"เจมส์ มาร์" ดีใจ ฟีดแบ็กเลิฟซีน "ญาญ่า" กลิ่นกาสะลองดีเกินคาด ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบ รับเขินและเกร็งทุกครั้งที่เล่นเลิฟซีน อีก 10 ครั้งก็คงไม่ชิน ปัดอัปค่าตัวเพราะละครดัง ลั่นเท่าเดิม มากกว่านี้กลัวไม่มีใครจ้าง
ฟินจิกหมอนกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว สำหรับฉากเข้าหอของอ้ายหมอทรัพย์กับอี่นายกาสะลอง หลังจากที่หนีหัวซุกหัวซุน ทำเอาคนดูลุ้นนั่งไม่ติดมานาน วันนี้ได้เจอหนุ่ม "เจมส์ มาร์" ในงานแถลงข่าวโครงการ "รวมใจไทย สืบสาน พระปณิธานหมอเจ้าฟ้า" ณ ห้องสิรินธร อาคารเฉลิมพระ เกียรติ ชั้น G รพ.ศิริราช เจ้าตัวก็ยอมรับว่าฉากเลิฟซีนกับสาว "ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์" เขินอยู่ไม่น้อย
"ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แล้วก็ชื่นชอบ ฉาก แล้วก็ละครเมื่อคืนนี้ จริงๆ ละครเมื่อคืนนี้บอกเลยมีจุดพีกหลายๆอย่างมาก มีทั้งฝั่งซ้องปีบ มีทั้งฝั่งนายแคว้น ก็คือเหมือนอารมณ์ว่าใครทำกรรมไรไว้ก็จะได้รับกรรมนั้นไปครับ แต่ว่าหมอกับกาสะลองได้หนีกันมาจนกระทั่งได้มีความสุขแต่งงานกันแล้วก็ดีที่ทุกคนชอบ ฉากที่เรานำเสนอครับ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าฉากเลิฟซีนจะค่อนข้างอาร์ตๆ นิดหนึ่ง ก็ดีใจที่ทุกคนชื่นชอบนะครับ แต่หลังจากนี้ก็ต้องไปดูว่าจะมีความสุขได้นานขนาดไหน"
"ฟีดแบ็กก็โอเคนะ ไม่มีใครว่าอะไร ไม่มีใครขัดอะไร ไม่มีใครเหมือนแบบดูแล้ว ใช่เหรอ ก็โอเคแล้ว ส่วนตัวได้ดูวันถ่ายละครครับ ก็ได้เห็นฟีคแบ็กในทวิตเตอร์ ก็ดีใจที่ทุกคนชอบ แล้วก็เห็นแล้วก็รู้สึกว่า พูดง่ายๆ ซีน ก็เป็นที่ชื่นชอบ เราก็ดีใจไปกับตัวละคร ก็ถือว่าหน้าที่ของเรา ประสบความสำเร็จครับ"
รับรองมีฉากพีกๆ อีกเยอะ ต้องลุ้นกันต่อไป ว่าจะเป็นแบบไหน จะพีกแบบในมุ้งหรือเปล่า
"ไม่มีแล้ว เอ๊ะ หรือเปล่า โอเค พีกอ่ะมีแน่นอน แต่มันจะพีกแบบในมุ้งหรือเปล่า อีกเรื่องหนึ่งครับผม (ยิ้ม) ออกตัวไว้ก่อนว่ามีพีกแน่นอน เพราะว่าเรื่องราวมันยังไม่จบครับผม แต่ถามว่ามีพีกไหม โอ้โห อีกเยอะครับ แต่ว่าจะเป็นแบบเดียวกันหรือเปล่า จะเป็นแบบในมุ้งหรือเปล่า ต้องไปดูครับผม"
บอกฉากเลิฟซีน ทำตามแบบที่ผู้กำกับอยากได้
"ก็แบบที่ออกมานั่นแหละ (หัวเราะ) คือพี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) เขาบอกว่า โอเคแหละ ด้วยเนื้อเรื่องคือมันหนีกันมาขนาดนั้น รักกันมาขนาดนั้น มันก็เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของที่คนเขารักกัน เหมือนกับแบบว่าพอแต่งงานกันแล้ว ใช่ไหม ก็เข้าหอก็ว่ากันไป ทีนี้พี่สันต์เขาก็จะดีไซน์มุมกล้อง แสง มันจะดูนัวๆ มันจะดูแบบ พูดง่ายๆ คือสาดไฟเข้าไปเยอะมากเลยครับ แล้วก็มีมุมท็อป มีมุมข้างอะไรอย่างนี้ มีอินเสิร์จมือ อย่างที่บอกครับมันเป็นศิลปะของการละคร แล้วอันนี้ก็จะเป็นแนวที่พี่สันต์เขาบรีฟไว้อย่างนี้ โอเคเราต้องขออนุญาตก่อนเราต้องเซฟฉากซึ่งกันและกันครับ"
รับเขินหนักเล่นเลิฟซีน ขอบคุณญาญ่าที่ไว้ใจ และเล่นเต็มที่เหมือนกัน
"เขินอยู่แล้วครับ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราในฐานะนักแสดง ณ ตอนนั้นเราเป็นหมอทรัพย์ เรารู้สึกเขินอยู่แล้วล่ะ โอเค ถ้าถามว่าเรารู้สึกยังไงที่เราเล่นเราเล่นฉากนี้กับญาญ่า ก็ขอบคุณที่ญาญ่าเต็มที่ แล้วก็ไว้วางใจเรา ในการเล่นฉากนี้ แล้วเราก็ดีใจที่ได้ทำมันออกมาเต็มที่ แล้วก็ตามที่ผู้กำกับต้องการครับ แล้วก็ที่ผู้จัดต้องการครับ"
ก่อนเข้าฉากเลิฟซีน มีการคุยกันก่อนทุกครั้งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเล่นกับนางเอกคนไหน จะได้รู้จังหวะกัน
"มีการคุยกันครับ เรื่องแบบนี้เราต้องคุยกัน คุยกันทุกคนอยู่แล้วครับ ที่เราทุกคนเข้าฉากกันแบบนี้ด้วย แต่ละคนก็จะมีจังหวะที่ไม่เหมือนกัน เราก็จะต้องคุยกันว่าเดี๋ยวถ้าเป็นอย่างนี้ เราจะอย่างนี้ อย่างนี้นะ อะไรประมาณนี้ครับ"
เผยเกร็งทุกครั้งที่เล่นเลิฟซีน จะอีกกี่สิบครั้งก็คงไม่ชิน
"มันเกรงอยู่แล้วครับ คือให้ใครมาเล่นฉากนี้ ให้เล่นอีก 10 ทีผมว่าเขาก็ต้องรู้สึกเกร็งบ้างแหละ เพราะว่ามันเป็นฉากสำคัญของเรื่องด้วย มันไม่ใช่แค่เราคิดว่ามันคือเลิฟซีน คือมันมีอะไรมากกว่าคำว่าเลิฟซีน มันเป็นเรื่องของความรัก ความรู้สึก ความทุ่มเท ทุกอย่างที่เราผ่านพ้นมาในละคร มันต้องมารวมในฉากนี้ มันก็ต้องตื่นเต้น เกร็งเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับผม"
ช่วงนี้ออกงานเยอะขึ้น เป็นผลพลอยได้มาจากละคร
"ก็เรื่อยๆ ครับผม เพราะว่าตอนนี้คือส่วนหนึ่งละครออนแอร์แล้วเราโปรโมตละครเยอะด้วย ก็มีโอกาสได้ออกงานได้เจอแฟนๆ แล้วก็ได้เจอพี่ๆ สื่อด้วยครับก็ถือว่าโชคดี แล้วก็ดีใจครับ"
ปัดคิวแน่นทำงาน 7 วัน
"ไม่แน่นขนาดนี้ครับ ไม่แน่นขนาดนั้นครับ คือเราก็ต้องถ่ายละครด้วย แล้วก็มีเวลาพักผ่อนอยู่แล้วครับผม อย่างวันนี้เดี๋ยวเสร็จก็คงดูละครแล้วครับ (หัวเราะ) งานเยอะก็แบ่งเวลาได้ อันนั้นแบ่งชัดเจนอยู่แล้วครับ คิวละคร จันทร์ พุธ ศุกร์ ยกตัวอย่างก็ส่วนใหญ่คิวละครก็จะเป็นหลัก แต่ทีนี้ถ้าเขาไม่ถ่ายเขาก็จะบอกเราก่อน ไม่พัก ก็ทำงานได้เช่นเดียวกันหรือว่าจะไปไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ก็คือ ทำให้ชัดเจนครับ ส่วนใหญ่ละครก็คือละคร หรือว่างานอีเวนต์อีกก็จะเป็นวันที่ไม่มีคิวละครครับผม ก็จะเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์"
เปรยงานส่วนใหญ่ผู้จัดการเป็นคนสกรีนให้ ตนไม่ได้ตัดสินใจเอง
"ส่วนตัวผมไม่ได้สกรีนอยู่แล้วครับ ส่วนใหญ่ก็ให้ทางทีมงาน แล้วก็ผู้จัดการเขา เขาเลือกตั้งแต่แรกก็ให้เขารับ ดูตามความเหมาะสมพี่เอกับพี่อ๋า (ผู้จัดการ) ก็จะดูผมเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ เราก็มีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด แล้วก็เอ็นจอยไปกับมันครับ เอ็นจอยคือทำทุกๆ อย่าง"
แจงค่าตัวยังเท่าเดิม ตามเรตของงาน ไม่ได้อัปเพิ่ม
"เท่าเดิมครับ ก็คือจริงๆ เรื่องค่าตัวผมเองก็เขาเรียกว่าไงแต่ละงานมันก็มีเรตของมันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราทำอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน คือค่าตัวคนเรามันไม่ได้ มันขึ้นๆ ลงๆ แล้วตามเหตุการณ์ของงาน มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว แต่ว่าผมก็เท่าเดิมครับ ผมไม่ได้อะไรมาก เราก็ทำงานแบบนี้ก็แฮปปี้แล้วครับ"
ไม่คิดฉวยโอกาสอัปค่าตัวเพิ่มเพราะละครดัง บอกแค่นี้ก็โอเคดีอยู่แล้ว
"เพิ่มขึ้นกลัวว่าเขาจะไม่จ้างนะพี่ (หัวเราะ) นี่ก็โอเคแล้วครับ อย่างที่บอกคือแต่ละงานมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว บางท่านอาจจะบอกว่าค่าตัวเปลี่ยนหรือเปล่า จริงๆ มันอยู่ที่การทำงานมากกว่า งานอีเวนต์นั้นมันต้องทำงานมากน้อยแค่ไหนตามเวลา มันก็เพิ่ม ลดเป็นธรรมดาซึ่งทุกคนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ ก็ไม่ต้องห่วงครับผมยังเท่าเดิมครับผม (หัวเราะ)"
"งานพรีเซ็นเตอร์ก็มีเรื่อยๆ ครับ ก็คือมีพรีเซ็นเตอร์ของเมื่อปีที่แล้วอยู่แล้วครับ แล้วก็ถ้าเรื่องพรีเซ็นเตอร์ใหม่ๆ ก็ต้องไปถามทางพี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) ว่ามีอะไรยังไงบ้าง ก็ต้องรอทางบริษัทนั้นๆ เขาประกาศอีกทีครับ ยังบอกไม่ได้ว่ามีอะไรใหม่ๆ แต่ว่าของเดิมๆ พรีเซ็นเตอร์เดิมๆ ที่เรามีอยู่แล้วก็ยังมีครับ เราก็เต็มที่กับงานอยู่ครับ"
