โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เคลียร์ทุกข้อสงสัย Mercedes-Benz คิดอะไรถึงตัดสินใจปรับแผนธุรกิจหลายด้าน

Businesstoday

เผยแพร่ 06 ก.ค. 2563 เวลา 10.52 น. • Businesstoday
เคลียร์ทุกข้อสงสัย Mercedes-Benz คิดอะไรถึงตัดสินใจปรับแผนธุรกิจหลายด้าน

คงคาใจและมีข้อสงสัยกันสิว่า ทำไม ทำไม ทำไม เมอร์เซเดส-เบนซ์ นั้น ถึงตัดสินใจยกเลิกการทำตลาด Mercedes-Benz EQC ในประเทศไทย มีปัญหากับ บีโอไอ จริงหรือ !?! แล้วการไม่เข้าร่วมงาน Motor Show แท้จริงมีสาเหตุอะไร รวมถึงการตัดสินใจเปิดโครงการ "Charge to Change" ถูกที่ถูกเวลาหรือไม่ เคลียร์ชัดทุกคำตอบ

โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงประเด็นที่ เมอร์ซเดส-เบนซ์ ตัดสินใจยกเลิกการขายรถยนต์ไฟฟ้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวซี ด้วยสาเหตุโควตาการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ได้เพียง50 คัน จากที่ขออนุมัติต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ไป250 คัน ในช่วงทดลองตลาดก่อนการเปิดตัว ว่า บริษัทขอยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวไม่มีผลต่อการตัดสินใจยกเลิกขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าวในประเทศไทย เพราะบริษัทได้ตัดสินใจยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวของบีโอไอตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 แล้ว

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งทำให้บริษัทมีความกังวลว่างบประมาณการลงทุนในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานนีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นอาจจะถูกมีการปรับเปลี่ยนในการนำงบประมาณในโครงการดังกล่าวไปใช้ลงทุนแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขก่อน

ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศไทย รวมถึงความพร้อมของสถานีชาร์จไฟฟ้าของทุกภาคส่วนในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีจำนวนทั่วประเทศราว800-900 แห่ง จึงมองว่าเป็นสถานการณ์ความเสี่ยงซ้อนความเสี่ยงสำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย

“ยืนยันว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวซี(Mercedes-Benz EQC) ไม่เข้ามาในประเทศไทยอย่างแน่นอนโดยเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากครั้งหนึ่งของเรา”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เบนซ์ยันนำเข้า ‘อีคิวซี’ เปิดตัวปีนี้ เล็งขึ้นไลน์ประกอบในไทยปี’64

ทำไมถึงไม่เปลี่ยนเป็นเลื่อน แทนที่จะยกเลิก’ ?

ประเด็นนี้ โฟล์เกอร์  กล่าวว่า รถยนต์ทุกคันมีอายุของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการเลื่อนออกไปบนสถานการณ์ที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้นั้น อาจจะทำให้ในช่วงที่เปิดตัวนั้น กลายเป็นช่วงกลายอายุของผลิตภัณฑ์ไปแล้ว ดังนั้นในแง่การพิจารณาจึงมองว่า เหตุผลทางด้านโอกาสทางธุรกิจในการนำเข้ามาทำตลาดเมื่อเทียบกันแล้ว การยกเลิกการทำตลาดในรุ่นนี้ แล้วมองหาโอกาสในรุ่นอื่นมีโอกาสทางธุรกิจมากกว่า

อย่างไรก็ตาม การลงทุนโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทยก่อนหน้านี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทยนั้น ยังคงเป็นไปตามแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของ เมอร์เซเดส-เบนซ์

เมื่อไรประเทศไทยจะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์?

บริษัทมีแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นถัดไปในประเทศไทยภายในปี2021 ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความพร้อมหลังสถานการณ์โควิด-19 แต่จะเป็นรุ่นใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้

ความกังวลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ขณะนี้คืออะไร?

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระรอก2 เป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะยังไม่มีใครสามารถคาดเดาสถานการณ์ดังกล่าวได้ แม้กระทั่งหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านพ้นการแพร่ระบาดในช่วงแรกไปได้ยังมีการระบาดซ้ำอีกรอบ ส่วนทางด้านเศรษฐกิจในประเทศไทย แน่นอนว่าช่วงครึ่งปีหลัง จะดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน แต่หากจะกล่าวถึงการฟื้นตัวจริงๆคงจะต้องใช้เวลาราว2-3 ปี จากนี้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ปรับแผนธุรกิจอย่างไร?

สิ่งที่เราได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือการทำให้ประชาชน-ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอิน-ไฮบริด ตื่นรู้ ตระหนักรู้ ว่าการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยโลกได้และช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าตัวเองได้ เหมือนเช่นการตระหนักในการใช้หน้ากากอนามัยในช่วงโควิด-19

ดังนั้น ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้ามาลงทุนและทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน จึงได้กลับมาคิดทบทวนว่าจะมีทางใดที่เรายังสามารถใช้รถยนต์ต่อไปแต่ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้นได้บ้าง ซึ่ง EQ Power หรือ รถยนต์รุ่น ปลั๊ก-อิน ไฮบริด นั้นสามารถมอบการเดินทางที่ปราศจากมลพิษให้กับผู้ขับขี่ได้ แต่การจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ในวงกว้างนั้นต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากผู้ใช้รถยนต์ทุกคน

จึงได้เปิดตัวโครงการ"Charge to Change" เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งผู้ใช้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ ผู้ใช้รถยนต์ แบรนด์อื่น ๆ ตระหนักว่า คุณสามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนโลกให้สะอาดขึ้นได้พร้อมทั้งลดปัญหา PM 2.5 ได้ เพียงหันมาชาร์จรถยนต์ของคุณให้บ่อยขึ้น

นอกจากนี้ ยังจะประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ร่วมมือกันขับคลื่อนเพื่อผลักดันให้กรุงเทพฯ กลายเป็นฮับของการเดินทางโดยรถยนต์พลังงานสะอาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตด้วย

Mercedes-Benz
Mercedes-Benz

โครงการ“Charge to Change” แบ่งออกเป็น 3 เฟส ได้แก่

เฟส การกระตุ้นให้ผู้ใช้รถยนต์เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 

เมอร์เซเดส-เบนซ์พบว่า ผู้ใช้รถยนต์ EQ Power หลายท่านมักจะไม่ชาร์จพลังงานไฟฟ้า ด้วยสาเหตุสำคัญ 3 ประการ คือ

  • ไม่ทราบว่ารถยนต์ของตัวเองชาร์จได้
  • ไม่ทราบว่าจะชาร์จได้ที่ไหนบ้าง
  • ไม่สนใจที่จะชาร์จ เพราะเติมน้ำมันแล้วขับด้วยน้ำมันสะดวกกว่า

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงมุ่งสร้างความตระหนักรู้ ทั้งผ่านวิดีโอออนไลน์และการร่วมมือกับบุคคลชั้นนำในวงการต่าง ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่จะกระตุ้นให้ผู้ใช้รถยนต์รับรู้ว่า เพียงแค่ขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ไฟฟ้าในทุกวัน คุณก็สามารถมีส่วนช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้ทันทีในทุกการขับขี่ และไม่จำเป็นต้องเป็นรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เท่านั้น แต่ผู้ใช้รถยนต์ไฮบริดปลั๊กอินจากแบรนด์ใดก็สามารถมีส่วนช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดขึ้นได้เช่นกัน

เฟสที่ 2 การสร้างเครือข่ายการชาร์จที่มีความพร้อมและสะดวกมากขึ้นสำหรับผู้ใช้รถ

เมอร์เซเดส-เบนซ์จะร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในหลายวงการเพื่อขยายเครือข่ายการชาร์จ โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จ เพื่อทำให้ประสบการณ์ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสะดวกและเข้าถึงง่ายที่สุดสำหรับผู้ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์จะเริ่มต้นด้วยการมอบ Wallbox สำหรับการชาร์จไฟฟ้าจำนวน 100 ชุดให้กับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง

เฟสที่ 3 สู่การสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 

เมอร์เซเดส-เบนซ์มุ่งหวังให้โครงการนี้มีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นพื้นที่ของการขับขี่ด้วยพลังงานสะอาด ลดปัญหามลภาวะทางอากาศ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โฟล์เกอร์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาว3-5 ปีซึ่งเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้ใช้รถยนต์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และ รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เท่านั้น แต่เราพร้อมเปิดกว้างให้ทุกแบรนด์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างจริงจัง

ทำไมโครงการ Charge to Change ถึงเกิดขึ้นเวลานี้ แล้วทำไมไม่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ?

โครงการดังกล่าวที่เกิดขึ้นเวลานี้เป็นแผนงานตามช่วงเวลาที่วางเอาไว้ควบคู่กับการเปิดตัว เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวซี มาตั้งแต่ต้น แต่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าวได้ถูกยกเลิกการเปิดตัวในประเทศไทยไปเสียก่อน ทำให้เกิดประเด็นข้อสงสัยดังกล่าวขึ้น ซึ่งบริษัทยืนยันว่าได้มีการวางแผนมาแล้วล่วงหน้าสำหรับโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย

การไม่เข้าร่วมงาน Bangkok International Motor Show ในปีนี้จะเสียโอกาสทางธุรกิจหรือไม่ ?

การไม่เข้าร่วมงานดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องการเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่ เป็นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่ไม่เข้าร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ซึ่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในระดับโลก ก็ไม่ได้เข้าร่วมงานระดับโลกอย่าง เจนิวา มอเตอร์โชว์ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้สนับสนุนผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วประเทศ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ศูนย์จำหน่ายและบริการทั่วประเทศ (Event Showroom) ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 2653 เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดตามที่รัฐบาลกำหนด พร้อมกันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ยังได้สนับสนุนทั้งในด้าน Software และ Hardware ให้กับดีลเลอร์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลองเริ่มที่จะเสียบปลั๊กใน EQ Power ก่อนที่จะรู้จักตัวตนของรถยนต์ไฟฟ้า EQC

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0