ช่วงก่อนหน้านี้เกิดเป็นกระแสข่าวที่เรียกได้ว่าฮือฮาสำหรับ “เดอะ ค็อป” หลัง Jan Aage Fjortoft อดีตกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นผู้สื่อข่าว รายงานว่า ลิเวอร์พูล คือตัวเต็งที่จะคว้าตัว จาดอน ซานโช่ แนวรุกดาวโจน์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมในตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้
สำหรับ ซานโช่ กลายเป็นหนึ่งในแข้งเนื้อหอมที่สุดในปัจจุบัน หลังเจ้าตัวมีผลงานที่น่าประทับใจกับดอร์ทมุนด์ นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในเยอรมันเมื่อปี 2017 ทว่าในซีซั่นนี้เขากลับมีปัญหาขัดแย้งกับลูเซียง ฟาฟร์ เฮดโค้ช จนส่งผลให้มีข่าวลือว่า ซานโช อยากย้ายออกจากถิ่น ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้เลย โดยมีหลายบิ๊กทีมทั้ง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการเซ็นสัญญาไปร่วมทัพ
ถึงกระนั้น มิชาเอล ซอร์ค บิ๊กบริหารของดอร์ทมุนด์ ออกมายืนยันว่า ซานโช่ จะไม่ย้ายออกจากทีมในเดือน ม.ค.นี้อย่างแน่นอน พร้อมระบุว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างผู้จัดการทีม และนักเตะได้รับการคลี่คลายเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามจากข่าวลือระลอกใหม่ที่ออกมาส่งผลให้ล่าสุด “ลิเวอร์พูล เอ็คโค่” สื่อท้องถิ่นของเมืองลิเวอร์พูล ได้วิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ ซานโช่ คือแข้งที่เหมาะสมกับ “หงส์แดง” ในการเข้ามาเพิ่มศักยภาพของทีม
เริ่มต้นกันที่เหตุผลแรกโดยนับตั้งแต่ที่ ซานโช่ ย้ายไปค้าแข้งในเมืองเบียร์ เจ้าตัวสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นแนวรุกสารพัดประโยชน์ที่สามารถลงเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ในแดนหน้าไม่ว่าจะเป็น เพลย์เมกเกอร์, กองหน้าตัวต่ำ, ปีกซ้าย, ปีกขวา หรือกองหน้ากึ่งปีกซ้าย และขวา ทั้งๆที่เขาเป็นผู้เล่นที่ถนัดในการเล่นเท้าขวา
นั่นหมายความว่าหากเจ้าตัวไปเล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกทางด้านซ้าย เขาจะสามารถตัดเข้าไปในกรอบเขตโทษ และใช้เท้าขวาทำประตูได้เลย ซึ่งปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ก็เล่นในระบบ 3 ประสานแดนหน้าทว่าในตำแหน่งซ้าย และขวาของ ซาดิโอ มาเน และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ นั้นยังไม่มีแข้งตัวแทนที่ลงสนามมาในตำแหน่งดังกล่าว และทำผลงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ดิว็อค โอริกี้ หรืออเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำให้หากได้ ซานโช มานั้น ลิเวอร์พูล จะมีตัวแทนของ มาเน และซาลาห์ ที่ถนัดในการเล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกขวา และซ้าย แบบธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวรุกของทีมเป็นอย่างมาก
มาที่เหตุผลต่อมา คือ ซานโช่ เป็นแข้งที่สร้างสรรค์เกมได้ดี โดยตลอดการลงสนามให้กับ ดอร์ทมุนด์ กว่า 5,200 นาที เขาแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมได้ถึง 26 ครั้ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ พร้อมมีค่าเฉลี่ยการแอสซิสต์อยู่ที่ 2.1 ครั้งต่อ 1 เกม
นอกจากการแอสซิสต์แล้ว การทำประตูของ ซานโช่ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เนื่องจากปัจจุบันเขายิงให้กับ “เสือเหลือง” ไป 18 ประตู ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูไม่เยอะหากนับจากช่วงเวลา 2 ปีที่อยู่กับทีม ทว่าเจ้าตัวมีสถิติที่น่าสนใจคือเขามีโอกาสยิง 1.5 ครั้งต่อเกม
ส่วนเหตุผลสุดท้ายคือถ้า ซานโช่ ย้ายมาอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะสามารถเปลี่ยนแผนการเล่นจากระบบ 4-3-3 ซึ่งเป็นแผนปัจจุบันที่คู่แข่งเริ่มจับทางได้มาเป็นแผน 4-2-3-1 โดยให้ ซาลาห์ ขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า และถอย ฟีร์มีโน่ ลงมาเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 10 ขณะที่ ซานโช และมาเน สามารถสลับกันเล่นในตำแหน่งตัวรุกทางด้านขวา และซ้าย ซึ่งจะเป็นแผนการเล่นที่น่าสนใจไม่น้อยอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดเชื่อว่าหาก ลิเวอร์พูล ได้ตัว ซานโช่ ซึ่งถือเป็นผู้เล่นในระดับใกล้เคียงกับเวิลด์คลาสเข้าไปทุกขณะ และยังมีอายุการใช้งานได้อีกยาวนั้นทีมจะได้รับผลประโยชน์อย่างแน่นอน ถึงกระนั้นด้วยค่าตัวที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์นั้น ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ จะยอมจ่ายเพื่อเซ็นสัญญากับนักเตะรายนี้หรือไม่?
