โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เกษตรกรวันหยุด DP Farm

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 01 เม.ย. 2563 เวลา 03.03 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 03.03 น.
1 DP

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่าน ในยามที่แดดระยิบระยับ ความร้อนสาดไอที่แห้งโหยมากระทบใบหน้า แต่ในอีกวันฝนกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา กระทั่งลมร้อนก็พัดพาทำเอาพืชไร่พืชสวนเสียหายไม่น้อย ทำให้ผมต้องเดินทางออกสำรวจพี่น้องเกษตรกร ว่าได้รับผลกระทบหรือเป็นอยู่กันอย่างไร เพราะการเขียนเรื่องในแต่ละฉบับ แต่ละปักษ์ ที่เรานำเสนอพี่น้องเกษตรกรจากสวนต่างๆ หลากหลายผลผลิต และเรื่องเล่าที่คล้ายหรือแตกต่างกัน แต่มีอยู่หนึ่งสวนที่ผมเฝ้ามองพัฒนาการมานานแล้ว ตั้งแต่เห็นเดินสายไปอบรมหาความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเกษตร จนมาถึงวันหนึ่งเริ่มเปิดสวนจำหน่ายผลผลิต ทั้งในรูปแบบหน้าร้านและออนไลน์ วันนี้ผมจึงนัดแนะเพื่อพูดคุยกันสักนิดครับ

บุญพา รอชัยกุล มนุษย์เงินเดือนผู้ผันกายมาสู่วงจรเกษตร โดยตั้งให้ตัวเองเป็นเกษตรกรวันหยุด เพราะในวันธรรมดาก็เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกับคนทั่วไป ที่จะแตกต่างก็คือทำงานกับบริษัทที่สิงคโปร์ รับผิดชอบงานในด้านการตลาดในส่วนภาคอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ภายในประเทศไทย ทำงานคนเดียว ซึ่งสามารถบริหารเวลาให้สามารถจัดการงานในหน้าที่และงานอดิเรกของตัวเองได้พอสมควร จึงปรึกษากับภรรยา อยากหาที่แปลงเล็กๆ สักแปลงไว้ทำสวนเกษตรดังที่ได้ไปเรียนรู้มา และพืชชนิดแรกที่ปลูกก็คือ มะนาว เรียกได้ว่าเป็นไม้ครูในการเรียนรู้เข้าใจต้นไม้ ระบบราก ทรงพุ่ม ดิน ธาตุอาหาร ระบบการให้น้ำ ฤดูกาล การตลาด ถือว่าครบเครื่องในการทำสวน

“ผลตอบรับการทำสวนมะนาวดีไหมครับ”

“ดีไหมหรือ ผมตั้งสมมุติฐานว่า อยากปลูกพืชที่ให้ผลผลิตตอบสนองกับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง จึงมองไปที่มะนาว ได้ศึกษาหาความรู้ทั้งจากตัวเองและเข้าอบรมกับศูนย์ฝึกอบรมและสถาบันการศึกษาต่างๆ เรียกว่าดูงานมาทั้งในประเทศและต่างประเทศเลยครับ”

“สำเร็จดังหวังไหมครับ”

“ในแง่ของมือใหม่ ผมถือว่าเริ่มต้นมาได้ดีไม่น้อยครับ เพราะว่าได้ความรู้ทุกๆ เรื่องในวงการเกษตร ดิน ปุ๋ย ระบบน้ำ การดูแล การตลาด กระทั่งแมลงและการป้องกันรักษา แต่ปัญหาหนึ่งของมนุษย์เงินเดือนก็ยังมีอยู่นั่นคือเวลา”

“แสดงว่ากำลังหาพืชมาปลูกสนับสนุนที่ดูแลไม่ยาก”

“ใช่ครับ ผมปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ เพราะตอบโจทย์ของเกษตรกรวันหยุด ที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แต่แล้วไม่นานก็เข้าวังวนวงจรของเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ทั่วไป ปลูกแล้วไม่คุ้ม ราคาขายต่ำกว่าทุน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลาง เราไม่อยากเห็นเกษตรกรถูกเอาเปรียบ จึงได้ชักชวนชาวบ้านแถวๆ นั้น มาร่วมกันปลูกข้าวโพดหวานกินฝักสดกัน”

“ดีไหมครับ”

“ดีมากครับ ดีเกินคาดด้วยซ้ำ จากตอนแรกยังมีคนไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะข้าวโพดหวานกินสดยังดูใหม่สำหรับคนไทย แต่ระยะเวลาแค่ 2 เดือน ก็พิสูจน์ว่าเรามาถูกทาง เราพาชาวบ้านที่เชื่อเรามาถูกทาง ผลตอบรับจากผู้บริโภคดีมากครับ”

เมื่อข้าวโพดหวานกินสดตอบโจทย์ว่ามาถูกทางแล้ว จากนั้น บุญพา ก็กล้าลองกับไม้ผลใหม่ๆ มากขึ้น จากโจทย์เดิมที่ตั้งไว้ ดูแลไม่ยาก ทำสวนแบบเกษตรกรวันหยุด ให้ผลผลิตได้ไวและต่อเนื่อง จึงไปลงที่ฝรั่ง เริ่มปลูกฝรั่ง 3 สายพันธุ์ คือ หวานพิรุณ ฝรั่งแตงโม และฝรั่งหงเป่าสือ ปัจจุบัน ฝรั่งเริ่มมีผลผลิตให้จำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในระยะเวลาเพียง 6-8 เดือน ฝรั่งก็เริ่มให้ผลผลิตแล้ว จึงถือว่าใช้เวลาไม่นานมากนัก เหมาะกับตัวเองที่สุด และในช่วงวันหยุดก็เริ่มขยายพันธุ์ ส่วนหนึ่งไว้ปลูกขยายในพื้นที่สวนตัวเองและส่วนหนึ่งก็จำหน่ายให้คนที่สนใจ

และเมื่อได้ชิมน้อยหน่าสับปะรดจากไต้หวัน ด้วยรสชาติที่หวาน กลิ่นหอม เนื้อแน่นเหนียวไม่เละ ผลทรงโตสวยงาม จึงคิดการใหญ่อีกครั้ง ลงทุนในเฟสแรกนำมาปลูกอีก 200 ต้น ผ่านมา 2 ปี ขณะนี้ทรงพุ่มกำลังเติบโตสวยงาม และพร้อมให้ติดผลได้แล้ว ในช่วงนี้กำลังติดผลเล็กๆ ที่สำคัญดกเสียด้วยสิ เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะมีผลผลิตออกมาจำหน่ายอีก 1 สายพันธุ์แล้ว และในระยะห่างของการปลูกไม้ผลแต่ละชนิด บุญพา นำมันเทศสายพันธุ์ต่างประเทศที่ชิมแล้วอร่อยถูกปากมาปลูกไว้ด้วย จึงมีผลผลิตจำหน่ายเคียงคู่กับผลไม้อื่นจากสวน ที่สำคัญคือยังขายยอดมันเทศให้เพื่อนๆ เกษตรกรไปปลูกกันได้อีกด้วย เรียกว่าใช้การตลาดมานำการเกษตรได้ไหมหนอ

“สรุปง่ายๆ ที่สวนนี้เกิดจากลิ้นของเราเป็นหลักใช่ไหมครับ”

“จะว่าอย่างงั้นก็ใช่ครับ หากผมไม่ได้ชิมเอง หรือชิมแล้วไม่ชอบก็จะไม่เอามาปลูกหรอกครับ เพราะเชื่อว่าขนาดเราชิมยังไม่อร่อย แล้วยังจะไปปลูกขายคนอื่นทำไม สู้ทำของอร่อยให้ผู้บริโภคได้ชิมรสจะดีกว่า”

“เห็นทำค้างไว้ด้วย”

“เสาวรสครับ ที่นี่เราก็ทดลองปลูกเสาวรสสายพันธุ์หวานๆ หอมๆ จากต่างประเทศเช่นกัน และแน่นอน ผมชิมแล้วยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริง”

“นอกจากไม้ผลเหล่านี้ ซึ่งก็เยอะแล้วนะ ยังมีอะไรอีกไหมครับ เห็นแปลงยาวๆ ทางนั้น”

“อ้อ นั่นเป็นอะโวกาโดสายพันธุ์ที่เหมาะกับพื้นราบครับ”

“เห็นแต่เขาปลูกกันตามพื้นที่สูง”

“นี่แหละครับ จะเป็นไม้ผลตัวหลักเลยของที่สวน เพราะพื้นที่ภาคกลางยังไม่ได้มีที่ไหนนำมาปลูกกัน โดยจะเน้นสายพันธุ์ที่ได้ชิมแล้วอร่อยและสามารถปลูกได้ดีในพื้นราบ ส่วนใหญ่ผมได้พันธุ์มาจากเวียดนาม อย่างเช่น พันธุ์ 034, Cuba, GEM, ไร้เมล็ด (Seedless), Namlong และมีอีก 4-5 สายพันธุ์ที่เข้าใจว่าสามารถปลูกในพื้นราบได้เช่นกัน”

“เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งสวนที่ปลูกไม้ผลที่รสชาติอร่อยและส่วนมากเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศทั้งนั้น”

“ผมตั้งใจไว้ครับ จะหาของดีมาปลูกที่สวน การทำเกษตรจะตอบโจทย์เราได้ เรียกว่าอาชีพนี้ไม่มีเกษียณอายุ”
“จริงนะ ยิ่งอะโวกาโดต้นใหญ่ๆ ยิ่งให้ผลผลิตเยอะ แล้วมีการวางแผนจะปลูกอะไรต่ออีกไหมครับ”

“น่าจะลงตัวแล้วครับ เรามีหน้าร้าน มีขายออนไลน์ มีสมาชิกเข้ามาซื้อผลผลิตที่สวน เฟสต่อไปที่คิดไว้ก็น่าจะเป็นการเปิดสวนเพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้ หรืออาจจะกลายเป็นฟาร์มสเตย์ไหมก็คอยดูกันไปครับ เพราะสวนเราก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก มีที่กินที่เที่ยวมากมาย”

“หากสมาชิกหรือท่านผู้อ่านสนใจ จะติดต่อได้ยังไงครับ”

“ยินดีต้อนรับครับ สวนผมอยู่ที่นี่ หมู่บ้านในดง หมู่ที่ 13 ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โทร.นัดมาก่อนได้ครับ (063) 194-2961 ครับ”

ผมขับรถกลับจากสวนของบุญพา ที่ตั้งชื่อไว้ว่า DP Farm ก่อนแสงสุดท้ายจะลาลับ ข้าวโพดหวานกินสดให้อรรถรสในยามเคี้ยวได้ไม่น้อย ไม่นับคนข้างๆ ที่กำลังเพลินกับความหวาน กรอบ ของฝรั่งหงเป่าสือ เชื่อว่าอีกไม่นานผมน่าจะได้มาเยือนที่สวนนี้อีกครั้ง อาจจะในช่วงน้อยหน่าสับปะรดสุก หรือเสาวรสกำลังพราว หรือกระทั่งในวาระที่อะโวกาโดสุกเต็มสวนก็ได้

แหม! แค่คิดก็ครึ้มแล้วครับทุกท่าน….

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0