เจาะลึก ‘วิถีคนรวย’ เศรษฐีไทยนำโด่ง พร้อมจ่ายสินค้า ‘รักษ์โลก’

อิปซอสส์ เผยผลสำรวจ "วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย" พบรสนิยมหรู เลือกสิ่งที่ดีที่สุด เป็นยุคของความ "หรูหราที่แท้จริง" ประเด็นสำคัญคือ นอกจากจากสินค้าหรู สะท้อนรสนิยมแล้ว เศรษฐีทั้งในไทยและเอเชีย ต่างให้ความสำคัญและพร้อมจ่ายเงินสำหรับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายอิษณาติ วุฒิธนากุล หัวหน้าฝ่ายองค์กรลูกค้า บริษัท อิปซอสส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลสำรวจเรื่อง "วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย"  โดยสำรวจจากกลุ่มคนมั่งคั่งจำนวน 20.64 ล้านคน ที่มีรายได้เฉลี่ยร่วม 20 ล้านล้านบาทต่อเดือนสำหรับคนเอเชีย และ 1 แสนล้านบาทสำหรับคนไทย โดยพบว่า กลุ่มคนมั่งคั่งนี้ เป็นกลุ่มคนที่มักจะคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เช่น แบรนด์หรู จิวเวลรี่ นาฬิกา ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ และรักในการท่องเที่ยว

ในยุคที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกัยบการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นที่น่ายินดี ที่กลุ่มคนมั่งคั่งที่มีกำลังซื้อ ก็ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เช่นกัน โดยพบว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มคนมีฐานะในภูมิภาคเอเชีย ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของโลก มากกว่าการใช้จ่ายเพื่อเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยินดีที่จะสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ

ทั้งนี้ 53% ของกลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียในยุคปัจจุบันระบุว่า พร้อมและยินดีที่จะจ่ายมากกว่าสำหรับสินค้าหรือบริการที่เป็นให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และอีก 47% ยังยินดีที่จะซื้อหรืออุดหนุนสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ

เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มคนมีฐานะในประเทศไทยถึง 63% ยินดีที่จะจ่ายมากกว่าสำหรับสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 53% ระบุว่ามีความยินดีที่จะอุดหนุนสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่ากลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียอย่างมีนัยยะสำคัญ

และเต็มใจที่จะจ่ายแพงกว่าสำหรับสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสินค้าทีผลิตภายในประเทศ โดยคนรวยชาวไทยกว่า 62% เต็มใจที่จะจ่ายแพงกว่าสำหรับสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และ 53% ยินดีที่จะอุดหนุนสินค้าของไทย นับเป็นอัตราที่สูงกว่าคนมั่งคั่งชาวเอเชีย

ในแง่ของพฤติกรรมการช้อปปิ้งของกลุ่มคนที่มีรายได้สูง พวกเขามักจะเลือกคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่สามารถตอบสนองความต้องการและรูปแบบไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยจากสถิติพบว่าภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มคนมั่งคั่งทั้งในเอเชียและประเทศไทย มีการใช้จ่ายกับ จิวเวลรี่ที่มีมูลค่าราว 3 แสนบาท นาฬิกาหรูที่มีราคาประมาณ 6 หมื่นบาท รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนบาท) โดยมีอัตราดังนี้

สำหรับการท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ที่กลุ่มคนมีฐานะชาวเอเชียชื่นชอบมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความจำเป็นในการเดินทางเพื่อธุรกิจ และผู้ที่ชอบเดินทางเพื่อการพักผ่อน จากสถิติพบว่า คนเหล่านี้จะมีการเดินทางไปต่างประเทศอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี โดยกว่า 33% ของกลุ่มคนรวยในไทย และ 22% ของคนในเอเชียแปซิฟิกเลือกที่จะไปประเทศญี่ปุ่น ตามด้วยฮ่องกงในอัตรา 19% และ 14% ตามลำดับ

ขณะที่รูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมากในกลุ่มคนมั่งคั่งในประเทศไทยคือ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ หรือเพื่อสุขภาพ ตามด้วยการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่มีค่าชี้วัดมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเกิน 1 เท่าตัว และ 50% ตามลำดับ

เมื่อสำรวจถึงสื่อที่กลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชียชื่นชอบ พบว่า ครอบคลุมแทบทุกแพลตฟอร์ม แต่มีการใช้เวลากับ เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชั่น สูงสุด ตามมาด้วย ทีวี หนังสือ พิมพ์ และ แมกกาซีน สำหรับกลุ่มคนมีรายได้สูงชาวไทย จะใช้เวลากับ แอปฯ และ เว็บไซต์ มากกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย โดยชอบทั้ง 2 แพลตฟอร์มทั้งสื่อรูปแบบดั้งเดิมและสื่อใหม่ดิจิทัล

คนมั่งคั่งในเอเชียแปซิฟิก และคนมีรายได้สูงชาวไทย ต่างมีความนิยมในการเสพสื่อทีวี และนิตยสารต่างประเทศเหมือนๆกัน เพียงแต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกัน โดย 44% เป็นอัตราสำหรับคนมีรายได้สูงในเอเชียแปซิฟิก และ 50% ของคนมีรายได้สูงชาวไทย

ส่วนสื่อโซเชียล นับได้ว่าเป็นสื่อที่แทบจะถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกลุ่มคนมั่งคั่งทั้งหลาย สำหรับกลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียแปซิฟิกนั้น มีความนิยมใช้ช่องทาง Facebook ถึง 69% รองมาเป็น สื่อ YouTube 63% Instagram 42% และ LinkedIn 21% แต่สำหรับคนรวยในชาวไทย นิยมใช้ช่อง ทาง Facebook YouTube Instagram และ LinkedIn ในอัตรา 94% 90% 61% และ 18% ตามลำดับ

ยิ่งไปกว่านั้นจากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนมีฐานะในประเทศไทยใช้เวลากับโซเชียลมีเดียต่างๆ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย โดยคนไทยใช้เวลากับแพลตฟอร์มเหล่านี้มากกว่า 500 นาทีภายในระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมาหรือราวๆ 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งค่าเฉลี่ยของเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่เพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น

ผลการศึกษาชุด "วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในทวีปเอเชีย" นี้ นับเป็นข้อมูลชุดสำคัญที่สามารถช่วยให้บริษัทที่เกี่ยวข้องเข้าใจ ปรับตัว และสามารถก้าวขึ้นมาเป็น Game Changers – ผู้เปลี่ยนเกม ให้ทันยุคที่แนวโน้มของความหรูหราได้กลายเป็น Truly Luxury หรือความหรูหราที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งของภายนอก แต่เป็นความหรูหราที่สะท้อนมาจากความคิดและคุณค่าที่มีอยู่ของแต่ละบุคคล เรียกได้ว่าเป็น "วิถีชีวิตที่หรูหราแบบใหม่"