‘เกรท วรินทร’ เปิดใจรับเป็นพระเอกที่เคยคบ ‘ดาว พิมพ์ทอง’ เสียใจที่เคยสร้างความรู้สึกไม่ดีให้ เผยไม่ได้เปิดตัวเพื่อเอากระแส แต่บางมุมก็อยากเก็บเป็นส่วนตัวแต่ก็ไม่ปิดบัง
เกรม วรินทร / นักแสดงสาว ดาว พิมพ์ทอง ออกมาให้สัมภาษณ์กลางรายการหนึ่ง ถึงความรักครั้งเก่า เคยคบกับพระเอกที่เล่นละครด้วยกันนานเกือบ 2 ปี แต่พระเอกไม่ยอมเปิดเผย แถมเมื่อเธอป่วยยังไม่มาเยี่ยมที่ รพ.กลัวคนเห็น
ด้วยคำสัมภาษณ์ดังกล่าวจึงทำให้หลายคนโยงว่าพระเอกคนนั้นคือ เกรท วรินทร ผู้ที่เคยมีข่าวคบหากันมานานปี ซึ่งเรื่องนี้เกรท วรินทร เปิดใจหลังเดินทางมาร่วมงาน คิงเพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เดินหน้าส่งมอบความสุข แจกฟุตบอลทั่วไทย ในโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ปีที่ 3 ว่า จริงๆ แล้วตนไม่อยากพูดถึงเรื่องดังกล่าวสักเท่าไร
“ไม่อยากพูดถึงเพราะเป็นเรื่องเก่าแล้วนะ เรื่องในอดีต การพูดถึงเรื่องในอดีต มันเป็นการทำร้ายกันเปล่าๆ ทั้งคู่เลย”
ทั้งนี้ ก็ยอมรับว่าบุคคลที่อีกฝ่ายพาดพิงถึงนั้นคือตนเอง
“ก็หมายถึงผมนั้นแหละ ยอมรับ ไม่ยอมรับไม่ได้ เพราะผมกับเขาเคยเรียนรู้กัน”
แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ฟังคำสัมภาษณ์ของอีกฝ่าย เพียงแต่ได้รับรู้ผ่านทางบุคคลรอบตัวเท่านั้น
ส่วนที่อีกฝ่ายพาดพิงว่าในวันที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ตนไม่ได้ไปเยี่ยมนั้น คำตอบที่จะมอบให้มีเพียงว่า “ก็เป็นมุมของเขาที่เขาออกมาพูดเนอะ แต่ผมและเขาในเรื่องของการเปิดตัว มันเป็นการตกลงและการคุยกันของคนทั้งสองคน”
“ไม่ได้เปิดตัวเพื่อเอากระแส”
ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานั้นคือเรื่องที่ทั้งตนและอีกฝ่ายตกลงกัน
“อย่างที่บอกมันเป็นเรื่องของอดีต รับรู้ในสิ่งที่เขาพูด แต่ก็อยากให้ผ่านไป”
“แต่ก่อนหน้านี้เราพูดความจริงและให้เกียรติซึ่งมันเป็นแบบนั้นมาตลอด”
สำหรับตนแล้วเป็นคนที่แยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้อย่างชัดเจน
“ไม่ได้ปิดบังจริงๆ นะ ไม่ว่าจะเป็นความรักครั้งไหนๆ แต่บางมุมก็อยากเก็บเป็นส่วนตัวแต่ก็ไม่ปิดบัง”
“ผมก็ยอมรับว่ายากนะกับการที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว แต่ผมอยากให้ชัดเจนในเรื่องนี้”
ที่ผ่านมาก็มีความเป็นคู่รักเสมือนคู่รักทั่วไป เพียงแต่ดูตามความเหมาะสม
“เราก็ไม่อยากให้คนใส่อารมณ์ และความรู้สึกในความสัมพันธ์ของเรา”
“ตอนที่ผมเห็นข่าวผมไม่ได้อะไรเลย เพราะยอมรับว่าก่อนหน้านี้คงสร้างความรู้สึกไม่ดีให้เขา ก็เสียใจ แต่ไม่อยากคิดต่อว่าชอบหรือไม่ชอบ อย่างที่บอกเป็นเรื่องอดีต ก็ไม่อยากพูดให้เป็นการทำร้ายทั้งสองฝ่าย”
ที่มา มติชนออนไลน์
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น (0)