อีกไม่กี่วัน ก็จะถึงเทศกาลวันฮาโลวีนแล้ว และถ้าหากพูดถึงเทศกาลวันฮาโลวีน หรือวันปล่อยผี ทุกคนก็คงจะคุ้นเคยกับบรรยากาศที่ถูกตกแต่งไปด้วยฟักทองหลากขนาดที่เต็มไปทั่วทุกพื้นที่ ทุกคนแต่งตัวเป็นผีมากมาย พร้อมกับเด็ก ๆ ที่ใช้ประโยคสุดฮิตอย่าง “ทริคออร์ทรีท” ตามธรรมเนียมเพื่อจะแลกกับขนม แต่จริง ๆ แล้ว นี่เป็นเพียงธรรมเนียมหนึ่งในวันฮาโลวีนเท่านั้น วันนี้ #ลัดเลาะรอบโลก เลยขอพาทุกคนไปรู้จักธรรมเนียมในวันฮาโลวีนแบบอื่น ๆ กันบ้าง ว่ารอบโลกเขามีการเฉลิมฉลองอย่างไร บอกเลยว่าแต่ละที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครเลย
*ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด - อังกฤษ *
ในประเทศอังกฤษ ฮาโลวีนไม่ได้เป็นประเพณีที่จริงจังเท่าไหร่นัก เมื่อก่อนเด็ก ๆ จะทำ แจ็กโอแลนเทิร์น หรือตะเกียงฟักทองจากพืชผัก ไม่ว่าจะเป็น รูทาบากา เทอนิพส์ ที่ใช้ผักโดยให้เหตุผลว่าสามารถสู้กับวิญญาณได้ดีกว่า แต่ซึ่งจริง ๆ แล้วในอดีตนั้นฟักทองหาได้ยากในประเทศอังกฤษ และสำหรับธรรมเนียม ทริกออร์ทรีท นั้นเป็นวัฒนธรรมนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จึงจะมีแต่เด็ก ๆ เท่านั้นที่นิยมเล่น ในการทำวิจัยในปี 2006 พบว่า กว่าครึ่งของคนอังกฤษที่มีบ้านเป็นของตัวเอง จะฉลองวันฮาโลวีนด้วยการปิดไฟบ้านทั้งหมด และซ่อนตัวกัน ไม่ใช่ต้องการหลอกให้ใครกลัว แต่เพียงแค่ต้องการซ่อนตัวจากคนที่เล่น ทริคออร์ทรีทเท่านั้น
ชาวอังกฤษในยุคใหม่จะมีความอินกับฮาโลวีนมากกว่าคนยุคเดิม ปาร์ตี้ฮาโลวีนมีจำนวนเพิ่มขึ้น และคนบางกลุ่มก็กลัวว่า ฮาโลวีนอาจทำให้วัน Guy Fawkes (งานเฉลิมฉลองในประเทศอังกฤษที่จัดทุกวันที่ 5 พ.ย.)หายไป สำหรับวัน Guy Fawkes จะเป็นวันที่ชาวอังกฤษมารวมตัวกัน และเฉลิมฉลองร่วมกัน แต่ฮาโลวีนซึ่งเป็นวัฒนธรรมนำเข้านั้นกำลังจะทำให้วันนี้เลือนหายไป และไม่ใช่เพียงที่อังกฤษ แต่เป็นกว่า 25 เปอร์เซ็นจากทั่วโลกที่เฉลิมฉลองวันฮาโลวีน
*กินเค้กระทึกใจกัดไปลุ้นไปว่าจะเจออะไร - ไอร์แลนด์ *
อย่างที่เราทราบกันดีว่าฮาโลวีนมีต้นกำเนิดที่ Emerald Isle และก็ยังเป็นประเพณีที่ถูกให้ความสำคัญอยู่ เช่นในไอร์แลนด์ฮาโลวีนจะรู้จักกันในชื่อว่า Samhain เป็นวันคล้าย ๆ วันเลี้ยงฉลองของซาตาน ซึ่ง Samhain มีความหมายว่า วันสุดท้ายของฤดูร้อน Samhain ที่ถูกเรียกว่าเป็นวันเลี้ยงฉลองของซาตานก็เพราะว่า เปรียบเสมือนคืนที่วิญญาณกลับมาสู่พื้นโลก แต่เนื่องจากไม่ใช่วิญญาณทุกดวงจะเป็นวิญญาณที่ดี ก็เลยจะมีการแต่งตัวเป็นปีศาจเพื่อให้วิญญาณกลัวด้วยเช่นกัน ในวันนี้ชาวไอริชจะจุดไฟ และแต่งตัว แต่ก็มีธรรมเนียมดั้งเดิมของตัวเองเช่นเดียวกัน ก็คือ จะมีอาหารจานพิเศษ ที่ชื่อว่า colcannon หรือมันบดแบบไอริช และก็จะเสิร์ฟ barnbrack หรือฟรุตเค้กที่จะเต็มไปด้วยเครื่องที่น่าระทึกใจซ่อนอยู่ การกัดไปแต่ละคำ ก็จะต้องลุ้นว่าจะเจอกับอะไร ถ้าโชคดีก็จะได้เจอแก้ว แหวน เงิน ทอง แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะได้เจอกระดูก หรือเครื่องรางบางอย่างที่เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าจะถังแตก หรือไม่ได้แต่งงานนั่นเอง
*กินเฟรนซ์ฟรายที่ราดด้วยซอสสุดสยอง - ญี่ปุ่น *
เหมือนกับหลาย ๆ ที่ วัฒนธรรมฮาโลวีนค่อย ๆ ซึมเข้าไปในประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ที่ญี่ปุ่นมีฤดูกาลสยองขวัญ แต่ว่าเกิดขึ้นก่อนฮาโลวีนสองสามเดือน เรียกว่าช่วง Obon ซึ่งเป็นวันฉลองความตายเช่นเดียวกัน ในช่วงเทศกาล Obon ผู้คนก็จะเดินทางไกล ทำความสะอาดสุสาน เพื่อให้ดวงวิญญาณได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้าน นอกจากนี้เหล่าญาติ ๆ ก็จะเตรียมผัก ผลไม้ และดอกไม้ไว้ให้กับดวงวิญญาณด้วย นอกจากนี้ยังมีการเล่าเรื่องสยองต่าง ๆ ด้วย และอย่างที่ทราบกันดีว่า ญี่ปุ่นนั้นชอบที่จะร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ เช่นเดียวกับวันฮาโลวีน คุณสามารถเดินเข้าแมคโดนัล เพื่อกินเฟรนซฟรายราดด้วยแยมสีม่วงและซอสช็อกโกแล็ตได้ ถือว่าเป็นประเพณีของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
*เล่าเรื่องสยองขวัญ - รัสเซีย *
เมื่อสหภาพโซเวียดล่มสลาย รัสเซียได้เข้ามาทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย เรื่องศาสนาก็เช่นกัน สำหรับฮาโลวีนในรัสเซียนั้น เป็นที่รู้จักจากบทเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียน เด็ก ๆ จะต้องอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณีวันฮาโลวีนแบบอเมริกัน และมันก็ยังถูกใช้ให้เป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็ก ๆ ได้ใช้ภาษาอังกฤษอีกด้วย จึงทำให้ฮาโลวีนได้เข้ามาในประเทศ แต่ก็สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าพ่อแม่บางกลุ่มด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฮาโลวีนก็เป็นที่นิยมของเด็ก ๆ วัยรุ่น ก็มีการจัดงานเลี้ยง แต่งตัว การประกวดต่าง ๆ และด้วยความต้องการที่จะผนวกรวมเรื่องเล่าเก่า ๆ ของประเทศไปด้วย ก็เลยมีการเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นความเชื่อเดิม ๆ ของรัสเซียด้วย
ที่มา
https://www.grunge.com/132337/ways-halloween-is-celebrated-around-the-world/
