กู้ภัยฯ เคลื่อนศพ น้องกานต์ ส่งชันสูตรสถาบันนิติเวชแล้ว ขณะที่ผู้เป็นอาเผย รู้สึกอุ่นใจขึ้น จะได้รู้สาเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิต แต่อีกใจอยากให้พบ ชิ้นส่วนอวัยวะของน้องที่หายไปโดยเร็ว หวั่นวิญญาณไม่เป็นสุข
วันที่ 8 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงติดตามความคืบหน้า กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ด.ช. อนวัช นนธิจันทร์ หรือน้องกานต์ อายุ 6 ขวบ ได้หายตัวออกไปจากบ้านพักในพื้นที่ ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรีนานร่วม 3 วัน ก่อนจะมาพบกลายเป็นศพเสียชีวิตปริศนา ในสภาพมีบาดแผลคล้ายถูกสัตว์กัดแทะ ร่างเหลือแค่ครึ่งท่อนบน ส่วนท่อนล่างตลอดจนอวัยวะ แขนทั้งสองข้าง และใบหูหายไป โดยจุดที่พบศพ อยู่ภายในสวนยางพาราของ นายเกรียงวุฒิ วรรณทอง 47 ปี เพื่อนบ้าน เป็นผู้พบศพ น้องกานต์คนแรก และยังเป็นเจ้าของสุนัขพิตบูล และสุนัขพันธุ์ไทยอีก 6 ตัว ที่ตกเป็นสุนัขต้องสงสัย อาจจะมีส่วนในการทำร้ายน้องกานต์
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่พบศพน้องกานต์ พิสูจน์หลักฐาน ได้ประสาน นายเกรียงวุฒิ เข้าไปเก็บตัวอย่าง DNA จากซอกฟันของสุนัขพิตบูล และสุนัขพันธุ์ไทย รวม 3 ตัว กลับไปตรวจสอบ
ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ต. ชาญฤทธิ์ สุขเจริญ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้เชิญตัว นายเกรียงวุฒิ เจ้าของสุนัขพิตบูล เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.เมือง จ.จันทบุรี เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ขณะเดียวกันได้รับแจ้งรายงานผลการชันสูตรศพ น้องกานต์ จากแพทย์ นิติเวช พบมีบาดแผลที่เกิดจาก สัตว์กัดแทะ ชัดเจน แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เสียชีวิตจากการถูกสุนัขทำร้าย ทั้งนี้เนื่องจากศพเริ่มเน่าเปื่อย มีชิ้นเนื้อเหลือเพียงส่วนน้อย
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. กลางดึกคืน วันที่ 7 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา ทางด้าน พ.ต.อ.พงษ์ระพี ระพีถวิลวรรณ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี ได้มีคำสั่งให้ทาง พ.ต.ต. ชาญฤทธิ์ สุขเจริญ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี มารับมอบวัตถุพยาน หลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในคดี ยัง สภ.เมืองจันทบุรี จากนั้นได้เดินทางไปที่ รพ.พระปกเกล้าฯ เพื่อรับศพ น้องกานต์ เดินทางส่งชันสูตรยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ อีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัดและเพื่อให้คดี เกิดความชัดเจน
ขณะเดียวกัน นายสุทธิเกียรติ นนธิจันท์ อายุ 24 ปี อาของ น้องกานต์ ได้เดินทางมาเซ็นเอกสารยินยอมส่งร่างน้องกานต์ ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โดย นายสุทธิเกียรติ อาของน้องกานต์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกอุ่นใจขึ้นที่ทางตำรวจ ได้ให้ความสำคัญกับคดีของน้องกานต์ และจะได้รู้สาเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิต และนอกจากคืนนี้ จะมาเพื่อเดินเรื่องเอกสารแล้ว ยังถือว่าเป็นการมาส่งน้องกานต์ เพราะยังสงสารและห่วงอาลัย เหมือนน้องต้องมาเดินทางไกลไปเพียงลำพัง หากไม่ได้เดินทางมาส่ง และอยากให้ดวงวิญญาณน้องกานต์ ดลบันดาลให้พบชิ้นส่วนอวัยวะของน้องที่หายไปโดยเร็ว วิญญาณของน้องจะได้เป็นสุขไปสู่สุคติ
