งาน..ทำให้คนเราเครียดได้เสมอ พอเครียดมากเข้าก็ส่งผลกระทบกับร่างกาย จิตใจ และการใช้ชีวิตประจำวันเข้าไปอีก แถมบางคนยังเกิดอาการเครียดโดยไม่รู้ว่าตัวเองเครียด เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือต้องรู้ก่อนว่าเราอยู่ในภาวะเครียดหรือไม่ ? ถ้ารู้แล้วจะได้รับมือกับความเครียดได้อย่างถูกต้อง
เมื่อรู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนบางชนิดออกมามากเกินไปเพื่อตอบสนองต่อความเครียดนั้น ทำให้สมดุลฮอร์โมนเปลี่ยนไป ซึ่งมันจะส่งผลกระทบของร่างกายและจิตใจในลำดับต่อมา ส่วนผลกระทบจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่ระดับความเครียด
• ด้านจิตใจ หงุดหงิด โมโหง่าย อารมณ์แปรปรวน ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทะเลาะกับคนรอบข้างบ่อยครั้ง
• ด้านร่างกาย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย นอนหลับยาก ท้องผูก อาหารไม่ย่อย เจ็บป่วยบ่อย น้ำหนักลด
• ด้านการรู้คิด ประสิทธิการทำงานของสมองลดลง ขี้หลงขี้ลืม ไม่มีสมาธิ วิตกกังวล มีปัญหาเรื่องการคิดหรือการตัดสินใจ
• ด้านพฤติกรรม มีโอกาสใช้ยาเสพติดหรือการพนันสูงขึ้น ขาดความรับผิอบในหน้าที่การงาน พฤติกรรมการกินการนอนเปลี่ยนไป สมรรถภาพทางเพศลดลง
อาการเหล่านี้ช่วยวิเคราะห์ได้ว่าเราอยู่ในภาวะเครียดทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัวหรือไม่ พอเข้าใจแล้วว่าตัวเองเครียดก็ไม่ยากที่จะหาวิธีรับมือกับความเครียดได้ง่ายขึ้น เพราะความเครียดจัดเป็นสิ่งที่สามารถสร้างปัญหาร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจเราได้เลย
ที่สำคัญไม่มีใครไม่เคยเครียด เพียงแต่จะรับมือกับความเครียดนั้นได้ดีแค่ไหน ผ่านมันไปได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ
*1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง *
สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง คนที่มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง สมบูรณ์มักปราศจากความเครียด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแข็งแรงแล้วจะไม่เครียด แค่มีโอกาสเครียดน้อยกว่าคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงเท่านั้น ดังนั้นจึงควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
เมื่อสุขภาพแข็งแรงดี โอกาสที่จะเจ็บป่วยก็น้อยลง ส่วนการออกกำลังกายนั้นจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดี เพราะในระหว่างออกร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจึงมักมีสุขภาพจิตที่ดีและแจ่มใส
*2. ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด *
สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทำงานก็คือ ปัญหา เมื่อมีปัญหาเข้ามา ความเครียดก็ย่อมต้องตามมาด้วยเสมอ ดังนั้นเมื่อเลิกงานหรือเมื่อมีวันหยุด มีเวลาพักผ่อน ลองหากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ตัวเองชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้เราผ่อนคลายความเครียดได้ไม่มากก็น้อย ถ้ามัวแต่โฟกัสอยู่กับงาน อยู่กับปัญหาก็ไม่มีทางที่จะหนีความเครียดให้พ้นได้เลย
*3. พักผ่อนให้เพียงพอ *
ดอกจันสามดอกและไฮไลท์เรื่องการพักผ่อนไว้เลย วิธีหนีจากความเครียดที่ดีที่สุดก็คือการพักผ่อน ยิ่งนอนเยอะ นอนเต็มอิ่มมากเท่าไหร่ ความเครียดก็ยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น
เพราะการนอนกับความเครียดมีความสัมพันธ์กันค่อนข้างมาก ยิ่งเครียดบวกกับนอนไม่พออีก สุขภาพร่างกายจะยิ่งแย่ลง ต้องพยายามจัดสมดุลชีวิตให้พอดี แบ่งเวลาการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม ไม่จำเป็นอย่านำงานมาทำที่บ้านเพราะบ้านควรเป็นสถานที่พักผ่อน
*4. ปล่อยวาง *
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการปล่อยวางทำให้เราวางความเครียดได้อย่างยั่งยืนที่สุด การปล่อยวางไม่ใช่การไม่รับผิดชอบ แต่คือการมองโลกตามความเป็นจริง ตามสิ่งที่มันควรจะเป็นไป วิธีนี้จะช่วยให้เข้าใจปัญหามากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นการเข้าใจอย่างถ่องแท้และลึกซึ้งด้วยว่าปัญหาหรือความเครียดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร
นอกจากนี้ควรจะฝึกยอมรับว่า บางปัญหาเราไม่สามารถแก้ไขได้ ถึงเครียดไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี เพราะฉะนั้นการยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับปัญหาบางอย่างอาจเป็นทางเลือกทีดีที่สุด และไม่ควรเก็บปัญหาไว้คนเดียว การหาคนที่ไว้ใจอย่างเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวมาร่วมพูดคุยด้วย จะช่วยระบายความเครียดได้อีกทางหนึ่ง
*ที่สำคัญที่สุดก็คือถ้าจัดการความเครียดด้วยตัวเองไม่ได้ แนะนำให้ไปพบผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์ เพราะหากเครียดนาน ๆ จนไม่สามารถจัดการตัดเองได้ ก็มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า การพบแพทย์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แพทย์จะให้คำแนะนำอย่าเหมาะสมหรือถ้าเครียดมากเกินไป อาจจะได้ยาบางอย่างมาทานเพื่อลดความวิตกกังวลและคลายความเครียดลงไปได้บ้าง *
