"ฮู" เตือนอาหารทารกที่วางขายในตลาดมีน้ำตาลสูง ส่งผลร้ายต่อเด็กทั้งโรคอ้วน-ฟันผุ

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก(ฮู) เตือนว่าผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกมักมีปริมาณน้ำตาลสูงและป้ายฉลากแสดงรายการส่วนประกอบอาหารยังสร้างความสับสนให้แก่ผู้บริโภค โดยรายงานของฮูที่เสนอแนวทางปฏิบัติสำหรับการปรับปรุงอาหารสำหรับทารกชี้ว่า ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกจำนวนเกือบ 8,000 ชนิด ที่ทางฮูเก็บรวบรวมนำมาตรวจสอบจากกว่า 500 ร้านค้าในประเทศออสเตรีย บัลแกเรีย อิสราเอล และฮังการี ระหว่างเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ถึงเดือนมกราคมปี 2018 พบว่า ราวครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์อาหารที่นำมาตรวจสอบ มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของแคลอรีหรือพลังงานมาจากน้ำตาลทั้งหมด และราว 1 ใน 3 ผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวมีการเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานเพิ่มเข้าไป

ฮูชี้ว่าขณะที่อาหารที่มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ในตัวอยู่แล้วเช่นผลไม้และผัก เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับเด็กๆ แต่ระดับน้ำตาลที่มีอยู่สูงมากในผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่าห่วงกังวล โดยการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงเข้าไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เป็นโรคอ้วนและทำให้ฟันผุได้ และการที่ได้รับประทานอาหารที่มีความหวานมากเกินไปตั้งแต่เนิ่นๆ ยังส่งผลอันตรายที่จะทำให้เด็กชอบอาหารรสหวานไปตลอดชีวิตด้วย

“การได้รับสารอาหารที่ดีในวัยทารกและวัยเด็กยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กและยังจะเป็นผลดีต่อสุขภาพในภายภาคหน้า” ผู้อำนวยการฮูกล่าว

รายงานของฮูยังชี้อีกว่า ผลิตภัณฑ์อาหารที่ถูกนำมาตรวจสอบ มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ติดป้ายฉลากระบุว่าเหมาะสมสำหรับทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งสวนทางกับคำแนะนำของฮูที่ชี้ว่าทารกควรได้รับสารอาหารจากการดื่มนมมารดาในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด

ฮูยังปรับปรุงคำแนะนำเพื่อให้ประเทศสมาชิกบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่ควบคุมการบริโภคน้ำตาลในปริมาณสูง ส่งเสริมให้ยุติการบริโภคสิ่งที่ทดแทนนมมารดา และแนะนำให้เด็กอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 2 ปี ได้รับประทานอาหารที่ทำเองที่บ้านที่อุดมไปด้วยสารอาหาร นอกจากนี้ฮูยังเรียกร้องให้ห้ามการเพิ่มปริมาณน้ำตาลและสารแทนความหวานในอาหารทารก รวมถึงให้ติดฉลากลูกอมและเครื่องดื่มรสหวานว่าไม่เหมาะสำหรับทารกอายุต่ำกว่า 3 ขวบ