โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ฮีโร่เกือบกลายเป็นผู้ร้าย!ตัดเกรด หงส์แดง เกือบฆ่าตัวเอง เฉือน นักบุญ หวิวๆ

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 17 ส.ค. 2562 เวลา 16.56 น. • ขอบสนาม
ฮีโร่เกือบกลายเป็นผู้ร้าย!ตัดเกรด หงส์แดง เกือบฆ่าตัวเอง เฉือน นักบุญ หวิวๆ

ไม่เสียวไส้ ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล จริงๆ เพราะจู่ๆก็ทำตัวเอง หลัง อาเดรียน นายทวาร "หงส์แดง" เตะบอลไปอัดใส่ขา แดนนี่ อิงส์ เข้าประตูไปซะงั้น จนเกือบถูกตีเสมอด้วยซ้ำ ยังดีที่สุดท้ายแล้ว "หงส์แดง" เอาตัวรอดสำเร็จ บุกไปเอาชนะ 2-1 เก็บ 6 คะแนนเต็ม จาก 2 นัด

เกมนี้ต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล เฉียบคมกว่า เพราะโอกาสไม่เยอะ โดยเฉพาะครึ่งแรก ไปดูกันว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล แต่ละคน ได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง

อาเดรียน : 6.5

กำลังจะจบแบบหล่อๆอยู่แล้ว สำหรับ อาเดรียน เพราะเซฟมาทั้งเกม ตั้งแต่ลูกโขกจ่อๆของ โยชิดะ หรือ เกือบสกัดเข้าประตูตัวเองของ โจเอล มาติป ทำให้ ลิเวอร์พูล รักษา โมเมนตั้ม เอาไว้ได้ แต่กลับมาเสียง่ายๆ ด้วยการเปิดไปติด แดนนี่ อิงส์ เข้าประตู จากเกมจะชนะสบายๆ จนทีมเกือบโดนตีเสมอ งั้นขอหักคะแนนตรงนี้ออกหน่อย

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 6

ไม่ใช่ฟอร์มที่ดีของ อาร์โนลด์ ในวันนี้ เพราะมีปัญหาในการป้องกันแนวรับ แถมมีจังหวะเล่นยาก โดนตัดเกมในหลายๆช็อต ส่วนลูกครอสที่เป็นจุดเด่น ต้องบอกว่าไม่ทำงานเลยในวันนี้

โจเอล มาติป : 6.5

ถือว่าโดนพิสูจน์ค่อนข้างเยอะ เพราะต้องดวลกับ อดัมส์ กองหน้าจาก เซาธ์แฮมป์ตัน อยู่ตลอด และ มีช็อตที่ปล่อยให้คู่แข่งได้โหม่งจ่อๆด้วย อย่างไรก็ตาม มาติป ก็มีจังหวะช่วยแนวรับ หงส์แดง อยู่หลายครั้ง ถึงขั้นเกือบสหัดเข้าประตูตัวเองด้วย แต่ก็มี อาเดรียน ช่วยเซฟไว้ได้

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 7

ในช่วงที่ ลิเวอร์พูล ถูกกดดันอย่างหนัก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นคนที่เล่นได้อย่างนิ่มนวล และ นิ่งมาก เสมือนไม่โดนกดดัน ถึงแม้จะมีจังหวะสื่อสารผิดพลาดกันบ้าง แต่ต้องบอกว่าเป็นปัจจัยสำคัญของแนวรับ ลิเวอร์พูล

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7

ครึ่งแรกโดนกดดันหนักอยู่เหมือนกัน แต่ว่าครึ่งหลัง โรเบิร์ตสัน ก็กลับมาสู่ฟอร์มเดิมของตัวเองได้ เรียกว่าเติมมันตามสไตล์ของพี่แก และ ไม่ต้องห่วงเกมรับเท่าไหร่ เพราะครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล แทบครองเกมได้เบ็ดเสร็จ โดยเกือบยิงประตูได้ด้วยแต่ติดเซฟ จนมาถึงลูกที่โดนตีไข่แตก 1-2 ก็มีรนๆให้เห็น

จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม : 6

เกมนี้ จีนี่ ต้องถอยลงมาเล่นข้างหน้าแผงแบ็กโฟร์ อาจจะไม่ชินเท่าไหร่ เพราะก็มีเสียบอลให้เห็นในช่วงครึ่งแรก แต่พอครึ่งหลังที่ ลิเวอร์พูล ครองเกม ไวจ์นัลดุม ก็กลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง ซึ่้งมีส่วนกับการต่อบอลขึ้นหน้าหลายจังหวะมากๆ

เจมส์ มิลเนอร์ : 6

ถูกเฮดช็อตหัวแตกไปตั้งแต่ครึ่งแรก จังหวะที่ปะทะกับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ เสียเวลาทำแผลไปหลายนาที แต่เขาก็ลงมาเล่นต่อได้ อย่างไรก็ตาม มิลเนอร์ ไม่ได้โชว์ฟอร์มที่ดีมากนัก เพราะมิดฟิลด์ หงส์แดง ไม่โดดเด่นเอาเสียเลยในเกมนี้

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน : 6

มีโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล 2 นัดติดต่อกัน แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บไม่มีให้เห็นแล้ว ความฟิตเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ฟอร์มการเล่นดูเฉยๆ ไม่ว้าวอะไรเลย จะมีการลูกจ่ายให้ ซาลาห์ ได้ลุ้นทำประตู

โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ : 8

กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังถูกดรอปในเกม ซูเปอร์ คัพ ครึ่งแรกเงียบมาก เพราะด้านหน้าแทบไม่ได้บอล แต่พอครึ่งหลัง เขาก็ฉายแววทันที มีส่วนกับเกมรุกเยอะ อาจจะพลาดโอกาสทองไป 1 ครั้ง แต่ลูกยิงนำ 2-0 นับเป็นความสามารถเฉพาะตัว ที่ลากหาพื้นที่ จนยิงประตูย้อนศรผ่านมือประตูคู่แข่งไปได้

ซาดิโอ มาเน่ : 9

ฉายา ณเดชน์ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เพราะเกมนี้ ต้องบอกว่า มาเน่ เป็นคนพลิกชีวิตให้กับ ลิเวอร์พูล จริงๆ เนื่องจากครึ่งแรก เซาธ์แฮมป์ตัน กดดัน หงส์แดง ฝ่ายเดียว แต่ก่อนหมด 45 นาทีแรก มาเน่ ยิงให้ทีมขึ้นนำอย่างคม พร้อมกับไล่ตัดบอล จนแอสซิสต์ให้ ฟีร์มิโน่ กดประตูที่ 2

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 6

วันนี้ ซาลาห์ ค่อนข้างเงียบๆ ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าล้ามาจากการลงเล่นครบ 120 นาที เกมชนะจุดโทษ เชลซี หรือเปล่า โดยมีโอกาสหลุดเข้าไปยิงช่วงครึ่งหลัง แต่ทว่าซัดไปติดเซฟ ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกไปช่วงประมาณนาทีที่ 78

สำรอง :

ฟาบินโญ่ : 5

ถูกส่งลงมาเพื่อปิดเกม ช่วยปัดกวาดเกมรุกคู่แข่ง แต่พอถูกไล่ตามตีเสมอมา มีงานเข้าเหมือนกัน

ดิว็อค โอริกี้ : 5

ลงมาแทน ซาลาห์ ในช่วงที่นำ 2-0 แต่พอไม่นานโดน 2-1 ทำให้เกมรุกแทบไม่มีบทบาทอะไร

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 5

ลงมาช่วยไล่บอลตามแท็คติค และ เล่นเพื่อถ่วงเวลา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0