โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เจาะประเด็น BBL กับการซื้อแบงค์ในอินโดนีเซีย

Stock2morrow

อัพเดต 13 ธ.ค. 2562 เวลา 14.12 น. • เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 17.00 น. • Stock2morrow
เจาะประเด็น BBL กับการซื้อแบงค์ในอินโดนีเซีย
เจาะประเด็น BBL กับการซื้อแบงค์ในอินโดนีเซีย

เรียกได้ว่าเป็นดีลที่สร้างความ"ฮือฮา" ก่อนปิดปี 2562 เลยทีเดียวสำหรับหุ้น BBL ทีป่ระกาศเข้าซื้อกิจการ Permata Bank มีมูลค่าสูงถึงว 8.1 หมื่นล้านบาทสำหรับการเข้าถือหุ้นเพียง 89.12% และในอนาคตคาดว่าจะถือครบ 100% แตะระดับเม็ดเงินสูงถึงเกือบ 9 หมื่นล้านบาท

โดยทาง BBL ชี้แจงว่า PT Bank Permata เข้าถึงตลาดอินโดนีเซียที่มีศักยภาพเศรษฐกิจในการเติบโตสูง และมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ประชากรรวมกว่า 267 ล้านคน ประกอบไปด้วยคนวัยทำงานที่อายุยังน้อยจำนวนมาก และกลุ่มคนเหล่านี้มีรายได้ปานกลางและสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงประเทศอินโดนีเซียยังมีอัตราการเริ่มใช้งานระบบดิจิตอลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูงและมีประชากรที่ยังไม่ได้ใช้บริการของธนาคารใดๆ เป็นจำนวนมาก

นี้เป็นสาระสำคัญแสดงให้เห็นว่าทาง BBL มองเห็นการเติบโตในของอินโดนีเซียในระดับสูง ขณะที่ประเทศไทยมองหาการเติบโตค่อนข้างยาก จึงเน้นลงทุนในต่างประเทศมากกว่า

อีกประเด็นที่นักลงทุนถามหา คือ จะมีการเพิ่มทุนไหม ?

ทาง BBL ชี้แจงว่า ** ไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุน **  สำหรับแหล่งเงินทุนที่มาใช้ในการซื้อหุ้นครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เงินทุนภายในและแหล่งเงินทุนที่ได้จากการจัดหาเงินทุนตามปกติของธนาคาร คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2563 และ คาดว่าจะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ อีก 10.88% จากผู้ถือหุ้นรายย่อย ในราคาเสนอซื้อ เดียวกันภายหลังการทำธุรกรรมแล้วเสร็จ

มองกลับมาที่ Bank Permata จะเห็นได้ว่าธนาคารมีสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 12 ในอินโดนีเซีย มี 332 สาขา (ทั้งสาขาขนาดใหญ่และเล็ก) มี ATM 989 ตู้กระจาย 62 เมือง มีพนักงาน 7,670 คน มีสินเชื่อ 2.34 แสนล้านบาท เงินฝาก 2.59 แสนล้านบาท สินเชื่อ 32% เป็นของรายย่อย, 26% เป็น SME และ 42% เป็นรายใหญ่

ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 1.75 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 0.53 พันล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 1.67 หมื่นล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 13.4 พันล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1.75 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.62 พันล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 1.53 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.93 พันล้านบาท

 

ผลประกอบการของ Bank Permata ในอดีตที่ผ่านมา
(ขอบคุณข้อมูลจาก : Finance Yahoo)

 

ปัจจุบัน หุ้น Bank Permata ซื้อขายกันในระดับ P/E 24.7 เท่า และ P/BV ประมาณ 1.55 เท่า โดยบริษัทยังไม่เคยมีประวัติการจ่ายปันผล (ข้อมูลจาก finance.yahoo)

สำหรับผลประกอบการของ BBL ที่ผ่านมา …

ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 1.43 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 3.4 หมื่นล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 1.40 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 3.18 หมื่นล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1.47 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 3.30 หมื่นล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 1.54 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 3.53 หมื่นล้านบาท

ปัจจุบันหุ้น BBL ซื้อขายกันในระดับ P/E 8.58 เท่า และ P/BV ประมาณ 0.72 เท่า และปันผลประมาณ  4.02%

จะเห็นได้ว่า BBL ใหญ่กว่า Bank Permata มาก กำไรสุทธิแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย โดย Bank Permata มีกำไรระดับ พันล้านบาท แต่ BBL สูงถึงระดับ 3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 5% ของกำไรเดิมเท่านั้น ถ้ามีการรวมกำไรเข้าไปแล้วไม่น่าจะส่งผลอะไรมาก

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ถือหุ้นจะเบาใจไปได้นั้น คือ ไม่มีการเพิ่มทุนอย่างแน่นอน … และดูเหมือนว่าตลาดหุ้นจะมองเป็นลบมากเกินไป โดย 2 วันที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าว หุ้นของ BBL ไหลลงอย่างรวดเร็วจากระดับ 172 บาท มาแตะระดับ 153 บาท คิดเป็น 19 บาท เลยทีเดียว ต้องลองสำรวจความเห็นของโบรคเกอร์กันสักหน่อย

โดยโบรคเกอร์มองว่าอะไร เรามาดูกันครับ ….

บล.เคทีบี(ประเทศไทย) มองว่า จะเป็นผลบวกในระยะยาว แต่การเข้าซื้อ PT Bank Permata ถือว่าค่อนข้างแพง เพราะซื้อที่ PBV 1.77 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารในประเทศไทย แต่ถ้ามองในอินโดนีเซีย ถือว่ามูลค่าของแบงค์ค่อนข้างเกาะกลุ่ม คงคำแนะนำ "ซื้่อ" ให้ราคาเหมาะสม 185 บาท

บล.ฟิลลิป มองว่า ดีลการเข้าซื้อครั้งนี้ของ BBL ค่อนข้างแพง แต่ทาง BBL ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน โดยหลังเข้าซื้อเงินกองทุนทั้งหมดจะลดลงจาก 20.7%เหลือประมาณ 17.2% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 จะลดจาก 17.7% เหลือ 14.5% ซึ่งยังสูงอยู่ คาดว่าจะซื้อแล้วเสร็จภายในปี 2563 แต่ไม่มีผลต่อ BV อย่างมีนัยทำให้ราคาพื้นฐานยังคงไว้ที่ 235 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 217 บาท โดยจะทำให้ BBL มีสินเชื่อและเงินฝากเติบโต 10% จากระดับสิ้น 3Q62 หลังซื้อกิจการ ส่วนสินทรัพย์รวมขยายตัว 9% หลังเข้าไปถือหุ้น 89% มองว่าในระยะสั้นจะไม่ได้เป็นบวกกับ BBL มากนัก เพราะราคาที่ซื้อ  P/BV 1.77 เท่า เทียบกับ P/BV ธนาคารขณะนี้ที่ 0.7 เท่า ด้าน ROE ของ Bank Permata ที่ 6% ก็ต่ำกว่า BBL ที่ 8% อย่างไรก็ตาม ถือเป็นแนวทางที่จะทำให้รายได้และกำไรของ BBL เติบโตได้

บล.ทรีนีตี้ มองเป็นกลางต่อประเด็น BBL ยื่นซื้อ Permata Bank และที่สำคัญคือ ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน ถึงแม้ว่า Permata Bank จะซื้อในราคาแพง แต่ถ้ามองถึงอัตราการเติบโตแล้วจะช่วยชดเชยจากปัจจัยดังกล่าวได้ และธุรกรรมดังกล่าวแทบไม่ได้ส่งผลกระทบด้านลบต่องบการเงินของ BBL โดยในเบื้องต้นคาดว่า ROA จะลดลงเล็กน้อย ขณะที่ ROE จะปรับตัวเพิ่มขึ้นภายหลังการรวมงบการเงิน ขณะที่ด้านเงินกองทุนยังเพียงพอ ทำให้เรายังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 205 บาท แนะนำ "ซื้อ"

ก็ถือเป็นมุมมองต่อหุ้น BBL ที่น่าสนใจโดยทุกโบรคเชียร์ "ซื้อกันหมด" และให้มูลค่าหุ้น BBL ในระดับ 200 กว่าบาททั้งนั้น ให้เหตุผลว่าหุ้น BBL ยังต่ำกว่ามูลค่าอยู่เยอะ แต่ถ้าพูดถึงดีลการเข้าซื้อแล้วมองว่าไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไร เพราะซื้อแพง นั้นเองครับ

ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุนรายย่อยแล้ว ว่าจะมองอย่างไร … เป็นโอกาส หรือความเสี่ยงกันแน่ ?

--------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/858020

https://finance.yahoo.com/quote/BNLI.JK/financials?p=BNLI.JK

https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=BBL&ssoPageId=5&language=th&country=TH

https://portal.settrade.com/C17_ResearchList.jsp?select_category=03&security_name=BBL&select_period=180

stock2morrow

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0