โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

"เกรท วรินทร" เคลียร์ดราม่า "เก้า" ไม่ใช่เด็กก้าวร้าว

ไทยรัฐออนไลน์ - บันเทิง

อัพเดต 16 พ.ย. 2562 เวลา 01.21 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2562 เวลา 01.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เปิดใจคบ "หมออร" ยังต้องปรับจูนเรียนรู้กันไป

กลายเป็น “พระเอกละครรีเมก” ไปไม่รู้ตัว สำหรับ เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ พระเอกมาดเข้มจากละครโรแมนติก-คอมเมดี้ “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” ทางช่อง 3 รับบท “รองดนุรุจ” ตำรวจหล่อ โปรไฟล์ดี ไม่หวั่นใจถึงแม้จะเป็นละครรีเมกเป็นรอบที่ 3 ก็ตาม ประกบคู่นางเอกสาว เก้า สุภัสสรา พร้อมเคลียร์ดราม่า “มึงสิอีกะเทย” ที่แท้เป็นแค่แฮชแท็ก วอนเสพโซเชียลแบบมีสติ รวมทั้งความรักกับ หมออร อรอุมา หวานใจ ที่ไม่อยากพูดเยอะเพราะตั้งใจเก็บความรักไว้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง

เล่นเรื่องนี้เกรทรับบทตำรวจจะได้ใส่เครื่องแบบแล้ว

“ใช่ครับ เรื่องนี้จะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ใส่ชุดตำรวจด้วย ตั้งแต่เล่นละครมายังไม่เล่นเป็นตำรวจ ถามว่าชีวิตจริงอยากเป็นตำรวจมั้ย? ก็ไม่ได้อยากเป็น แต่เราเห็นพ่อใส่ชุดตำรวจเท่ดีก็คิด ถ้าสักครั้งเราได้เล่นละครได้ใส่ชุดตำรวจเหมือนพ่อก็คงจะดี เขาวานฯเป็นเรื่องแรกที่ได้ใส่ชุดตำรวจ และยังเป็นละครที่เคยได้ยินชื่อมานาน เป็นละครรีเมกรอบที่ 3 เรียกว่าดีใจได้เล่นละครรีเมกที่ดัง อย่างน้อยๆการถูกรีเมก 3 รอบ น่าจะบ่งบอกได้ว่าเป็นละครเนื้อหาสนุก” เขาวานฯสร้างมาครั้งที่ 3 ซึ่งเวอร์ชันนี้เป็นเราล่ะ “เคยรีเมกมาพอสมควร นางอายก็รีเมก เขาวานฯก็รีเมก พอเป็นเราได้เล่นบทนี้ก็ดีใจ เรื่องนี้ก็ต้องทำการบ้านเยอะกว่าเรื่องอื่นๆ มันเหมือนตัวผมเอง อยากแกะแพตเทิร์นการเล่นละครของตัวเอง บางทีเราเล่นมานานๆ บางจังหวะ เราได้คุยกับพี่จ๋า ยศสินี, พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์, ครูเงาะ พอเราได้คุยก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างติดเป็นแพตเทิร์นอยู่ และบทนี้มีความยากในการพัฒนาของตัวละครค่อนข้างก้าวกระโดด”

เป็นละครคอมเมดี้น่าจะเล่นยากหรือเปล่า

“คือจริงๆแล้วเรื่องนี้ มู้ดแอนด์โทนจะเป็นละครโรแมนติกคอมเมดี้นะ แต่มันจะมีมุมดราม่าหนักๆ ตัวละครมีปม ส้วมมีปม ตัวผมมีปม เสี่ยฮะก็มีปม จะเป็นที่คู่กันไประหว่างเรื่องความรักกับเรื่องคดีความ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเรา มีเส้นเรื่องเป็นดราม่าเข้มข้น ดราม่าฆาตกรรม ผมว่าตลบอบอวลด้วยรอยยิ้มเมื่อถึงช่วงนึง” บทคนอื่นตลกกันแต่เกรทไม่ได้ตลก “ใช่ๆ พาร์ตผมไม่ได้ตลก ได้ไปอยู่ในสถานที่ตลกๆกันบ้าง แต่ตัวละครเราไม่ได้เฮฮาเท่าไหร่” พออยู่ในบรรยากาศแบบนั้นอยากมีสักซีนเล่นตลก “ก็อยากเล่นนะ บางฉากอยากหัวเราะเต็มๆ ก็ยากที่จะต้องกลั้นหัวเราะเพราะเราต้องมีสมาธิ ขนาดเราสืบสวนคดีจริงจังแต่เพื่อนตำรวจก็ยังหัวเราะได้ มันเป็นคาแรกเตอร์ของเค้า เราเองก็ต้องอดทน”

>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<

ต้องร่วมงานกับน้องเก้า สุภัสสรา เป็นยังไงบ้าง

“ดีใจครับ ผมเคยขอถ่ายรูปด้วยนะ ช่วงที่เค้าเล่นเรื่องฮอร์โมน บทสไปรท์ วันนั้นผมไปคอนเสิร์ตทีวี 3 แล้วเจอเค้า ยังขอเซลฟี่อยู่เลย ยังไม่รู้จักกัน ยอมรับไม่ได้ดูเรื่องฮอร์โมน แต่เก้าเค้าน่ารักไง จนได้มาเล่นปี่แก้วฯด้วยกัน ก็เลยสนิทกันมากขึ้นเพราะเราต้องเข้าฉากดราม่าๆด้วยกัน เรื่องนี้ได้เล่นเต็มๆ ก็ดีใจที่ได้เล่นกับเค้า เก้า เป็นคนตั้งใจทำงาน เก้ามีสกิลที่เป็นธรรมชาติในการแสดงค่อนข้างสูง เราก็มองเค้าเวลาเค้าทำงานปรับจูนไม่ยากเลย ส่วนใหญ่มีความเกรงใจในฉากเลิฟซีนผมเองก็เกร็งๆ และเกรงใจเค้า แต่ด้วยความที่เชื่อใจกัน อยู่นอกฉากเก้าจะเป็นคนกวนๆ แมนๆ มันเลยรู้สึกว่าเล่นด้วยโอเค แฮปปี้” แต่ฉากเปิดตัวพระนางกลายเป็นเกรทต้องจับนม “ตอนอ่านบทก็เครียดเหมือนกัน เราจะเล่นยังไง” มีคำถามฉากจับนมโดนจริงหรือไม่จริง “ไม่ได้โดนจริงอยู่แล้ว แต่ว่าตอนเห็นบทก็แบบว่า เห้ย! รู้สึกอย่างแรกเลยจะถ่ายทำยังไง เราเกรงใจมากๆ กลัวน้องเครียดด้วย”

กับดราม่ากับเก้าที่เข้าไปคอมเมนต์ไอจีเกรทล่ะยังไง ได้เคลียร์กับเก้าหรือยัง

“ไม่อยากให้เป็นประเด็นเลย เป็นอะไรที่ตลกมาก คืออย่างนี้ ไอจีล่าสุด คำว่ามึงสิอีกะเทย ตอนแรกผมก็ไม่รู้ ในรูปเป็นผมใส่ชุดฟุตบอลแล้วโพสท่าแบบตุ๊ดๆแล้วมีเพื่อนคนนึงอยู่ข้างหน้า ผมลงแคปชันผีอยู่ในใจ ผมพูดถึงทีมแมนฯยู เก้ามาคอมเมนต์แบบนี้ ซึ่งผมมาเห็นตอนที่เป็นข่าว ตอนที่ผมเห็นก็อ๋อๆ เหมือนเค้าเมนต์เหมือนพูดกับเพื่อนเรา แต่จริงๆเราทำท่ากะเทยอยู่ พอเป็นข่าวคุยกับเค้า เก้าก็ขอโทษ ก็ถามผมว่าซีเรียสหรือเปล่า ผมก็บอกเก้า ไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย เก้าเลยบอกว่าคำว่า มึงสิอีกะเทย ตอนนั้นเป็นกระแสแฮชแท็กอะไรสักอย่าง มาจากข่าวทวิตเตอร์ ผมไม่แน่ใจ ผมพูดตรงๆ มึง กู อะไรแบบนี้ ผมกับเก้ามีพูดกันบ้างปกติ ผมไม่อยากให้คนมองเก้าเป็นคนก้าวร้าว เค้าแค่มาเมนต์ตามกระแสของคำนี้เอง ประจวบเหมาะกับท่าที่ผมทำเป็นตุ๊ดๆพอดีเท่านั้นเอง อยากให้ทุกคนเสพโซเชียล มองหลายๆมุม อยากให้คนมีวิจารณญาณกันนิดนึง อีกอย่างที่อยากจะบอก เก้าไม่ได้เป็นคนก้าวร้าวกับผมขนาดนั้น คำพูดมึงกู แมนๆ มีบ้างแต่ไม่ใช่สรรพนามเรียกกันตลอดเวลา ไม่อยากให้คนเข้าใจน้องผิดๆ เห็นคอมเมนต์แรงๆ คือเรามองทุกฝ่ายด้วยความเป็นกลาง ตัวจริงไม่ได้อะไรขนาดนั้น”

ถือว่าเป็นคนตั้งรับกับดราม่าทุกอย่างได้ดีมาก

“จริงๆผมดีใจที่ตัวผมเป็นแบบนี้ ถามว่าข่าวบางข่าวทำให้ผมเครียดนะ ไม่ใช่ไม่เครียด แต่มันจะมีเวลาในการตกผลึกของมัน ตกผลึกที่ใจตัวเอง อะไรคือความจริง อะไรคือสิ่งที่เราจะเดินไปข้างหน้า อะไรคือเรื่องที่รบกวนจิตใจเรา เอาง่ายๆ ถ้าโดนกระแสนินทาว่ากล่าว ล่าสุดไปเตะฟุตบอลต่างจังหวัดแล้วมีข่าวไปทำอ่างแตก เป็นดราม่าพูดถึงอะไรพวกนี้ อะไรที่เรารู้สึกไม่ใช่เรื่องจริงเราก็จะข้ามไปได้อย่างสบายๆ เพียงแค่เรามีโอกาสพูดเราก็พูดความจริงเท่านั้นเอง พวกดราม่า ผมมองการใช้โซเชียลมันเป็นดาบสองคมนะ ถ้าคุณใช้โซเชียลด้วยความสุข ความสนุก สะดวกสบาย คุณต้องยอมรับโซเชียลก็มีผลเสียกับตรงนี้เหมือนกัน เพราะว่าทุกอย่างมีด้านหัวก้อย มืดสว่าง ผมมีความสุขกับโซเชียล ผมมีความสุขที่ได้แจกจ่ายรอยยิ้ม มีคนชื่นชอบให้กำลังใจในการทำงาน เป็นกำลังใจในการทำงาน วันนึงมีดราม่า ต้องยอมรับว่าเราได้รับความสุขตรงนั้นว่าวันนึงมันก็จะมีดราม่าเหมือนกัน แต่เราจะมองยังไงให้เราอยู่กับตรงนั้นได้ โอเครู้สึกแย่ แต่เราจะอยู่กับมันยังไง อย่างแรกต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่ามันมีนะแบบนี้ ไม่ใช่มีความสุข แต่พอมีเรื่องลบไม่เอา เครียด เครียดได้ ต้องเข้าใจเป็นดาบสองคม”

กับเรื่องความรักๆ หลังจากมีดราม่าในโซเชียลกลายเป็นเกรทไม่กล้าโพสต์รูปแฟนอีกเลยเพราะแคร์แฟนคลับ

“แฟนคลับผมแคร์อยู่แล้ว คนที่ผมคุยด้วยผมก็แคร์ ผมต้องบอกก่อนว่า เรื่องของความรักในมุมของผม ผมไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายเท่าไหร่ สังเกตได้ผมจะเป็นคนให้สัมภาษณ์เรื่องแบบนี้ประมาณนี้ เรื่องของความรักไม่ใช่ไม่รักหรือไม่ใช่อะไร มันเป็นมุมนึงที่ผมอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว พอมีอะไรออกไปจากใครบางอย่าง อะไรก็ตามแต่ ก็สร้างความความรู้สึกไม่ดีให้กับเราเหมือนกัน แต่อย่างที่บอก เรารู้วิธีการจัดการ อะไรที่มันมากไป เราต้องถามใจตัวเอง คุยกับตัวเองแบบนี้พอดีมั้ย ทั้งฝั่งแฟนคลับและฝั่งของเรา ว่าเป็นแบบไหน ต้องตกผลึก และด้วยความคงความเป็นตัวเรา คงเส้นทางที่เป็นความสุขของเราด้วย ต้องจัดการดีๆ หลากหลายคนหลากหลายความคิดเห็น คนก็ไม่รู้ว่า ผมก็มีส่วนนึง ผมก็รู้สึกไม่ดีที่มีคนมาว่าแฟนคลับผม ส่วนนึงผมก็รู้สึกไม่ดีที่มีคนมาว่าคนที่เราคุยด้วย แต่อย่างที่บอก ตัวเราเองยอมรับได้เรื่องนี้มันต้องมี เครียดมั้ยเครียด แต่เราต้องหาทางออกให้ตัวเอง หาทางออกในการพูดให้ดีที่สุด”

ก่อนหน้าเกรทยังกล้าที่จะเปิดเรื่องความรัก

“มันเป็นจังหวะที่ผมจะเปิดประมาณนึงที่คิดเอาไว้” พอเจอเหตุการณ์ดราม่าหรือเปล่าเราเลยเลือกที่จะไม่เปิดแล้ว “ไม่หรอก บางอย่างอยู่ที่ผมกับเค้าคุยกันประมาณไหน มันก็มีทั้งเรื่องที่เข้าใจกันและไม่เข้าใจกัน พอมันมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น ก็อาจจะส่งผลกระทบอย่างอื่นถึงความรู้สึกหลายๆอย่าง ไม่ใช่ว่าเป็นข่าวปุ๊บแล้วเกรทจะถอยหรือไร ไม่ใช่ เวลาผมจะคุยกับใครผมใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก แค่ผมไม่อยากลงรายละเอียดต่างๆให้คนทั่วประเทศรู้เท่านั้นเอง อย่างพื้นฐานความรักคนสองคนจะรู้กันดี ผมยิ่งพูดเหตุผลเพราะอะไร ดูเหมือนจะถอยนะ หรือยิ่งพูดเหตุผลอะไรออกไปยิ่งตีความไปต่างๆนานา” ทุกวันนี้ความรักของเกรทกลายเป็นคนก็ตีความไปไกลแล้ว “ใช่ ผมว่าอยู่ที่คนสองคน เก็บไว้ในมุมที่พอดีๆ ทางเค้าเองก็ไม่ได้อยากเปิด ซึ่งส่งผลกระทบหลายๆอย่าง บางทีมันก็มีเรื่องให้เกียรติเค้าด้วย ซึ่งตัวผมเองก็ต้องคิดในเรื่องนั้น และมีเรื่องของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความเหมือนกันน้อย มีความแตกต่างกันมาก สังคมก็ต่าง เรียกว่าเป็นการเรียนรู้ดีกว่า เรียนรู้ ไปก็จะรู้ว่าจุดไหนที่มันพอดี เป็นรายละเอียดที่ต้องใช้ความเข้าใจมากๆ”

หลังๆจะเห็นเกรททำบุญบ่อย ล่าสุดก่อนหน้าก็วิ่ง การกุศล ทำบุญ ช่วยเหลือสังคม ตอนนี้จะมีโปรเจกต์ทำบุญใหญ่ๆอะไรอีกบ้างมั้ย

“คือเรื่องคืนสู่สังคมผมตั้งใจอยู่แล้วเพราะผมรู้สึกว่าอย่างแรกผมมีความสุขที่ได้ทำอะไรให้คนอื่น ยิ่งเป็นสิ่งที่เราถนัด เราไม่ได้เหนื่อยอะไร ผมยิ่งยินดีมากๆ ผมรู้สึกว่าอย่างแรกผมเห็นคนอื่นมีความสุข คนอื่นได้รับ ชัดเจนที่สุดสะท้อนความสุขกลับมาสู่ตัวเรา อิ่มใจและรู้สึกว่าผมสามารถทำแบบนี้ได้ ผมใช้ชื่อเสียงของผม ใช้สิ่งที่ผมยืนอยู่ตรงนี้กระจายข่าวสาร ความรู้ดีๆ กระจายความรู้สึกดีๆ กระจายตัวอย่างที่ดี มันยืนอยู่บนพื้นฐาน ผมทำแล้วผมมีความสุขผมก็อยากทำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการของใครก็ตามแต่ที่อยากให้เราช่วย เราก็ยินดีเสมอ ส่วนโครงการของตัวเองตอนนี้ยังไม่มีเวลาคิดเลย จังหวะยังไม่ว่าง ตอนนี้ถ่ายละคร 2 เรื่อง ใจอยากช่วยโรงพยาบาลกับโรงเรียนเป็นหลักๆ ทุกวันนี้เห็นขาดแคลนจะโอนเงินไปช่วยเหลือเรื่อยๆ จะโอนไปเรื่อยๆ โอนไวครับ ส่วนกิจกรรมเตะฟุตบอลการกุศล ปีหน้าก็น่าจะมี ตั้งใจทำบุญใหญ่ปีละหนึ่งหรือสองครั้ง แต่ตอนนี้เราเองยังไม่มีเวลาครับ”.

ทีมข่าวบันเทิง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0