เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายประกิต เจริญรัมย์ อายุ 55 ปี เป็นสารวัตรกำนัน ต.บัวทอง อ.เมืองจ.บุรีรัมย์ และเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ว่า ถูกชายไม่ทราบชื่อขับรถปาดหน้าให้จอดแล้วลงมาทำร้ายร่างกายเพียงเพราะขับรถเปิดสัญญาณไซเรน และอยากจะให้ช่วยติดตามรถยนต์คันที่ก่อเหตุเพื่อต้องการดำเนินคดี
นายประกิต เล่าว่า วันนี้คณะของหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ได้รวมตัวกันเดินทางไปที่ อ.ประโคนชัย โดยใช้ถนนเส้นบุรีรัมย์-ประโคนชัย เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ตามโครงการ "เดือนละวันพันละหลัง” ซึ่งหน่วยกู้ภัยจะทำเป็นประจำทุกเดือน
การช่วยเหลือที่ผ่านมามีทั้งมอบสิ่งของจำเป็นและซ่อมแซมที่พักอาศัยให้กับผู้ยากจนทั่วไป ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 33 โดยวันนี้มีขบวนรถของหน่วยกู้ภัยไปด้วยกันกว่า 10 คัน ซึ่งปกติจะต้องมีการเปิดสัญญาณไซเรนเพื่อแสดงสัญลักษณ์ แต่รถยนต์ของตนอยู่คันสุดท้ายและห่างจากรถขบวนประมาณ 1 กม. เมื่อขับไปถึงอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดได้มีรถเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สีขาว ทะเบียน 1 กร-2835 กรุงเทพมหานคร ขับประกบแล้วลดกระจกลงโบกมือทำสัญลักษณ์ให้จอด จึงจอดรถเพราะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน จากนั้นตนก็ลงจากรถไปหารถคันดังกล่าวพบชายนั่งมาด้วยกัน 2 คน แต่กลับถูกด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายอย่างรุนแรง ตำหนิการเปิดไฟไซเรน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงขอโทษแล้วเดินกลับมาที่รถ
แต่ปรากฏว่าชายคนขับรถอายุประมาณ 50 ปี ยังไม่พอใจเปิดประตูแล้วเดินตามมาที่รถของตน ซึ่งในรถมีภรรยาและแม่ยายนั่งมาด้วย ก่อนจะทุบตีและตบตนและด่าหยาบคายเหมือนเดิม พร้อมกับพยายามดึงคอเสื้อแล้วทุบไปที่หลัง 3 ครั้ง ชายคนดังกล่าวยังเอามือชี้ไปที่ไฟไซเรนและสติกเกอร์สัญลักษณ์ของหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมซึ่งติดอยู่ข้างประตูพร้อมบอกว่า "ให้ปลดไฟและลอกสติกเกอร์ออกให้หมด” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวภรรยาจึงทำได้แค่ถ่ายภาพรถเอาไว้
"ถึงตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจชายคนดังกล่าวว่าคิดอะไรอยู่ อารมณ์เสียมาจากไหน หรือจงเกลียดจงชังหน่วยกู้ภัยเป็นทุนเดิมหรือเห็นไฟไซเรนแล้วรังเกียจทันที จึงอยากจะให้คนขับรถเชฟโรเลตคันดังกล่าวมาขอโทษตนแล้วก็จบกัน แต่ถ้าไม่มาก็พร้อมจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" สารวัตรกำนัน กล่าว