โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เคยกินมั้ย? “มะละกะ” ผลไม้สุดแปลกคล้ายลองกองและลางสาด ผลไม้หากินยากของ อ.ตะกั่วป่า

สยามรัฐ

อัพเดต 21 ส.ค. 2562 เวลา 02.14 น. • เผยแพร่ 21 ส.ค. 2562 เวลา 02.14 น. • สยามรัฐออนไลน์
เคยกินมั้ย?  “มะละกะ” ผลไม้สุดแปลกคล้ายลองกองและลางสาด ผลไม้หากินยากของ อ.ตะกั่วป่า

ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ ลูกมะละกะ ผลไม้ชื่อดังประจำอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ออกสู่ท้องตลาด ให้ผู้ที่ชื่นชอบได้ลิ้มชิมรส ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มีรูปร่างของผลคล้ายกับลองกองและลางสาด ซึ่งคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็จะไม่สามารถแยกไม่ได้เลย แต่เมื่อได้ลองลิ้มชิมรสชาติของมันแล้ว ก็จะรู้ได้เลยว่าแตกต่างกับลองกองและลางสาดอย่างชัดเจน เพราะลูกมะละกะ เมื่อปอกเปลือกออกจะไม่มียาง มีความหวานแบบเย็นๆ เนื้อแห้ง เคี้ยวหนึดๆคล้ายกับวุ้นมะพร้าวหรือเยลลี่ ทำให้ได้รับความนิยมในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก แต่ผลผลิตมีน้อยจนต้องมีการสั่งจองในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด และทำให้มีราคาสูงกว่าลองกองและลางสาด

นายประวุฒิ ลิ่มอ้อ อายุ 47 ปี เกษตรกร ที่บ้านบางลาน ม.5 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวว่า ต้นมะละกะในสวนข้างบ้านมีอยู่5 ต้นน่าจะมีอายุมากกว่า 50 ปี เพราะเมื่อตนเองจำความได้ก็มีอยู่แล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ก็มีกันบ้านละ 4-5 ต้น ไม่ได้มีการปลูกเป็นสวนเหมือนกับลองกองหรือลางสาด นอกจากความแตกต่างในเรื่องของรสชาติแล้ว ในส่วนของลำต้นและใบก็ต่างกัน เปลือกลำต้นของมะละกะจะขรุขระกว่าลองกองและลางสาด ใบมีลักษณะกลมมนและใหญ่กว่า ส่วนระยะเวลาจากออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวก็พอๆกัน ผลจะเป็นช่อเหมือนกัน แต่ลุกมะละกะจะร่วงหลุดจากช่อง่ายกว่ามากทำให้ที่วางขายกันอยู่มักจะไม่ค่อยมีเป็นช่อๆ ปัจจุบันยังไม่มีเกษตรกรรายใดทำเป็นสวนมะละกะโดยเฉพาะ แต่จะปลูกแซมในสวนผลไม้อื่นเท่านั้น สำหรับปีนี้ช่วงผลผลิตออกใหม่ๆขายได้กิโลกรัมละ 50-60 บาท แต่ล่าสุดขายปลีกกิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ที่สูงกว่าทั้งลองกองและลางสาด

ว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า เปิดเผยว่า มะละกะ เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับลางสาดและลองกอง เริ่มปลูกครั้งแรกที่บ้านบางลาน ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยเล่ากันว่ามีชาวอำเภอตะกั่วป่านำเมล็ดมาจากประเทศอินโดนีเซียมาเริ่มปลูก จากนั้นก็ได้มีการขยายพันธุ์ไปปลูกในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ไม่ได้มีการปลูกเพื่อการค้า ทำให้มีกันบ้านละไม่ถึง 10 ต้น คาดว่ามีพื้นที่ปลูกรวมกันไม่ถึง 5 ไร่ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่แปลกมีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงกลายเป็นผลไม้ชื่อดังประจำอำเภอตะกั่วป่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0