โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เกาะติดคดีสุดฉาว ของไอดอลเกาหลี

Jeban.com

เผยแพร่ 21 มี.ค. 2562 เวลา 17.00 น. • ST

เพื่อนๆ ชาว Jeban คงไม่พลาดเหตุการณ์สุดฉาวในหน้าประวัติศาสตร์บันเทิงเกาหลีใต้เมื่อไอดอลระดับตัวพ่อ และนักแสดงอีกหลายคนถูกกล่าวหาพร้อมหลักฐาน chat สุดเด็ดที่ใช้มัดตัวไม่ให้ดิ้นหนีความผิดไปได้ ยิ่งเรื่องราวถูกตีแผ่ออกมามากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้แฟนคลับจำนวนมากมายหัวใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี
แต่อย่างที่หลายคนได้วิเคราะห์กันไว้ นี่ไม่ใช่เป็นเพียงการแฉฉากหลังของคนดังภาพลักษณ์สวยหรูเท่านั้น แต่มันเป็นความพยายามขุดรากถอนโคนกลุ่มผู้มีอิทธิพลในสังคมชายเป็นใหญ่ใช้อำนาจกำเริบเสิบสานในทางเสื่อมเสียโดยที่เหยื่อไร้โอกาสในการเรียกร้องความเป็นธรรม
แต่ตอนนี้ บางสิ่งในสังคมเกาหลีอาจกำลังจะเปลี่ยนไป
บรรดาผู้ที่ถูกพาดพิงกล่าวหาจะอธิบายตัวเองอย่างไร เราลองมาอัพเดทเหตุการณ์กันต่อเลยค่ะ

Seungri  ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

หลังจากไอดอลคนดังได้โต้ข่าวปัดเรื่องการเป็นผู้บริหารถือหุ้น Burning Sun คลับอันเป็นต้นกำเนิดของมหากาพย์สุดฉาวโฉ่ว่าตัวเองเป็นผู้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจของคลับ ทั้งต้นสังกัดและตัวแทนของ Burning Sun ต่างแถลงตรงกัน แต่กลับถูกสื่อดังนำเอกสารมาตอกกลับว่าเขาคือหนึ่งในผู้บริหารที่ร่วมลงทุนมีหุ้นร่วมกับผู้อำนวยการคนอื่นๆ ที่นำกำไรมาจัดสรรปันส่วนกันจริงๆ
และมันอาจจะทำให้คุณสงสัยว่า เราจะได้ยินความจริงจากปากของนักร้องหนุ่มบ้างหรือไม่   ?
ล่าสุด Seungri ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sisa Press เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองแล้วค่ะ

"เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากบทสนทนาในห้องแชท KakaoTalk พวกเราแค่สะกดคำว่าผู้กำกับการผิดไป เราเป็นพวกงี่เง่าที่โอ้อวดข่มใส่กันในหมู่เพื่อนโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ทั้งนั้น " Seungri ได้อธิบายเรื่องข้อความในแชทที่ระบุว่ามีตำรวจระดับสูงคอยช่วยเหลือ แต่เพราะการสะกดผิดนั้นทำให้ชาวเน็ทสงสัยว่าพวกเขาอาจจะหมายถึงอัยการสูงสุดหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีความคล้ายคลึงกันในภาษาเกาหลี
ส่วนผู้กำกับที่ถูกระบุชื่อก็ได้ออกมาโต้กลับข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่คอยช่วยให้สมาชิกห้องแชทกลบเกลื่อนความผิดทางกฎหมาย แต่ในปี 2014 ตรงกับเวลาในแชทนั้น เขาไม่ได้รู้จัก Seungri เลย ไม่รู้จักแม้กระทั่ง Big Bang
"ข้อความใน chat ทำให้คนในสังคมคิดว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษีและมีตำรวจสมรู้ร่วมคิด ซึ่ง ณ ตอนนี้ ผมได้ตกอยู่ในสถานะที่แม้ว่าจะพูดความจริงออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ แม้แต่เจ้าที่สืบสวนเองก็ยังคิดว่าข้อความทุกอย่างใน Kakao Talk เป็นเรื่องจริงและถือว่ามันเป็นหลักฐาน ผมกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้รับการตัดสินที่เป็นธรรมด้วยเหตุผลว่าผมมีชื่อเสียงจากการเป็นคนดัง เพราะผมมีความรู้สึกผิดต่อชาวเกาหลีจึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะโอดครวญหรือโต้แย้งใดๆ "
"นอกจากนั้น ผมก็ไม่ได้ไปเล่นการพนันที่ต่างประเทศหรือเป็นคนจัดหาผู้หญิงไปให้บริการทางเพศนะครับ"
"ในตอนนั้นที่ผมบอกคนอื่นว่าตัวเองได้เงินมาเยอะแยะแล้วก็ส่งภาพเงินให้ดูน่ะ มันเป็นแค่การพูดโม้โอ้อวด ผมแค่อยากจะแกล้งอวดไปงั้นเอง ก็เลยโป้ปดออกไป A (หนึ่งใน CEO) ไม่ได้เห็นผมตอนเล่นพนัน เขาไม่ได้ไปที่นั่นกับผม คุณสามารถเช็คกับทางโรงแรมได้เลย"

และที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ฝั่ง Seungri และทนายของเขาได้แสดงออกว่าเขาคือเหยื่อ หาใช่ผู้กระทำผิดอุจฉกรรจ์ดั่งที่ถูกสังคมประนาม สิ่งที่เขาผิดพลาดไปคือการคบหากับพวกคนเลวที่บ่อลวงให้เขามาเกี่ยวข้องกับความเสื่อมเสียทั้งหลายแหล่

Sisa บังได้สัมภาษณ์กับทนายของ Seungri ที่พยายามแก้ต่างว่า ในแชทมีรายละเอียดของผู้หญิงที่จะจัดหาให้ CEO จนถูกกล่าวหาว่าทำตัวไม่ต่างจากพ่อเล้าเพราะ Seungri ได้นำเสนอโพรไฟล์ของผู้หญิงเหล่านั้นอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นอายุ อาชีพ รูปร่างหน้าตาให้ "ลูกค้า" ได้เลือกนั้น แท้จริงแล้ว CEO ได้ request ให้ Seungri หาผู้หญิงเพื่อให้เดินทางร่วมทริปไปที่อินโดนีเซีย เพื่อให้แสดงบทบาทคนรักหรือภรรยา แต่ในที่สุดแล้วพวกเขาก็เดินทางไปต่างประเทศด้วยกันโดยไม่ได้พาผู้หญิงคนใดไปด้วยเลย  
"ผมเป็นฝ่ายคนผิด ผมไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นและทำเรื่องยุ่งลงไป"

สรุปคือ เขาโบ้ยว่าไม่ได้เล่นพนัน แค่อยากจะอวดเงินกับเพื่อนๆ  และไม่ยอมรับว่ามีแบคเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องเป็นพ่อเล้า  ถึงจะมีแชทที่นำเสนอโพรไฟล์ผู้หญิงให้ชายใน chat กลุ่มเลือก  แต่สุดท้ายก็ไปต่างประเทศโดยไม่ได้มีผู้หญิงไปด้วย  ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นการค้ากาม 

ส่วนข้อกล่าวหาล่าสุดคือการเสพโคเคนและจัดหาผู้หญิงขายบริการใน party ที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้น  ทนายได้โต้ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  ตัว Seungri สามารถเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์  การตรวจหาสารเสพติดที่ผ่านมาก็มีผลเป็นลบอีกด้วย

ไม่ได้มีแต่ผู้ชายที่ถูกตามเอาผิด

นางเอกซีรีส์ Love in Sadness ที่กำลังอยู่ในช่วงออนแอร์ต้องถูกต่อต้านจากผู้ชมถึงขนาดมีการเรียกร้องให้เธอถอนตัวออกจากการแสดงในเรื่องนี้ ด้วยต้นเหตุมาจากนาย Yoo In Suk  สามีของเธอคือหนึ่งในตัวละครที่เป็นกุญแจสำคัญ เพราะนอกจากเขาจะเป็นอดีต CEO ของ Yuri Holdings ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนดำเนิน Burning Sun ร่วมกับ Seungri และถูกระบุตัวว่าเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้กำกับการ Yoon ถึงขนาดไปตีกอล์ฟด้วยกันโดยที่พาภรรยาไปร่วมด้วย ตำรวจยศสูงผู้นี้เองที่ถูกเล็งไว้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ผู้เอื้อประโยชน์ให้คลับ Burning Sun ให้รอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายเมื่อมีการกระทำผิดเกิดขึ้น นางเอกสาวสวยออกมาขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพราะการถ่ายทำซีรีส์นั้นมีผลกระทบต่อผู้คนหลายฝ่าย เธอจึงต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผลงานเรื่องนี้ดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ Love in Sadness จะมีชื่อของ Park Han Byul เป็นนางเอก แต่อนาคตทางการแสดงของเธออาจจะสิ้นสุดเพียงเท่านี้ สำหรับชาวเกาหลีใต้ ก็อาจจะไม่สามารถเปิดใจต้อนรับผู้ที่พัวพันกับ scandal ระดับชาติได้อีก เมื่อนางเอกดังไปพัวพันกับเรื่องข้อกล่าวหาติดสินบนและใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ได้มีแต่ฝ่ายสามีที่ต้องถูกสอบสวนเท่านั้น แต่อาจจะรวมถึงตัวเธอที่ต้องให้ข้อมูลในเรื่อง connection กับนายตำรวจผู้นี้
* ผูัที่คายข้อมูลเรื่องเกมกอล์ฟระหว่างนาย Yoo และผู้กำกับการYoon ก็คือ  Choi Jong Hoon  แห่ง FT Island นั่นเองค่ะ  เขาถูกเรียกตัวมาสอบสวนหลังจากที่ถูกแฉว่าเป็นหนึ่งในchat กลุ่มสุดฉาวที่กระชากหัวใจแฟนๆ

อ่านต่อ กดเลย
รีวิวจากคอมมูนิตี้จีบัน : candy
สอบถามข้อสงสัย คุย LINE@ กับ Jeban.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0