป็นการรวมเงินกันจ้าง และตนรู้จักพวกโมเดลลิ่งพริตตี้ เพราะเคยทำงานจ้างพริตตี้มางานพีอาร์จึงมีคอนแทคกัน ซึ่งตนก็เล่นหุ้นและเล่นบิทคอยน์ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ด้วยความชอบปาร์ตี้สังสรรค์ จึงก็จ้างมาเอนเตอร์เทนเท่านั้นเวลารวมตัวปาร์ตี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านจัดงานปาร์ตี้ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาเวลามีการจ้างงาน เคยมีเรื่องทะเลาะกับพริตตี้ตามที่เป็นข่าวเพียง 1 ครั้ง แต่ไม่ใช่ตนที่เป็นคนมีปัญหา เพราะตอนนั้นตนนอนหลับ.
