โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ฮ่องกงจะไปทางไหนเมื่อ “การเมือง-เศรษฐกิจ”ระส่ำ

Businesstoday

เผยแพร่ 12 พ.ย. 2562 เวลา 01.00 น. • Businesstoday
ฮ่องกงจะไปทางไหนเมื่อ “การเมือง-เศรษฐกิจ”ระส่ำ

สถานภาพของฮ่องกง ซึ่งเป็นเสมือนประตูสู่โลกภายนอกสำหรับบริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก จากคลื่นลูกแรกในรูปของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

ตามมาด้วยความวุ่นวายทางการเมือง ที่ฉุดรั้งให้เกาะแห่งนี้ ตกสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีไปเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงไตรมาส 3 เพราะเศรษฐกิจหดตัวไป 3.2% จากไตรมาส 2 อันนับเป็นการหดตัวมากที่สุดตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกปี 2552 ขณะที่การส่งออกลดลง 11 เดือนติดกันนับถึงเดือนก.ย. และการลงทุนลดลงติดกันมา 4 ไตรมาส

ปัญหาที่ยังไม่มีวี่แววจะมีทางออก ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน หรือการประท้วงที่ยืดเยื้อนานหลายเดือน ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะถดถอยลากยาวไปถึงปีหน้า

นักเศรษฐศาสตร์แห่งธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ชี้ว่าปัจจัยทั้งสองอย่างไม่เพียงฉุดรั้งเศรษฐกิจระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงการตัดสินใจของภาคธุรกิจในระยะยาว อย่างการจ้างงานและการลงทุน ในทุกภาคอุตสาหกรรมด้วย

ดัชนีหั่งเส็งในตลาดฮ่องกง ปิดตลาดเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ทรุดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน หรือกว่า 2.6% หลังจากการประท้วงรุนแรงขึ้น เมื่อตำรวจใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงคนหนึ่งจนอาการสาหัส ในวันเดียวกัน ชายคนหนึ่งที่เข้าเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วง ถูกจุดไฟเผาร่าง อาการสาหัส

ปัญหาทั้งภายในและภายนอก ที่ยังไร้ทางออก ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนคาดหมายว่าเศรษฐกิจฮ่องกงอาจมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างไปในระยะยาว

นักเศรษฐศาสตร์แห่ง Oxford Economics มองว่าบทบาทของฮ่องกงในฐานะคนกลาง น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะบรรดาบริษัทข้ามชาติอาจหันไปเลือกลงทุนในเมืองอื่นของเอเชียแทน

นอกจากนั้น กระแสการย้ายห่วงโซ่อุปทานออกนอกจีนผลจากสงครามการค้ากับสหรัฐ ก็จะบั่นทอนบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ

ก่อนเกิดความวุ่นวายทั้งหลาย ฮ่องกงมีความเจิดจรัสอย่างยิ่ง เพราะครองความเป็นท่าเรือสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่สมัยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ จากนั้นเมื่อจีนปฏิรูปเศรษฐกิจ ปริมาณสินค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไหลผ่านฮ่องกงก็พุ่งทะยานขึ้น

กระแสการค้าระหว่างประเทศที่คึกคักสุดๆ ทำให้ฮ่องกงสามารถพัฒนาเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการส่งออก โดยอาศัยอุตสาหกรรมหลัก 4 อย่าง ได้แก่ บริการการเงิน การท่องเที่ยว การค้า-โลจิสติก และผู้ชำนาญการด้านบริการต่างๆ อุตสาหกรรมเหล่านี้มีสัดส่วนเกินครึ่ง หรือ 57.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) เมื่อปี 2560 ทั้งยังก่อให้เกิดการจ้างงานครึ่งหนึ่งของทั้งเกาะ

เมื่อเวลาผันผ่าน อุตสาหกรรมหลักของฮ่องกงกำลังเผชิญผลกระทบ โดยนักวิชาการฮ่องกงมองว่าโลจิสติกกับการค้าน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด สืบเนื่องจากท่าเรือทางใต้ของจีนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนแย่งชิงธุรกิจไปจากฮ่องกง ข้อมูลของทางการยืนยันการคาดหมายนี้ เพราะสัดส่วนของการค้าและโลจิสติกในจีดีพี ลดลงจาก 25.5% เมื่อปี 2550 ไปอยู่ที่ 21.5% ในปี 2560

ขณะที่ล่าสุด สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองคาดว่าจะกระทบไปถึงหลายธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยนักเศรษฐศาสตร์แห่ง Oxford Economics มองว่าในสายตาชาวจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ความน่าดึงดูดใจของฮ่องกงลดน้อยลงไปหลังจากเกิดการประท้วงและมีการทำลายทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับจีนแผ่นดินใหญ่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าฮ่องกงจะยังสามารถรักษาความได้เปรียบไว้ได้ในด้านบริการการเงินและผู้ชำนาญด้านบริการต่างๆ นอกจากนั้น ฮ่องกงยังมีจุดแข็งที่หลักนิติธรรมและกระแสเงินทุนที่เสรีสามารถแลกเปลี่ยนได้

ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์แห่ง Natixis มองว่าศูนย์กลางการเงินอื่นอย่างสิงคโปร์หรือซูริคไม่ได้มีระบบต่างๆ ที่รองรับอย่างพรั่งพร้อมเหมือนฮ่องกง อีกทั้งฮ่องกงยังเป็นแหล่งที่บรรดาบริษัทจีนมาทำไอพีโอ หรือนำหุ้นออกขายแก่สาธารณชน และออกหุ้นกู้ ดังนั้นในระยะสั้น เมืองอื่นจึงยังไม่สามารถขึ้นมาท้าทายฮ่องกงได้

ทั้งนี้ บรรดามหาเศรษฐีนักธุรกิจฮ่องกง ต่างขอให้คนรุ่นใหม่หันหน้าเข้าหาจีนแผ่นดินใหญ่ แทนที่จะต่อต้านหรือพยายามต้านทาน เพื่ออนาคตของเกาะแห่งนี้ เพราะอนาคตของฮ่องกงผูกอยู่กับจีน

Bernard Chan นักธุรกิจที่อยู่ในคณะที่ปรึกษาของผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ระบุว่าถ้าคนรุ่นใหม่วิตกเกี่ยวกับอนาคต ทางออกไม่ใช่การทำตัวเหินห่างจากจีน อนาคตของฮ่องกงคือการรองรับตลาดจีน เพราะไม่ว่ายังไง หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ก็จะหมดอายุลงในปี 2590 หรือ 28 ปีข้างหน้า หลังจากอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนเมื่อปี 2540 ภายใต้กรอบ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” เป็นเวลา 50 ปี

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0