เจาะใจ : ‘หญิงลี’ จากมรสุมชีวิต สู่วันที่กลับมาแซบเว่อร์อีกครั้ง!

เจาะใจ: ‘หญิงลี’ จากมรสุมชีวิตสู่วันที่กลับมาแซบเว่อร์อีกครั้ง!

"หญิงลี ศรีจุมพล" กลับมาอีกครั้งในลุคใหม่ สดใส และเพลงล่าสุดที่แซ่บกว่าเดิมอีกครั้ง ในเพลง ‘ที่รัก หรือ ที่พัก’ หลังจากที่ผ่านมรสุมครั้งใหญ่ ทั้งกับเรื่องครอบครัว สุขภาพ ความรัก และเพื่อนร่วมงาน วันนี้เธอมีเรื่องราวประสบการณ์สุดดราม่า และบทเรียนชีวิตมาเผยแบบหมดเปลือก ให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจใครหลาย ๆ คนได้ดีมาก

ชีวิตติดดินไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง

หญิงลีเผยตัวตน สุดสมถะ “หญิงลี เป็นคนไม่ติดแบรนด์เลยค่ะ ทั้งชีวิต ถ้าจะมีแบรนด์คือเราใช้แบบจำเป็นจริง ๆ อย่างกระเป๋า ก็ใช้แบรนด์อยู่ใบเดียวใบนี้ไม่เปลี่ยน แล้วก็ใช้มาหลายปีมากใบเดิม…เป็นคนที่ ‘สิ่งใหม่ก็เพิ่ม สิ่งเดิมก็รักษาไว้’ ที่เพิ่มก็จะเป็นความรู้ เพื่อนใหม่ และประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิต และสิ่งที่ต้องรักษาไว้เสมอ คือ คนดี มิตรภาพที่ดี รวมทั้งวัฒนธรรมบ้านเกิด อีสาน ที่เป็นรากเหง้าของเราจริง ๆ มันคือความสุขแท้จริง ที่เราจะรักษาไว้เสมอ เช่นเพลงอีสาน อาหารอีสาน แซบเว่อร์ค่ะ”

เธอเผยถึงเรื่องความไม่ยึดติดแบรนด์เนม “เราโตมาแบบเด็กต่างจังหวัด เราไม่ได้มีค่านิยมสูงเกินตัวแบบนั้น เพราะตอนที่เราจน เราไม่ได้ใช้แบรนด์เนมอยู่แล้ว ด้วยนิสัยส่วนตัว เราเป็นคนลุย ๆ ชอบงานแบบผู้ชาย งานช่าง งานปูน ผจญภัยท้าทาย ของพวกนี้ก็ไม่ได้ยึดติด คือมีบ้าง แต่ไม่ได้จำเป็นเลย”

ครอบครัวชาวนาที่ไม่เคยอดอยาก

เธอโตมาแบบคนต่างจังหวัดโดยแท้ “เราเป็นครอบครัวชาวนา ที่พอหมดหน้านา พ่อจะเข้ามาในเมือง มารับจ้างก่อสร้าง ส่วนแม่ก็จะเย็บผ้าไหม เราโตมาแบบครอบครัวที่ไม่โรแมนติก ถ้ามีน้อยใจเรื่องเดียวของครอบครัว ก็จะเป็นความไม่ใส่ใจรายละเอียดบ้างเล็ก ๆ น้อย เช่น แม่ไม่ไปงานวันแม่ แต่อื่น ๆ คือดีหมด ดีมาก แม้ว่าเราจน แต่เราไม่เคยอดอยาก ต้องมีปลาให้กินทุกมื้อ”

ความยากจนเป็นเรื่องสนุกเสมอ

ถ้าพูดถึงความยากจน ใคร ๆ ก็คงไม่ชอบ แต่มุมมองของหญิงลี คือของจริง ตัวจริง ที่มองความจนให้เป็นบวก “ความยากจนเป็นเรื่องสนุกของหญิงลีนะ เราจะคิดเสมอว่า จะทำยังไงให้เราเอาตัวรอดได้ในสังคม ไม่เสียรู้คน ไม่ตกเป็นเหยื่อ หาวิธีอย่างไรที่จะสร้างตัวเองขึ้นมาให้เราทัดเทียมกับคนอื่น ๆ เป็นการใช้ชีวิตที่เอาตัวรอดให้เป็น”

กลับไปทำธุรกิจส่วนตัวด้วยสำนึกรักบ้านเกิด

หญิงลีเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว ในช่วงที่หายหน้าหายตาไป “ไปทำรีสอร์ท ที่บ้านเกิดค่ะ ไม่อยากไปทำที่อื่น อยากอยู่กับพ่อแม่ พี่น้อง ญาติ ๆ และคนที่เรารัก มีคนถามหลายคนว่า ทำไมเราไม่ไปทำธุรกิจย่านที่มันเจริญ ที่มันบูมกว่านี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยว…ใจเรา เรารักบ้านของเรา ไม่อยากไปไหน อยากพัฒนาให้บ้านที่เราอยู่เจริญขึ้น คนมีงานทำ ดูแลคนในครอบครัวได้ค่ะ”

‘ทุกข์’ กับ‘ลาภ’ มาคู่กันเสมอ…2 ปีที่ผ่านมาเข้าขั้นวิกฤตพายุลูกใหญ่ของชีวิต

ความดัง หรือความสำเร็จที่ได้รับมา ไม่ได้สบาย หรือง่ายเสมอไป คนเรามักมีเรื่องท้าทายชีวิต ให้เข้ามาเป็นบททดสอบกับมนุษย์ ลองใจเราว่าจะผ่านไปได้หรือไม่หญิงลีเผยถึงช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต เข้าขั้นมรสุมหนัก “ถ้าไล่มาเลย จะเริ่มตั้งแต่ครอบครัว คือคุณแม่โดนรถชนหน้ารีสอร์ท ที่เราสร้างให้แม่ ซึ่งคนขับก็ดื่มแอลกอฮอล์มา ขาดสติ เราหันไปเห็นแม่นอนนิ่งหน้ารีสอร์ท เราสะเทือนใจมาก นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกข์…”

แต่ในระหว่างนั้น หญิงลี เผชิญกับปัญหาต่อมา คือ “สุขภาพของตัวเองที่ทรุดโทรม” จากความผิดพลาดของการใช้ชีวิตที่หักโหมเกินไป “เราป่วยหนัก อยู่ดี ๆ หน้าบวมมาก ไปหน้าเวที แล้วคนก็ถามว่าเราเป็นอะไร ช่วงนั้นไม่อยากทำอะไร ไม่อยากโชว์แสดงอะไร เราตรวจพบว่าเราเป็นไทรอยด์ผิดปกติ แต่เพิ่งเริ่มเป็น ถามว่าเสียใจไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะอย่างน้อยก็เป็นโรคที่รักษาได้ ไม่ใช่โรคร้ายแรง ถ้าเป็นมะเร็งคือเราแย่แน่ ๆ”

หลังจากตรวจพบว่าเป็นไทรอยด์ ไม่ใช่ว่าอาการต่าง ๆ จะหายดีขึ้นเลยทันที “ตอนนั้นความดันสูงกว่าคนปกติ เหมือนรถบรรทุกเต้นตึก ๆ ในใจตลอดเวลา ขาลีบเล็ก เดินไม่ได้ ไม่มีแรง แค่จะใส่กางเกง ยังต้องมีคนพยุง มีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย แต่ผ่านไปได้ด้วยกำลังใจที่เราบอกตัวเองทุกวันว่า เราต้องสู้นะ ต้องทำกายภาพ ท้อใจ แต่ไม่ยอมแพ้หรอก เรากินทุกอย่าง และดูแลตัวเองอีกครั้ง จนกลับมาได้ แข็งแรงเป็นปกติ”

บทเรียนชีวิตครั้งใหญ่…เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนใช้ชีวิตอยู่บน“ความพอดี”

เธอสอนเราให้เรียนรู้จากความผิดพลาดของการใช้ชีวิตที่ผ่านมา แบบตึงเกินไป “ความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป เราคิดว่าเราเป็นสาวสตรอง มีสปิริต โชว์แล้วคนต้องไม่ผิดหวัง ต้องสมศักดิ์ศรีความเป็นหญิงลี ใช้ร่างกายหนัก ๆ เหมือนรถยนต์ที่ไม่เคยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่ร่างกายคนเราไม่ใช่หุ่นยนต์ค่ะ เราผิดพลาดจากการใช้ชีวิตแบบน้ำขึ้นให้รีบตัก พอรับปากเขาว่าจะไปเล่น เราต้องรับผิดชอบ ทำให้สมบูรณ์สุดความสามารถที่สุด บนความมั่นใจที่มี เราคิดเองว่าเราแข็งแรง ใจเราไป แต่ร่างกายเราไม่ไปกับเรา”

ชีวิตพอเพียงคือเพียงพอ

หลังจากมรสุม ณ ตอนนี้ การใช้ชีวิตของเธอ เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน “ปัจจุบัน หญิงลีเพียงพอแล้ว เราใช้ชีวิตโดยเอาความสุขเป็นพื้นฐาน ใช้ชีวิตแบบมีมาตรฐาน คือรักษาร่างกายให้ดี รักษาคุณงามความดี เงินมากมายที่เกินพอดี ก็เหมือนน้ำที่ล้นโอ่ง มีไปมากก็ไม่ได้มีความสุขมากตาม เราเอาไปทำบุญ ไปเติมเต็มที่ชีวิตด้านอื่น ๆ ให้บริวารเราอยู่ได้ สร้างงาน สร้างเงิน และมาตรฐานใหม่”

วิธีการวางแผนการลงทุน ช่วยให้หญิงลีไม่ได้โหมงานแบบเมื่อก่อน “เราใช้การกระจายรายได้ เรามีธุรกิจ fitness และ resort แถวบ้านเรา ช่วงที่เราว่างจากโชว์ ก็ให้ทีมงานทำงานในธุรกิจ ทุกคนมีงานทำ ตอนนี้เราเติมเต็มชีวิตเราพอดี เราได้พักผ่อน ร้องเพลง และมีความสุข ในวัย 35 ย่าง 36”

ผลจากการมีเวลามากขึ้น ทำให้ได้ความสุขทางใจกลับมา “เราไปงานบวช งานแต่งแถวบ้าน จากที่ 3-4 ปีที่ผ่านมา เราทำแต่งานตัวเอง ไม่ได้ไปไหนเลย เรากลายมาเป็นคนที่สมดุลดีขึ้น พอเราไปไหนในบ้านเรา ทุกคนต้อนรับเราอย่างดี เราเป็นคนดังที่คนในละแวกบ้านภูมิใจ มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เรามีคนรักเหมือนพี่เบิร์ด หรือพี่พุ่มพวง พอญาติเราเอาเราไปอวดคนทั้งโรงงาน เค้าก็มีหน้ามีตาว่าเป็นญาติหญิงลี เรามีความภูมิใจเล็ก ๆ ที่ได้รับความรักจากคนรอบข้าง จากชื่อเสียงของเรา”

ประเมินตนเองต่ำเสมอ “ยอมรับตนเอง”

จาก Single ‘ขอใจเธอแลกเบอร์โทร’ เส้นกราฟชีวิตพุ่งสูงสุด แต่ทุกอย่าง ไม่แน่นอน “หญิงลีเป็นคนที่เข้าใจสัจธรรมนะ ไม่มีอะไรค้างฟ้า เราเคยเป็นนักร้องคั่นเวลามาก่อน จนวันหนึ่งเราไปจุดสูงสุดของเรา เราประเมินตัวเองพอดี พอตัว ทุกอย่างเป็นไปตามกระแส และวัฏจักร แค่เราต้องมีจุดยืนของเราที่ชัดเจน และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ รักษามาตรฐานของตนเองให้ดีอยู่เสมอ และไม่ทิ้งตัวตนเดิมของเรา วันหนึ่งเราอาจจะกลับไปอยู่จุดที่เราโด่งดังมากอีกครั้งก็ได้ แต่แค่เราทำดีเสมอต้นเสมอปลาย ร้องเพลงให้ดีที่สุดตลอดไปเท่านั้นพอ อะไรไม่แน่นอน มีขึ้น มีลงเสมอ และต้องพลอยยินดีกับคนอื่นให้เป็นด้วยค่ะ”

ไร้ความกดดันกับซิงเกิลใหม่ “ที่รักหรือที่พัก” 

หญิงลีพูดถึงงานเพลงใหม่ของเธอ กับท่าเต้นสุดสนุกรับในทุกเทศกาล “ไม่กดดันเลย” เธอเผยต่อว่า “ตอนขอใจเธอแลกเบอร์โทร เราจะคิดวนเวียนตลอด ว่ามันดีรึยัง เครียด และกดดันกับมัน กลัวมันไม่สำเร็จ แต่พอมาจุดนี้แล้ว ด้วยชื่อเสียงเดิมที่เราพอมี เราไม่กดดันเลย เราปล่อยวาง และมีสติมาก มันเหมือนโชคชะตา ไม่ใช่ทุกคนจะออกซิงเกิลมาแล้วเปรี้ยง เราก็รอดูเพลงมันทำงานของมันไปค่ะ”

“ที่รักหรือที่พัก” พี่น้องทุกคนม่วนขนาดแน่นอน!

เธอมั่นใจในความสนุกของเพลงนี้ การันตีความมันส์ โดยหญิงลีเจ้าเก่า “มันเหมือน ‘ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ภาค 2’ ที่ทุกคนต้องมาสนุกกัน แซ่บกว่าเดิม เพลงจะมีความกระแนะกระแหน เนื้อหาดูเป็นสมัยใหม่ เกย์ กะเทยชอบแน่ เพราะคำที่ใช้มันแรง ในท่อนแร็ป และที่สำคัญ หญิงยังคงอนุรักษ์ความเป็นอีสาน จะมีกลิ่นดนตรีของความเป็นหมอลำอยู่เหมือนเดิม กราฟของเพลงนี้จะเป็นแบบขึ้น-ลง ฉวัดเฉวียน เหมือนอาหารที่ครบรส แซบ เผ็ด นัว อยากชวนให้ลองชิมอาหารจานใหม่จานนี้ค่ะ”

สถิติใหม่ 1 ล้านวิวในLine TV เพียงวันเดียว

เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้น กับสถิติใหม่ “ยังไงก็ไม่แป้ก (หัวเราะ) เพราะทันทีที่ลง Music Video ใน Line TV เพียงวันเดียว ยอดคนดูแตะล้านวิวเรียบร้อย ก็มั่นใจมากขึ้นค่ะ อยากให้ทุกคนเต้นสนุกไปด้วยกันกับเพลงนี้ และรอดูในโชว์ได้เลย เต้นแซบแน่นอน รับประกันความสนุก เหมือนเดิมค่ะ”

ฝากทิ้งท้ายให้กำลังใจแฟนเพลง

ในฐานะที่ชีวิตของเธอผ่านเรื่องหนักแบบหฤโหดถาโถมอย่างหนัก หญิงลีขอทิ้งท้ายเป็นกำลังใจให้ทุกคน “จากชีวิตรักที่ไม่สมหวัง ร่างกายที่ป่วย อุบัติเหตุของแม่ และปัญหาหนักกับเพื่อนร่วมงานของหญิงลี…ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ อย่าท้อถอยค่ะ อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป อย่าไปซ้ำเติมตนเอง ขอเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ท้อ ให้ดึงตัวเองขึ้นมา จนถึงวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ ให้ท้าพิสูจน์กับทุกบททดสอบในชีวิตที่เข้ามาปะทะ สู้กับมันให้ได้ทุกเรื่องค่ะ ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ พอเราผ่านตรงนี้มาแล้ว ต่อให้เราเจอมาหนักกว่านี้ เราก็จะสู้ไหว และผ่านมันไปได้เสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ” //

ติดตาม “หญิงลี ศรีจุมพล” ได้ที่ 
www.facebook.com/YingleeSrijumpo  / IG : @yinglee_lalla 

ชม Music Video เพลง ที่รักหรือที่พัก - หญิงลี ศรีจุมพล: https://tv.line.me/v/5819948