เกลียดหรืออิจฉา ถามตัวเองก่อน ?
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามผมเชื่อว่าในชีวิตของทุกคนคงมีคนที่ชอบและเกลียดด้วยกันทั้งนั้น แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมด้วยว่าตัวเราเองก็คงกำลังเป็นที่รักและที่ชังของใครสักคนอยู่เหมือนกัน
เกลียด = เกลียด
หรือ
เกลียด = อิจฉา
ในปัจจุบันเราจะพบเห็นการด่าทอเหน็บแนมกันแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นแบบตรงๆหรือลอยๆ (ที่หลายคนเรียกกันว่าแซะ)ได้ง่ายมากบนโลกโซเชียล ผมเคยมีเพื่อนคนนึงที่คอยตามด่าคนที่เกลียดอยู่ทุกวัน แต่เป็นการเกลียดแบบปาปาราซซี่ ผมขอใช้คำนี้เพราะคนรู้จักผมคนนี้จะคอยตามติดชีวิตของคนที่ตัวเองเกลียดยิ่งกว่าแฟนคลับซะอีก เพราะไม่ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนอย่างไรก็รู้ไปหมด ผมว่าบางเรื่องเจ้าตัวยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ เค้าจะนำเรื่องราวเหล่านี้มาโยงด่าไม่จบไม่สิ้น ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันก็จะมีมาเล่าให้ผมฟังตลอด จนวันนึงผมต้องถามคำถามที่ผมสงสัยมาตลอด นั่นก็คือ
เกลียดขนาดนี้แล้วยังไปติดตามเขาทำไม?
คุณรู้มั้ยว่าเค้าตอบผมว่ายังไง เค้าบอกว่า “ก็คนมันเกลียดดดดดดดดดด”
Haters gonna hate hate hate นั่นเอง ซึ่งผมก็ยังคงสงสัยต่อไปอีกว่า
เขาทำให้อะไรให้ถึงได้เกลียด ?
คำตอบที่ได้ก็คือ … อืมมมม ไม่รู้นะ ก็เกลียดอ่ะ หมั่นไส้ บอกไม่ได้ถูกเหมือนกัน (อ้าว)
ผมเลยคิดได้ทันทีเลยว่าความเกลียดมันมีด้วยกันหลายแบบเหมือนกันนะเนี่ย
ความเกลียดของพวกคุณเป็นแบบไหนกัน ?
Hate at first sight
ถ้าคนเรามีรักแรกพบได้ก็มีเกลียดแรกพบได้เหมือนกัน เคยมั้ยที่เราเจอหน้าใครสักคนครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาแล้วทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันด้วยซ้ำ หรือใครบางคนที่ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด ซึ่งยังเป็นความเกลียดที่บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม
ความเกลียดจากการถูกกระทำ
ข้อนี้ผมไม่ขอพูดถึงเยอะเพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรบทความมากนัก เพราะโดยธรรมชาติคนเราย่อมเกลียดคนที่กระทำไม่ดีกับเราอยู่แล้ว
ความเกลียดเพราะมีไม่ได้เหมือนเขา หรือ เกลียดที่เห็นเขามีความสุข
ข้อนี้ต้องอย่าโกหกตัวเองเพราะมันจะเป็นคำตอบของบทความนี้ ผมรู้ว่าไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี ไม่มีใครอยากเป็นคนขี้อิจฉา ความอิจฉาเหมือนไฟไหม้ฟืนถ้าเรารู้ตัวเร็วเราก็จะดับไฟนั้นได้เร็วเช่นกัน เมื่อใดที่เราเห็นชีวิตคนอื่นมีความสุขแล้วใจเราเป็นทุกข์นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรู้สึกไม่ดีที่จะพัฒนาไปเป็นความอิจฉาและกลายเป็นความเกลียดในที่สุด
“เรื่องของความรู้สึกที่เกิดขึ้นเราคงห้ามตัวเองไม่ได้ แต่ว่าหากรู้เท่าทันแล้วนั้นเราย่อมหยุดได้”
หยุดในที่นี้คือหยุดเอาใจไปฝักใฝ่กับชีวิตของเขา เลิกเปิดอินสตราแกรมหรือเช็คเฟซบุ๊คของเขาทุกชั่วโมงสักที ทุกคนต่างมีชีวิตของตัวเองคือมีความสุขและความทุกข์เป็นของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่แน่นะครับคนอื่นก็อาจจะแอบชื่นชมบางเรื่องในชีวิตของคุณอยู่ก็ได้ เวลามีค่ามากนะครับเราสามารถใช้มันทำให้เกิดประโยชน์ได้อีกมากมายแล้วจะยกเวลาเหล่านั้นให้คนที่เราเกลียดจริงๆหรอ …
ก่อนจบผมของทิ้งท้ายสำหรับคนที่บอกว่าไม่เคยอิจฉาใครเลย แต่กลับรู้สึกว่าถูกอิจฉาอยู่ควรทำยังไงดี ผมคิดว่า นั่นแปลว่าชีวิตคุณดีอยู่แล้วครับเพียงแค่คุณใช้ชีวิตของคุณต่อไปอย่าเปิดรับเอาความเกลียดนั้นเข้ามา คุณเลือกได้ครับว่ารับไฟจากคนอื่นมาถือไว้หรือไม่ เพราะบางครั้งการแก้แค้นที่ดี ง่าย และได้ผลดีที่สุดคือการที่เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของเราต่อไป
