โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เกษตรกรไทยพบลู่ทางการสร้างเงินจากเมือกหอยทาก

JS100

อัพเดต 20 ก.ค. 2562 เวลา 13.29 น. • เผยแพร่ 20 ก.ค. 2562 เวลา 11.06 น. • JS100:จส.100
เกษตรกรไทยพบลู่ทางการสร้างเงินจากเมือกหอยทาก
เกษตรกรไทยพบลู่ทางการสร้างเงินจากเมือกหอยทาก

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวจากจังหวัดนครนายกของไทยว่า หอยทากยักษ์ซึ่งคืบคลานตามพื้นที่ปลูกฟักทองและแตงกวาในภาคกลางของไทยกำลังจะกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ เพราะเป็นที่ต้องการของโรงงานเครื่องสำอางหลายแห่งเนื่องจากเมือกของหอยทากยักษ์อุดมด้วยสารอินทรีย์ที่เรียกว่า คอลลาเจน กล่าวกันว่าให้ราคาดีกว่าราคาทองคำ โดยสำนักข่าวเอเอฟพี ได้สัมภาษณ์เกษตรกรบางราย ซึ่งให้รายละเอียดว่าแต่เดิมหอยทากแพร่ระบาดและกัดกินข้าวในนาข้าว เกษตรกรจำเป็นต้องกำจัดโดยขว้างไปตามท้องถนนหรือในแม่น้ำแต่ปัจจุบันสามารถนำเมือกหอยทากมาขายสร้างรายได้พิเศษ โดยหอยทาก 1,000 ตัว สามารถนำเมือกมาจำหน่ายสร้างรายได้พิเศษคิดเป็น 320 ถึง 650 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 9,920-20,150 บาท ปัจจุบันมีฟาร์มหอยทากมากกว่า 80 ฟาร์มในจังหวัดนครนายก คาดว่าสร้างรายได้ในตลาดเครื่องสำอางระดับโลกคิดเป็นมูลค่าประมาณ314ล้านดอลลาร์สหรัฐ แหล่งรับซื้อวัตถุดิบเมือกหอยทากคือบริษัท เอเดน อินเตอร์เนชันแนล โดยจะส่งออกผลิตภัณฑ์เซรั่มจากหอยทากไปยังเกาหลีและสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยบริษัทเครื่องสำอางในเกาหลีและสหรัฐอเมริการับซื้อผงเซรั่มที่ราคา 1 ล้าน 8 แสนบาทต่อกิโลกรัม หรือคิดเป็น 58,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับราคาทองคำอยู่ที่ 46,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม ขณะที่แพทย์ระบุว่า ในเมือกของหอยทากอุดมด้วยสารคอลลาเจน และอิลาสตินซึ่งช่วยกระชับผิวและลดริ้วรอยได้

cr: AFP/nc

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0