ไม่น่าเชื่อว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงที่สุดเวลานี้ ไม่ใช่ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือยุโรป แต่กลับเป็นเกาหลีใต้ หนึ่งในประเทศผู้ผลิตรถยนต์ที่จริงจังกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า และมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากแรงจูงใจของรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการซื้อยานยนต์สีเขียว
เกาหลีใต้มียอดขายรถยนต์รวม 32,000 คันในปีที่แล้ว และมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้านับแสนคันแล้วที่วิ่งอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ทั้งหมดนี้มาจากการที่รัฐบาลพยายามออกมาตรการกระตุ้นการซื้อ โดยจัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีชาร์จและสิ่งจูงใจ อาทิ กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้ติดตั้งสถานีชาร์จเร็วหลายแห่งบนจุดพักทางด่วน เพื่อให้คนใช้รถไฟฟ้าเดินทางได้ไกลขึ้น และกระทรวงสิ่งแวดล้อมวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในเกาหลีเป็น 430,000 คัน ภายในปี 2565
อานิสงส์ส่วนหนึ่งที่กระตุ้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ของเกาหลีใต้ คือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของเกาหลีใต้นั้นได้รับการสนับสนุนแนบแน่นด้านเทคโนโลยีมาจากสหรัฐฯ ตั้งแต่หลังสงครามเกาหลี ค่ายยักษ์อย่าง GM หรือ Ford ต่างลงทุนในเกาหลีใต้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกอยู่แล้ว เมื่อสินค้าจากจีนส่งไปสหรัฐฯ ยากขึ้น เพราะกำแพงภาษี นาทีนี้จึงเป็นนาทีทองของเกาหลีใต้โดยปริยาย
นอกจากนี้ค่ายรถใหญ่ของเกาหลีใต้ยังแสวงหาพันธมิตรทางเทคโนโลยี ล่าสุด Hyundai และ Kia ได้เป็นเสือปืนไวเข้าไปถือหุ้น 80 ล้านยูโรในสตาร์ตอัปอย่าง Rimac Automobili ผู้ผลิตระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าจากโครเอเชีย (Hyundai ถือหุ้น 64 ล้านยูโร และ Kia 16 ล้านยูโร) ซึ่งผลผลิตชิ้นแรกของความร่วมมือนี้คือรถสปอร์ตพลังไฟฟ้ารุ่นใหม่ Hyundai 'N'
Twizy mini EV ไม่เพียงแต่รถยนต์ไฟฟ้าของเกาหลีเอง Twizy รถไฟฟ้าของเรโนลต์ ก็ขายได้เกือบพันคันในเกาหลีใต้ ทั้งที่รถรุ่นนี้มียอดขายทั่วโลกเพียง 1,300 คัน ถึงขนาดบริษัทแม่ในฝรั่งเศสเตรียมย้ายฐานการประกอบมาที่นี่
สาเหตุที่ Twizy ขายดีเพราะมันชาร์จง่าย เพียงแค่เสียบปลั๊ก 220 โวลต์ และรอแค่ 3.5 ชั่วโมงเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม
กรมไปรษณีย์ของเกาหลีใต้ก็สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กด้วยการสั่งจองกว่า 1,000 คันในปีนี้ และตั้งเป้าว่าน่าจะใช้รถไฟฟ้าถึงหมื่นคันภายในปี 2563
Danigo รถไฟฟ้าขนาดเล็กของ Daechang Motors สตาร์ตอัปหน้าใหม่ของเกาหลีใต้ ได้เปิดตัวจำนวน 100 คันแรกและถูกจองหมดใน 2 วัน ก่อนจะเพิ่มยอดผลิตอีก 200 คันแต่ก็ขายหมดในวันเดียว
Hyundai IONIQ Electric คอมแพ็กคาร์สไตล์แฮตช์แบ็กที่ขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จไฟแบบปกติเพียง 4 ชั่วโมง 25 นาที ก็สามารถใช้งานได้ไกลถึง 280 กิโลเมตร มีราคาคันละ 40,990 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าถูกสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Prius และ Nissan Leaf
KIA Niro EV เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีราคาไม่แพง หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 64 kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งไกลถึง 385 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อชาร์จด้วยระบบชาร์จเร็ว จะชาร์จจาก 0 ถึง 80% ในเวลาเพียง 54 นาที ที่เกาหลี Kia Niro EV มีราคาขายเพียง 30.8 ล้านวอน ($ 27,400)
KIA SOUL EV เอสยูวีแฮตช์แบ็กขวัญใจวัยรุ่น ขายดีในสหรัฐอเมริกา เมื่อมาทำเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าก็เรียกความสนใจได้ไม่น้อย ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง เพราะวางชุดแบตเตอรี่ไว้บริเวณใต้พื้น ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 110 แรงม้า ใช้เวลาชาร์จด้วยไฟบ้าน 5.4 ชม. และระบบชาร์จเร็วใช้เวลา 23 นาที สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 145 กม./ ชม. และวิ่งได้ไกล 250 กม. ซึ่ง KIA SOUL EV ทางบริษัทยนตรกิจได้นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยด้วยราคาคันละ 2,297,000 บาท