จากกรณีที่มีผู้สมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานของสำนักงานคณะกรรรมการแข่งขันทางการค้า(สขค.) หรือ OTCC เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้โพสข้อความผ่านโซเซี่ยลมีเดียถึงความไม่โปร่งใส่และไม่ยุติธรรมสำหรับผู้สมัครเข้าสอบเกือบ 200 คน ที่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากห้องสอบด้วยเหตุผลไม่เขียนชื่อด้วยตัวบรรจง ทำให้หมดสิทธิ์ในการสอบ ตามที่เสนอไปก่อนหน้า
เกีี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังสขค. พบว่า ผู้บริหารอยู่ระหว่างการหารือซึ่งจะมีการชี้แจงในภายหลัง โดยระบุว่า ทางคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก ได้ดำเนินการจัดสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานของ สขค.ในวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปรากฎว่ามีผู้ข้าสอบจำนวนหนึ่งมีความข้าใจอันคลาดเคลื่อนที่เกี่ยวกับการลงลายมือชื่อตัวบรรจงตาามที่ระบุไว้ในบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ
กรณีดังกล่าวทางสขค. ขอเรียนชี้แจงว่าคณะกรรมการมิได้นิ่งนอนใจและขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการอย่างเร่งด่วนในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยคณะกรรมการจะประกาศผลการพิจารณาให้ทราบโดยเร็วที่สุดต่อไป
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ในประกาศรับสมัครระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้สมัครต้องเขียนด้วยตัวบรรจง ซึ่งได้แจ้งเตือนผู้สมัครผ่าน sms ก่อนวันสอบแล้ว สำหรับการแจ้งข่าวแก่ผู้ที่ยุตติการสอบ 104 คนนั้นจะส่ง sms ไปยังทุกคนโดยตรงถึงผู้สมัครได้มีการให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ในขั้นตอนสมัครที่กำหนดให้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่จะรับข้อมูลข่าวสารผ่านทาง sms ซึ่งในช่วงก่อนที่จะมีการสอบได้มีการแจ้งข่าวสารผ่านทาง sms ให้กับผู้สมัครเพื้อแจ้งเตือนการเตรียมตัวเข้าสอบ ประมาน 10 ครั้ง
เข้าใจคลาดเคลื่อน ปมผู้สอบร้อง ไม่เซ็นชื่อตัวบรรจงถูกตัดสิทธิ์สอบ เล็งให้สอบใหม่
ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้รับทราบตามหนังสือที่มีการชี้แจงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ระบุว่า กรณีนี้ไม่ใช่การทุจริตแต่เป็นการที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศรับสมัครในเรื่องนี้มีผู้ที่เข้าข่ายอยู่ประมาณ 100 คน จากผู้เค้าสอบ 1,261 คน ซึ่งในตอนแรกคณะกรรมการคุมสอบของจุฬาฯ ได้นำผู้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องที่เซ็นชื่อโดยไม่ได้เขียนตัวบรรจงมาที่คณะกรรมการกลางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของสขค.โดยมีอาจารย์จากจุฬาฯเป็นผู้อำนวยการสนามสอบและหัวหน้าสนามสอบ
นายวิชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นได้มีการหารือร่วมกันแล้วและเห็นว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องจึงให้ยุติการสอบ ต่อมามีผู้ที่ปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องในลักษณะนี้อีกหลายรายแต่เนื่องจากมีการให้ยุตติการสอบ และเข้าใจว่าผู้สมัครได้ออกจากพื้นที่สอบไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางอาจารย์เห็นควรว่าต้องกำหนดให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน
นายวิชัย กล่าวอีกว่าโดยหลังจากที่ได้รับทราบแล้วเรื่อง ก็เห็นว่าควรจะต้องมีการเชิญมาชี้แจงและให้สอบใหม่สำหรับ 104 คน โดยมีการเปลี่ยนข้อสอบใหม่ และกำหนดวิธีปฏิบัติตามมาตรฐานการจัดให้มีการสอบใหม่ ซึ่งทาง จุฬาฯได้เตรียมการเพื่อเปิดให้สอบใหม่แล้ว ทั้งนี้ ทางสขค. อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เป็นหน่วยงานใหม่ แรกเริ่มจัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นในกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายใน กรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเป็นเลขาธิการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบประกาศใช้บังคับ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2560
โดยให้ยกเลิก พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 และให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าขึ้น เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ และให้มีฐานเป็นนิติบุคคล มีคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า 7 คน และให้เลขาธิการเป็นเลขานุการคณะกรรมการ การฟ้องคดีอาญาและการฟ้องคดีเรียกค่าเสียหาย ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
