เก๋มาก รวมนามสกุลสองตระกูล ตั้งชื่อจริง “น้องมีบุญ” “ต้น” เปิดใจสุดประหม่า พาลูกลงอ่าง

“อีฟ พุทธธิดา” แถลงคลอดลูกก่อนกำหนด ตั้งชื่อ “น้องมีบุญ” นำนามสกุลสองตระกูลตั้งชื่อจริง ด้านคุณพ่อมือใหม่เปิดใจถึงกับร่ำไห้ บินด่วนจากประจวบฯ เผยสุดประหม่าพาลูกลงอ่างครั้งแรก ไม่มายด์ลูกใช้นามสกุลเมีย อยากให้ครอบครัวศิระฉายามีคนสืบทอดวงศ์ตระกูล

คลอดลูกชายก่อนกำหนด ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. สำหรับ “อีฟ พุทธธิดา ศิระฉายา” โดยเจ้าตัวเริ่มรู้สึกเจ็บท้องตอนตี 2 ของวันที่ 10 ม.ค. และมีน้ำเดินตอนตี 4 และผ่าคลอดตอน 7 โมงเช้า ตั้งชื่อลูกชาย “น้องมีบุญ ด.ช.ศักดาพร ศิระฉายา” ในขณะที่ “ต้น เติมศักดิ์ ศักดาพร” สามีรีบบินด่วนมาจากประจวบฯ ล่าสุด อีฟได้แถลงข่าว ที่รพ.สมิติเวช สุขุมวิท พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว ทั้งสามีและ คุณตา “ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา” คุณยาย “อรัญญา นามวงศ์” เจ้าตัวก็เผยให้ฟังว่า…

อีฟ : “จริงๆ เรามีแพลนจะผ่าอยู่แล้วนะคะ ก็ดูฤกษ์ไว้เป็นวันที่ 19 ม.ค. แต่คืนวันที่ 10 ไม่มีใครอยู่เลย คุณพ่อก็อยู่ต่างประเทศ ต้นก็ไปดูงานต่างจังหวัด ก็อยู่กันแค่อีฟกับคุณแม่แล้วก็น้องสาวต้น เขามานอนเป็นเพื่อน อาการก็คือเหมือนมีน้ำผสมเลือดไหลออกมา แต่ว่าเป็นสีชมพูจางๆ มากๆ เรารู้ว่ามันไม่ใช่อาการน้ำเดิน แต่ไม่แน่ใจว่ามันมีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า”

“แล้วมันก็ยัง 9 วันล่วงหน้าก่อนจะถึงกำหนด ซึ่งก็ไม่ใช่กำหนดในช่วงปลายด้วย เรากำหนดที่ 39 อาทิตย์ ซึ่งจริงๆ แล้วเด็กสามารถคลอดได้ใน 40 อาทิตย์เต็ม ก็คิดว่าอาจจะเป็นสัญญาณเตือนหรือเปล่า แต่รอไปสักครึ่งชั่วโมงก็มีอาการมดลูกบีบตัว เราปวดผิดปกติจากที่เคยปวด ก็ยังรออยู่อีกเป็นชั่วโมงนะ ก็ตัดสินใจไปปลุกคุณแม่ แม่เลยบอกว่าโทร.ไปที่โรงพยาบาลก่อนแล้วกัน เพราะมันมีน้ำสีชมพูออกมามันก็ไม่ควรจะวางใจ”

“ทางโรงพยาบาลเลยแนะนำว่าถ้ามาได้ก็เข้ามาเลยจะได้มาตรวจการบีบตัวของมดลูก ก็ตัดสินใจไป ตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะคลอด คิดว่าอาจจะเป็นสัญญาณเตือนแค่นั้น ก็มากัน 3 คน เพราะวันนั้นเหลือกันอยู่แค่นั้น (หัวเราะ) มาถึงโรงพยาบาลตอนตี 3.33 นาที (ยิ้ม) มาถึงก็ตรวจการบีบตัวของมดลูกก่อน พอตี 4 พยาบาลก็มาขอตรวจปากมดลูก เพราะการบีบตัวของมดลูกมันสม่ำเสมอแล้ว พอตรวจปากมดลูกปุ๊บน้ำเดินเลย ก็รู้ตัวเลยว่าต้องคลอดแล้ว พยาบาลก็เลยติดต่อกับทางคุณหมอที่ฝากท้องไว้ คุณหมอก็แจ้งว่าประมาณ 7 โมงจะทำการผ่า”

ต้น : “ผมก็มารู้ตอนที่น้องสาวโทร.มาตอนตี 4 ตอนนั้นใจตกตุ๊บ (หัวเราะ) แน่นอนว่าอีฟจะคลอดแล้ว แต่เราแพลนไว้แล้วว่าจะคลอดวันที่ 19 ผมก็แพลนไว้ว่าจะเข้าไปในห้องคลอด แล้วต้องตัดสายสะดือให้ได้ เพราะลูกชายคนแรก ตอนนั้นก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน น้ำตาก็ร่วง คิดว่าทำยังไงดีที่จะกลับให้เร็วที่สุด ตอนนั้นอยู่ประจวบฯ ก็เลยให้น้องสาวช่วยหาไฟลต์ว่าไฟลต์ไหนเร็วที่สุด ทางนี้ก็บอกว่าน่าจะคลอดเลทๆ หน่อย เพราะอีฟเขาบอกว่าจะรอ”

อีฟ : “ตอนแรกก็คิดว่าจะอั้นรอนะคะ แต่มันไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ) ตอนแรกเราก็คิดว่า 7 โมงน่าจะเลทๆ หน่อยน่า เขาอาจจะมาทันพอดีลูกร้องแว๊ก็ได้ ก็ภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้น”

ต้น : “สุดท้ายตอนอยู่บนเครื่องเปิดดูโทรศัพท์ก่อนที่จะปิดเป็นไฟลต์โหมด น้องสาวก็พิมพ์มาพอดีว่าคลอดแล้วนะ ตอนนั้นพนักงานบนเครื่องก็เดินมาบอกว่าปิดโทรศัพท์ด้วยนะคะ จบเลยตอนนั้น (หัวเราะ) ทำอะไรไม่ได้แล้ว พอมาได้เห็นหน้าลูกก็คิดว่าเขาคลอดออกมาปลอดภัยก็ดีแล้ว”

อีฟ : “คนที่เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนคือน้องสาวค่ะ ก็เลยได้มีวิดีโอให้เห็นในไอจี ก็กลัวเหมือนกันค่ะ เพราะตัวมันชาไปหมด ไม่รู้สึกอะไรเลย ก็เลยนอนชิลมาก คุณหมอลงมีดก็ไม่รู้สึกอะไรเลย”

รับลูกต้องเข้าตู้อบ แต่ 2 วันก็กลับมาเป็นปกติ

อี๊ฟ : “ก็จะมีกลูโคสต่ำ ภาวะน้ำตาลต่ำ แล้วก็อุณหภูมิร่างกายของเขาน้อยไปหน่อย เพราะฉะนั้น 2 วันแรกน้องต้องเข้าตู้อบ เพราะว่าตัวเล็กและตัวเย็น แต่หลังจาก 2 วันก็ปกติดี และมีภาวะตัวเหลืองนิดหน่อย คุณหมอก็ให้ดูอาการโดยการส่องไฟ ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”

สบายใจจนน็อกหลับหลังได้ยินเสียงลูกร้องครั้งแรก

อีฟ : “ความรู้สึกแรกคือได้ยินเสียงเขา ตอนได้ยินแว๊แรกก็รู้สึกว่าเขามาแล้ว ตอนเห็นเขาเราก็ยังง่วงๆ นะ แต่ก็สบายใจที่เห็นเขาสมบูรณ์ พอรู้ว่าสมบูรณ์ดี ปลอดภัยแข็งแรงดี ไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วงลุกขึ้นมา เราก็หลับเลย เพราะว่าให้ยา”

ต้น : “สำหรับผมมาถึงตอนเกือบๆ จะ 10 โมงแล้ว เห็นครั้งแรกนี่เกือบยกมือไหว้แล้ว อ้าวพ่อตานี่เอง (หัวเราะ) คือหน้าคล้ายพ่อตามาก อีกอย่างโชคดีที่ตาสองชั้น เพราะผมตาชั้นเดียว เขาตาสวย”

ตั้งชื่อ “น้องมีบุญ” เพราะมีบุญที่ได้มาเกิดเป็นลูกของเรา ชื่อจริงรวมนามสกุลสองวงศ์ตระกูล

ต้น : “คือทางเราตกลงกัน เพราะผมเองก็ชอบ ชื่อเป็นสิริมงคลดี เราก็คิดว่าเราโชคดีมีบุญที่น้องเขามาเกิดเป็นลูกเรา”

อีฟ : “และเราก็คิดว่าน้องเขาก็โชคดีมีบุญที่ได้มาเกิดเป็นลูกเราด้วยเหมือนกัน จริงๆ แล้วชื่อนี้มาจากที่ว่าพ่อเขาใช้ชื่อต้นบุญ ในไอจีในอะไรต่างๆ แล้วต้นเขาก็ชอบทำบุญ อีฟก็ชอบทำบุญ ทีนี้เราก็ต้องการชื่อไทยที่เป็นชื่อเล่นที่เรียกได้ทุกชาติแล้วไม่เพี้ยน เพราะเดี๋ยวนี้เด็กก็ต้องเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ต้องมีเพื่อนต่างชาติเราก็พยายามหาชื่อที่ไม่มีวรรณยุกต์เพื่อที่เสียงจะได้ไม่เพี้ยนเวลาเรียก อีฟก็เลยบอกว่าชื่อ มีบุญ ก็น่าสนใจนะ พ่อเขาก็ชอบ ก็เลยตั้งกันไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ”

ต้น : “ส่วนชื่อจริงคือศักดาพร ซึ่งคือนามสกุลของผมเอง ส่วนนามสกุลเขาก็คือศิระฉายา เป็นนามสกุลของภรรยาครับ ก็คือ ด.ช.ศักดาพร ศิระฉายาครับ”

อีฟ : “ที่ตั้งแบบนี้เพราะเคยคุยกันตั้งแต่แรกๆ แล้ว ต้องยอมรับว่าบ้านสามีใจดีมากนะคะ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่สามีใจดีและเปิดกว้างมากๆ คือเราเคยพูดกันว่าถ้ามีหลานสักคนนึง อยากให้ใช้นามสกุลศิระฉายาสักคน เพราะพ่อต้อยก็สร้างนามสกุลนี้เอาไว้ แต่ก็ไม่มีใครสืบต่อแล้ว เพราะอีฟเป็นคนสุดท้ายแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นลูกชายคนแรกนะคะ แค่คุยกันว่าอยากให้ได้ใช้สักคนนึง ทีนี้พอท้องและรู้ว่าเป็นลูกชายแล้วทางคุณพ่อของสามีก็บอกว่าคนแรกให้ใช้เลย เพราะว่าเป็นผู้ชาย ก็ขอบคุณค่ะ (ยกมือไหว้)”

ต้น : “ต้นเองก็มีน้องชาย อย่างน้อยน้องชายผมก็คงมีลูกแหละ (หัวเราะ) แล้วก็ยังมีน้องสาวด้วย ก็ยังมีตัวช่วยอยู่”

อีฟ : “ป๊ะป๋าก็เลยบอกว่าคนแรกก็ให้ใช้ได้เลย ทีนี้พอใช้ศิระฉายา ก็มาตกที่ชื่อจริงว่าจะใช้ชื่ออะไร แต่คุยกันไปคุยกันมาเราก็รู้สึกว่าลูกเป็นหลานคนแรกของทุกคน ก็เลยอยากให้มีอะไรที่เป็นของทั้งสองนามสกุล ก็เลยเป็น ศักดาพรค่ะ”

เหงื่อแตกพลั่กๆ อุ้มลูกลงอ่างครั้งแรก

อีฟ : “อีฟได้อุ้มแล้ว เพราะต้องให้นม ก็กลัวนะ เพราะเขาตัวเล็กมากเลย ตัวก็นิ่มไปหมด แต่ยังไงก็ลูกเรา ถึงกลัวก็ต้องท”

ต้น : “ผมก็พออุ้มได้ครับ แต่เหงื่อแตกพลั่กๆ เลย เราก็พยายามฟิตตัวเองเพื่อจะมาอุ้มลูกโดยเฉพาะนะ แต่กลายเป็นว่าพอเขาตัวเล็ก เราก็กลัวว่าจะจับแรงไปหรือเปล่า ที่สำคัญที่สุดคือตรงคอ เพราะคอเขายังไม่แข็ง เกร็งมากครับ (หัวเราะ)”

อีฟ : “แล้วพยาบาลก็พาไปสอนให้อาบน้ำ วันแรกอีฟก็ไปอาบ วันถัดไปก็ให้คุณพ่อเขาไปอาบ เพราะเราตกลงกันแล้วว่า อีฟท้อง คุณพ่อเลี้ยง”

ต้น : “ก็หัดแล้วครับ หัดพาลูกลงอ่าง (หัวเราะ)”

“ตาต้อย” ใจแทบขาด อยู่เยอรมัน

ต้น : “ปู่ย่าก็เห่อ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนพ่อนี่แหละ (หัวเราะ)”

อีฟ : “คุณตาก็ใจจะขาด เพราะตอนนั้นคุณตาไปเยอรมันยังไม่กลับ ก็ไลน์มาตลอดว่าอยากเห็นแล้ว เพื่อนที่มาเยี่ยมทุกคนก็จะบอกว่าเหมือนตาต้อยๆ ส่วนคุณย่ามาเฝ้าทุกวันค่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนอีฟ ส่วนคุณยายก็ไปๆ มาๆ เพราะที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย ก็จะได้มาเยี่ยมทุกคนกันเต็มๆ คือเมื่อวาน ก็ได้อุ้มถ่ายรูปกัน”

จะอยู่รพ.จนกว่าลูกจะสุขภาพแข็งแรง รับตัดสินใจตัดพังผืดใต้ลิ้น ไม่มีผลต่อการกินนมของลูก

อี๊ฟ : “ก็ต้องรอคุณหมออนุญาตเรื่องออกจากโรงพยาบาลด้วยค่ะ เพราะถ้ายังมีอะไรที่เราต้องกังวลอีฟก็ไม่อยากเทียวไปเทียวมา ก็ตัดสินใจที่จะอยู่จนได้สุขภาพของเขาเรียบร้อย ทั้งฉีดวัคซีนอะไรด้วยส่วนที่บ้านก็เตรียมพวกเครื่องกรองฝุ่น กรองอากาศไว้บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่มันกะทันหันนิดนึงก็เลยยังไม่ค่อยเรียบร้อย ก็คงต้องเตรียมให้เรียบร้อยให้มากที่สุดก่อนค่ะ แล้วถึงจะพาน้องกลับบ้านค่ะ”

“เขาก็จะมีเรื่องของน้ำหนักตัว จริงๆ เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักน้อยนะคะ แต่เป็นเกณฑ์น้ำหนักของเขาตอนอยู่ในท้อง 37 สัปดาห์ คือตามน้ำหนักของเขาเลย เพียงแต่ว่าเขาเกิดเร็ว ก็เลยดูน้อยไปหน่อย แต่โดยสุขภาพทั่วไปของเขาแข็งแรง ร้องเสียงดังและทานเก่งมาก คุณแม่ก็โชคดีมากที่ผ่าก่อนกำหนด แต่ก็มีน้ำนมตั้งแต่วันแรกเลย พอลูกกระตุ้นปุ๊บก็มีเลย โชคดีมาก น้องก็กินเป็นเลย ถึงแม้ว่าต้องตัดพังผืดใต้ลิ้น เพราะว่าพังผืดอยู่ด้านหน้ามากก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกินเท่าไหร่”

“เพียงแต่ที่เราตัดสินใจเพราะถ้าเขาโตไปแล้วอาจจะทำลำบาก คุณหมอก็แนะนำให้ทำเลย เพราะถ้าโตไปแล้วเส้นประสาทมันทำงานมากขึ้น เขาจะต้องวางยาสลบในการทำ เราเลยคิดว่าถ้าเด็กๆ เขาทำง่ายก็ทำเลย ตอนนี้ก็ไม่ต้องวางยา เพราะมันนิดเดียวจริงๆ เส้นเลือดมันยังไปเลี้ยงตรงจุดนี้ยังไม่มากนัก มันก็จะใช้เวลาน้อยมาก อีฟเองก็ไม่มีอะไร มีแค่กรดไหลย้อน เพราะพอผ่าเสร็จก็กินเยอะ (หัวเราะ) ระบบข้างในเราคงปรับตัวไม่ทัน ก็เลยเจอกรดไหลย้อนเล่นงานไปไม่ได้นอนเลย 2-3 วัน”

เตรียมทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว ขอบคุณทุกคนที่รักหลาน จะทำเกสต์บุ๊กให้เป็นความทรงจำ ให้ลูกได้อ่านตอนโตขึ้น

อีฟ : “ตัวเองยังไม่มีค่ะ ใจคิดว่าถ้าเรารับขวัญตอนนี้น่าจะสนองตัวเองมากกว่า ก็มีแต่เตรียมความพร้อมไว้ให้เขา คือของทุกอย่างของเขาเราเตรียมไว้ให้หมดแล้ว และก็อาจจะต้องมีพยาบาลไปช่วยดูแลในเบื้องต้นก่อน แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยม และขอบคุณทุกคนที่มีของมาให้หลาน ของเยอะมากเลย มีบุญมีบุญจริงๆ มีคนรักเยอะมาก มีคนให้ความเอ็นดูกับลูกเยอะมากๆ พี่ๆ บางท่านที่ไม่ค่อยได้เจอกันก็ยังมาหาและเอาของมาให้ถึงที่ เราในฐานะพ่อแม่ก็ดีใจมากๆ”

“อีฟก็ทำเหมือนที่พ่อแม่เคยทำไว้ให้เราคือทำเกสต์บุ๊กไว้ให้ทุกคนที่่มาก็จะมีรูปติดอยู่ในเกสต์บุ๊ก โตไปเขาจะได้มาอ่าน อีฟเคยอ่านของตัวเองอีฟยังรู้สึกว่ามันน่าซาบซึ้งมากเลยที่เราเกิดมาแล้วมีคนมาหาเรา มาหาพ่อแม่เราเยอะแยะ ก็คิดว่าอันนี้แหละเป็นของขวัญที่พ่อแม่จะได้ให้กับเขาในอนาคต และเป็นสิ่งที่เราย้อนกลับมาทำไม่ได้”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)