หลังจากที่นักแสดงรุ่นใหญ่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ออกมาช่วยระดมทุนและลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งในตอนนั้นยอดบริจาคพุ่งไปกว่า 422 ล้านบาท แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้น จนเจ้าตัวต้องเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองยโสธร เพราะมีผู้นำชุมชนและบุคคลบางกลุ่ม แอบอ้างชื่อทีมงานเพื่อหักค่าหัวคิวเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขณะทีมงานนำเงินมาแจกช่วยเหลือที่ จ.ยโสธร จากนั้นก็มีคนเข้าไปยื่นหนังสื่อถึงตำรวจ เช็กข้อเท็จจริงกรณีบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดรับบริจาคช่วยน้ำท่วม
โดยล่าสุด (15 ธันวาคม 2562) บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ไลฟ์สดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องที่มีคนมากล่าวหาผม อย่างนู้น อย่างงี้ ผมไม่เป็นไร ผมถือว่ามีสิทธิ์ที่จะพูด มีสิทธิ์ที่จะกล่าวหา ไม่เป็นไร ผมจะแถลงข่าวให้ดูรายละเอียดอีกที จริงๆ คนพวกนั้น ทำไมตอนที่ผมแถลงข่าว ตอนที่ผมพยายามไลฟ์สดทุกวันๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไง แล้วทำไมเขาไม่สนใจ ข้อมูลที่เขาได้มาผิดพลาดหมด มันทำให้เสียหาย บางคนก็บอกให้ผมฟ้องเลย ผมไม่ทำ อันนี้ถือเป็นความเข้าใจผิด โอเคสำหรับเขา แต่ถ้าจะมาโกงเงินของพี่น้องประชาชนเหมือนที่ยโสธรละก็ผมฟ้องแน่นอน
แต่อันนี้ถือว่าโอเคเขาเข้าใจผิด ผมก็จะไม่ฟ้อง แล้วผมก็ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดที่คุณบอกว่าเงินหายไป 50 ล้าน จะหายได้ไง คุณยังไม่ได้เอาอุปกรณ์ไฟฟ้ามารวม แล้วก็ยังมีสิ่งต่างๆ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง แล้วถ้า 422 ล้านบาทมันไม่พอนะครับ รู้ไหมว่าทางมูลนิธิร่วมกตัญญูต้องเอาเงินอีก 50 กว่าล้านบาทไปซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง คุณรู้ไหมว่าในรายการไม่มีข้าวสารอาหารแห้งเลย ถ้าไม่ได้มูลนิธิร่วมกตัญญูอีก 50 กว่าล้าน ถามว่าประชาชนเรื่องข้าวสารอาหารแห้ง เรื่องถุงยังชีพ ตั้งแต่แรกๆ ที่ผมเข้าไปเรายังไม่ได้แจกเงิน เรายังไม่ได้มอบเงิน เราใช้แต่ข้าวสาร อาหารแห้ง ตั้งกี่พันกี่หมื่นชุด ทุกจังหวัด ทุกคนที่ได้รับเงินไป 5000 บาทก็จะได้ข้าวสารอาหารแห้ง เพราะฉะนั้นมันมากกว่า 422 ล้าน มันถึงประมาณ สี่ร้อยหกสิบกว่าล้าน
เฉพาะเงินส่วนตัวของผมก็เกือบสองล้านบาท เพราะครั้งแรกๆ ที่ผมไป ผมควักเงินตลอด เพราะฉะนั้นอยากจะบอก อยากจะชี้แจงคนที่เข้ามาแล้วบอกว่าเงินจำนวนนั้น จำนวนนี้ คุณเอาข้อมูลอะไรมา คุณมาทำเพื่ออะไร แต่ผมโอเคไม่ว่าคุณ คุณมีสิทธิ์ที่จะสงสัย ไม่ต้องกลัว ผมคนจริง ในชีวิตเกิดมาไม่เคยโกง ไม่เคยกิน ไม่เคยอะไรทั้งนั้น ชีวิตผมมีแต่ให้ เพราะฉะนั้นเงินแค่นี้ นี่เงิน 4 ล้านผมยังสละได้เลย ผมไม่ต้องเอามาเลย เอามาเพื่ออะไร ผมมีมากกว่านั้นอยู่แล้ว ผมอยากให้ทุกคนมีความสุขเท่านั้นเอง
แล้ววันนั้นที่ผมไปที่เจ้าคำผงที่อุบลฯ ผมไม่ได้ไปสาบาน ผมคิดไว้ตั้งแต่แรกว่าเสร็จภารกิจผมจะไปบอกกล่าวท่าน ผมคิดทั้งหมดเลย ทั้งศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพราะเรื่องทั้งหมดเกิดที่อุบลฯ เพราะฉะนั้นผมทำภารกิจเสร็จผมก็ไปบอกว่าสิ่งหนึ่งที่ผมทำ ผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดทรยศ ไม่เคยคิดที่จะทุจริตแม้แต่บาทเดียว แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้แล้วผมก็ยินดีที่จะมอบเอกสารให้เขา หรือเขาจะตรวจสอบรายระเอียดก็เชิญเลย ประมาณ 70 ถังใหญ่ๆ ของแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด เชิญมาตรวจสอบได้ที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่นี่ เก็บไว้ที่นี่ ส่วนรายละเอียดค่าใช้จ่ายไม่ได้อุปโหลกขึ้นมา คนอย่างผมไม่มี การโกงไม่มีอยู่ในสมอง เพราะฉะนั้นจำไว้ด้วย พวกโกงๆ ชาวบ้านอย่าคิดว่าเขาจะทำเหมือนพวกคุณ ผมยินดีมาก สบายดีด้วย
ดีครับมีคนแบบนี้ในประเทศ แต่ให้ตรวจสอบทุกหน่วยงาน ไม่ได้มาตรวจสอบเพราะผมแค่เพียงอิจฉาริษยา แค่เพียงคิดว่าทำดีเด่น เกินหน้า เกินตา อย่าคิดอย่างนั้น ถ้าคุณไม่คิดอย่างนั้นผมจะดีใจด้วย แต่ถ้าคุณคิดอย่างนั้นคุณเลวมากครับ
ผมแน่จริง ผมออกมาเปิดเผยทุกวัน พวกคุณไปอยู่ไหนมา พอผมทำงานเสร็จอย่างนู้น อย่างนี้ มันเพื่ออะไร ผมไม่เข้าใจ ผมงงกับพวกคุณมาก เอาเป็นว่าเรื่องของยโสธรผมจะจัดการขั้นเด็ดขาด ผมจะเอาให้ถึงที่สุด ใครจะอยู่เบื้องหลัง ไม่เบื้องหลังผมมีหลักฐานทุกอย่าง แล้วคอยดูว่ามันจะโยงกับเพจพวกนี้ไหม ตอนแรกคิดว่าปรานี ไม่ออมชอมแล้วครับ ฟันธงเอาให้ติดคุกให้ได้
งานนี้จะจบลงยังไง แฟนๆ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า
