เจาะลึกกลลวงโลก ร่างทรงหลอกชาวบ้านขุดทรัพย์สมัยนครจำปาศรี

เจาะลึกกลโกงร่างทรง หลอกชาวบ้านขุดทรัพย์สมัยนครจำปาศรี

เจาะลึกกลโกงร่างทรง – ชาวบ้านจาก 3 จังหวัดทางภาคอีสาน 7 ราย คือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ เดินทางเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เพื่อให้ดำเนินคดีกับร่างทรงคนหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากที่ชาวบ้านรู้ตัวว่า หลอกให้ขุดทรัพย์โบราณสมัยนครจำปาศรี

นายทศพร จิตรแม้น คือร่างทรงคนที่ชาวบ้านแจ้งความให้กองปราบดำเนินคดี อายุ 26 ปี อยู่บ้านโพนทอง ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบอาชีพเป็นร่างทรง ดูดวง สะเดาะเคราะห์ และพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวอีสาน

 แต่เมื่อประมาณปี 2559 เป็นต้นมา นายทศพรหลอกคนที่ไปดูดวง สะเดาะเคราะห์ว่า ในบริเวณบ้านหรือที่นาของคนๆ นั้น มีทรัพย์สมบัติโบราณสมัยนครจำปาศรี ช่วงยุคพระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม ฝังอยู่มานานประมาณ 1,300 ปีแล้ว แนะนำให้เจ้าของที่ดินขุดขึ้นมาขายเพื่อบรรเทาความยากจน

 เมื่อชาวบ้านหลงเชื่อและให้นายทศพรทำพิธีให้ นายทศพรจะเรียกรับเงินค่าขุดแตกต่างกันไปในชาวบ้านแต่ละราย แต่ราคาอยู่ที่ประมาณครั้งละ 20,000 บาท จากนั้นนายทศพรจะไปหลอกใช้ชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งมาเป็นลูกมือขุด ส่วนตนก็ทำพิธีอยู่บริเวณที่ขุด

 การขุดครั้งแรกมักจะไม่เจออะไร แต่จะเจอสิ่งที่นายทศพร อ้างว่าเป็นทรัพย์สมบัติโบราณในการขุดครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3

 สิ่งที่ขุดพบ ซึ่งนายทศพร อ้างว่าเป็นทรัพย์สมบัติโบราณสมัยนครจำปาศรี ส่วนใหญ่เป็นทองเหลืองที่หลอกชาวบ้านว่าเป็นทองคำ พระเครื่องคล้ายพระกรุนาดูน ซึ่งหลอกชาวบ้านว่าพระนาดูน และไหดินเผาบรรจุพระเครื่ององค์เล็กๆ อยู่ด้านใน

 แต่ของเหล่านี้ เคยมีอดีตคนที่นายทศพร ให้การว่า เห็นนายทศพร เป็นคนเอาไปใส่ไว้ในหลุมหลังจากการขุดครั้งแรกไม่พบอะไร จะพบสิ่งของเหล่านี้ในการขุดครั้งที่ 2 แต่อดีตลูกมือนายทศพร ไม่กล้าบอกชาวบ้านในเรื่องนี้ เพราะนายทศพรมักอ้างเรื่องไสยศาสตร์ ว่าใครพูดมากจะมีอันเป็นไป

 เช่นเดียวกับสิ่งของที่ขุดขึ้นมาได้ นายทศพรจะหลอกชาวบ้านว่ามีมูลค่าหลายล้านบ้าน เช่น พระเครื่องนาดูนเพียงองค์เดียว มูลค่า 2.9 ล้านบาท แต่จะยังไม่สามารถขายสิ่งของเหล่านี้ได้ ต้องทำพิธีสวดถอนอาถรรพ์ในสิ่งของก่อน

 ก่อนเรียกร้องเจ้าของทรัพย์สินที่ขุดได้ว่าจะต้องนำเงินแสนกว่าบาท ผ้าไหม สร้อยคอทองคำ เปิดบัญชีธนาคารใหม่ 15,000 บาท พร้อมเอทีเอ็ม และนำรหัส ไปใส่พานให้นายทศพรนำไปทำพิธีที่บ้านของนายทศพร ซึ่งนายทศพรจะนำมาคืน เมื่อสวดจนหมดอาถรรพ์

ระหว่างนี้ หากใครนำเรื่องราวการขุดทรัพย์โบราณไปบอกใคร อาจเกิดอาถรรพ์ ทรัพย์สมบัติเหล่านั้น กลายเป็นใบไม้ ดิน หรือหิน และจะทำให้ไม่ได้อะไรเลย โดยสิ่งของที่ขุดได้ บางรายนายทศพรก็ให้เก็บไว้ที่บ้าน บางรายนายทศพร ก็เอาไปเก็บเอง

 นายทศพร อ้างว่าทำพิธีสวดถอนอาถรรพ์จะให้ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของสิ่งของที่ขุดได้ ไปที่บ้านนายทศพร และให้จ่ายเงินซื้อสิ่งที่อ้างว่าเป็นเครื่องราชฯ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นแพรแถบและกนกคอ  บางรายต้องจ่ายเงินให้นายทศพร 9,000 บาท บางรายก็จ่ายให้ 1,500 บาท ซึ่งนายทศพรอ้างว่า การซื้อขายทรัพย์สินโบราณต้องมีเครื่องราชฯ เหล่านี้ประดับกาย จึงจะขายได้

จากนั้นนายทศพรจะให้ชาวบ้านเขียนเอกสารสัญญาซื้อขาย โดยซื้อกระดาษแบบฟอร์มจากนายทศพร ใบละ 10 บาท และให้เขียนซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ชาวบ้านบางรายเสียเฉพาะค่ากระดาษแบบฟอร์ม 500 บาท ในการเขียนเอกสารสัญญาซื้อขาย จะแอบอ้างนามสกุลดัง คือ นามสกุลบุนนาค อ้างชื่อว่านายสิริวัฒนา บุนนาค เพื่อให้ชาวบ้านเชื่อถือ แต่เป็นชื่อที่ถูกอุปโลกน์ขึ้น

นางเสมอ สมานมิตร ชาวบ้านม่วงสวรรค์ ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เหยื่อคนหนึ่งของนายทศพร  เล่าว่า  นายทศพรหลอกให้ขุดทรัพย์โบราณ ตั้งแต่ปี 2559 แต่เพิ่งมาแน่ใจว่าถูกหลอก เมื่อสื่อมวลชนเริ่มเสนอข่าว จึงมาแจ้งความขอความช่วยเหลือจากกองปราบปราม เพราะเสียเงินให้นายทศพร ไป 3 แสนกว่าบาท สร้อยคอทองคำหนัก 6 บาท 50 สตางค์ และผ้าไหมอีก 15 ผืน เคยทวงถามหลายครั้ง แต่นายทศพร ก็ผัดวันประกันพรุ่ง

นางบุญมี แสงปัดสา ชาวบ้านหัวโสก ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ถูกนายทศพร หลอกให้ขุดสมบัติโบราณในที่นาเมื่อต้นปี 2561 เมื่อขุดพบ ก็เรียกเงิน สร้อยคอทองคำ อ้างนำไปทำพิธีสวดถอนอาถรรพ์ 1 แสนกว่าบาท สร้อยคอทองคำ 50 สตางค์ จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้คืน ที่ผ่านมา นายทศพรได้นำพระปลอมที่อ้างว่าเป็นพระนาดูน ราคา 2.9 ล้านบาท จะนำไปขายให้ ขอค่านายหน้าอีก 5 หมื่นบาท ทุกวันนี้ลำบาก เดือดร้อนมาก จึงหวังว่ากองปราบปรามจะช่วยดำเนินคดีให้

นอกจากนี้ นายทศพร ยังหลอกให้ชาวบ้านที่ขุดได้สิ่งของเหล่านี้ ซื้อบาตรมา 1 ใบ และให้นำบาตรไปที่บ้านของนายทศพร เพื่อทำพิธี โดยให้ชาวบ้านนำเงิน 13,050 บาท ใส่ในบาตร แล้วนายทศพรก็ถือบาตรเข้าไปในบ้านตัวเอง จากนั้นออกมา พร้อมกับนำผ้าและสายสิญจน์มาพันรอบบาตรแน่นหนา ใช้ชาวบ้านนำกลับไปบูชา เมื่อชาวบ้านสงสัย เปิดดู ก็ปรากฏว่าไม่มีเงินจำนวน 13,050 บาท ที่เคยใส่ลงไป

ที่สำคัญ นายทศพร มักแอบอ้างถึงบุคคลเบื้องสูงบ่อยครั้ง ว่าจะเสด็จมาที่บ้านของตัวเอง ให้ชาวบ้านแต่งชุดขาวไปช่วยกันทำความสะอาดบ้าน และรอรับเสด็จ ชาวบ้านก็ยิ่งเชื่อว่า สิ่งที่นายทศพร พาทำเป็นเรื่องจริง

การอ้างทำพิธีสวดถอนอาถรรพ์ก่อนขายสิ่งที่อ้างว่าเป็นทรัพย์สมบัติโบราณที่ขุดได้ ใช้เวลายาวบ้าน เมื่อชาวบ้านทวงถาม นายทศพร ก็จะผลัดวันประกันพรุ่ง และมักใช้คำหยาบคายด่าทอชาวบ้านที่ทวงถาม พร้อมกับบอกว่า จะทำให้เสียพิธีและไม่ได้อะไรเลย นั่นทำให้ชาวบ้านสงสัยแต่ไม่กล้าทวงถาม เพราะทวงถามทั้งเงิน สร้อยคอทองคำที่เสียไป ก็ไม่มีวันได้คืน

ณ ขณะนี้ มีชาวบ้านประมาณ 30 ราย ในมหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ที่โดนนายทศพรหลอก แต่ที่ยังไม่รู้ คาดว่าจะมีอีกมาก เพราะนายทศพร ตระเวนไปทำพิธีในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน

ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ นครจำปาศรีนั้นมีอยู่จริง เมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน ในเขตอำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม หลักฐานที่ยังคงเหลือคือพระธาตุนาดูน และเมื่อปี 2522 เคยมีการขุดพบพระเครื่องเก่าแก่ เรียกว่าพระนาดูน

 นี่จึงเป็นเรื่องราวหนึ่งที่นายทศพร จับแพะชนแกะไปหลอกชาวบ้าน และชาวบ้านก็หลงเชื่อเพราะเป็นประวัติศาสตร์ที่อยู่ใกล้หมู่บ้านพวกเขา