คอลัมน์ Market Move
นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแล้ว เครื่องเสียงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังถูกดิสรัปต์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 “ไพโอเนียร์” ได้ขายธุรกิจเครื่องเสียงให้กับ “ออนเกียว คอร์ป” (Onkyo Corp.) เครื่องเสียงชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่น อาทิ “ออนเกียว” (Onkyo), “อินทีกรา” (Integra) เพื่อหันไปโฟกัสธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ และถัดมาเพียง 4 ปีต่อมาออนเกียว คอร์ปเองก็ได้เริ่มเจรจาขายธุรกิจเครื่องเสียงของตนด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างเม็ดเงินมาพยุงธุรกิจหลังประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องถึง 5 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้ “ออนเกียว คอร์ป” (Onkyo Corp.) อยู่ระหว่างเจรจาขายธุรกิจเครื่องเสียงให้กับ “ซาวนด์ยูไนเต็ด” (Sound United) ยักษ์เครื่องเสียงสัญชาติสหรัฐ เจ้าของแบรนด์ อาทิ “เดนอน” (Denon), “โพลก ออดิโอ” (Polk Audio), “บอสตัน อะคูสติก” (Boston Acoustics) และอื่น ๆ
แม้บริษัทยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของสัญญาว่า รวมถึงธุรกิจใดบ้าง แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทย่อยออนเกียวแอนด์ไพโอเนียร์ (Onkyo & Pioneer) ที่ตั้งขึ้นหลังซื้อไพโอเนียร์เข้ามาจะอยู่ในดีลนี้
ทั้งนี้ ออนเกียวประสบปัญหาตั้งแต่ช่วงปี 2000 เนื่องจากถูกดิสรัปต์จากสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยมีธุรกิจเครื่องเสียงเป็นตัวสร้างรายได้หลักถึง 70% หรือ 3.46 หมื่นล้านเยน มีกำไร 2.5 พันล้านเยน ขณะที่ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) และธุรกิจผลิตระบบเสียงของมือถือและหูฟังไปได้ไม่ดีนัก แม้ที่ผ่านมาจะพยายามร่วมมือกับ “กิ๊ฟสัน” ผู้ผลิตกีตาร์ชื่อดังและแบรนด์ทีวีสัญชาติจีน “ทีซีแอล” แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จและนำมาสู่การขายธุรกิจเครื่องเสียง ซึ่งบริษัทประเมินว่าหากปิดดีลนี้ได้จะช่วยให้บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 600 ล้านเยน
ด้าน “ซาวนด์ยูไนเต็ด” หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องเสียงพรีเมี่ยม ซึ่งเดินหน้าซื้อกิจการเข้ามาเสริมพอร์ตต่อเนื่องตามแผนเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและฟังก์ชั่น รับมือกับเทรนด์ใหม่ ๆ เช่น การเชื่อมต่อไร้สาย และสมาร์ทสปีกเกอร์ โดยเมื่อปี 2560 ได้ซื้อกิจการ “เดนอน” ผู้ผลิตเครื่องเสียงจากญี่ปุ่นอีกรายเข้ามาก่อนแล้ว
“เควิน ดัฟฟี่” ซีอีโอของซาวนด์ยูไนเต็ด กล่าวถึงดีลนี้ว่า การได้ทีมงานโนว์ฮาวและเทคโนโลยีของแบรนด์ดังอย่างออนเกียวและไพโอเนียร์เข้ามาอยู่ในพอร์ตโฟลิโอจะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาได้มากและรวดเร็วขึ้น รวมถึงเสริมสถานะหนึ่งในผู้นำในตลาดเครื่องเสียงไฮเอนด์โลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยบริษัทจะรับแอสเซตทั้งหมดของออนเกียวไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี, พนักงาน ฐานลูกค้าและช่องทางขายเข้ามาดูแลโดยไม่มีแผนลดคน
ต้องจับตากันต่อไปว่า นอกจากเครื่องเสียงแล้วธุรกิจอะไรจะถูกดิสรัปต์อีก
