เวลาไปเที่ยวเมืองนอกกับคุณแม่ทีไร การไปเอาท์เล็ตเหมือนเป็นที่เที่ยวที่ถูกบรรจุอยู่ในแผนทุกครั้ง และพอเห็นว่าล่าสุดเมืองไทยเรามีเอาท์เล็ตกับเค้าบางแล้ว เลยคิดว่าขอแชร์เคล็ดลับที่ตัวเองได้เรียนรู้ระหว่างไปช้อปแต่ละครั้งและขอสรุปเทคนิคที่ไปเจอในบทความอื่นๆ มาให้อ่านกัน น่าจะมาเป็นประโยชน์ให้ทุกคนได้ จะได้ไม่ต้องเดินหลงทาง พลาดโปรโมชั่นแบบที่แพรเคยเจอมาเนอะ
1. วางแผน ดูวันเวลาที่ใช่
การมาเอาท์เล็ตในแต่ละครั้ง ต้องขับรถมาไกล ฉะนั้นมาแล้วต้องวางแผนให้ดี ถ้าเราไม่ชอบเบียดกับคนเยอะๆ ไม่อยากต่อคิวเข้าแถวแบรนด์ใหญ่ที่ใครก็สนใจ แนะนำให้เลือกช่วงวันธรรมดามากกว่าวันหยุด ถ้ากลัวพลาดโปรโมชั่น ลองสอบถามก็ได้ เพราะบางครั้งโปรเริ่มกลางสัปดาห์ เราก็รีบมาก่อนเลย จะได้ไม่ต้องไปแย่งกับใครช่วงวันหยุด อากาศก็สำคัญ เพราะเอาท์เล็ตหลายแห่งเป็นที่เปิด มีหลังคากันเฉพาะหน้าร้าน ถ้าฝนตกรับรองว่าเปียกแน่นอน หรือบางครั้งอากาศร้อนมากๆ ก็ทำให้ช้อปไม่สนุกได้ อาจจะเปลี่ยนมาไปช่วงบ่ายแก่ๆ แทน
ปกติแล้วเอาท์เล็ตจะมีเนื้อที่กว้างขวางมากๆ แนะนำให้เดินไปทางเดียวเก็บให้ครบ จะวนขวาหรือวนซ้ายก็เลือกเอาตามใจว่าอยากเห็นแบรนด์ไหนก่อน แต่ไม่แนะนำให้เดินแบบเรื่อยๆ เพราะอาจจะพลาดร้านเด็ด หรือทำให้เสียเวลาวนมาร้านที่สนใจเพราะตอนแรกไม่เห็น แพรเคยต้องเดินตัดข้ามเอาท์เล็ตเป็นกิโลมาแล้ว เพราะเพิ่งเห็นร้านที่สนใจตอนข้ามมาอีกฝั่งนี่แหละค่ะ เหนื่อยมาก
2. แต่งตัวให้พร้อม
เตรียมใจไว้เลยว่าการมาเอาท์เล็ตคงไม่ได้ใช้เวลาสั้นๆ เดินน้อยๆ แน่นอน ฉะนั้นการใส่ส้นสูงมาเดินคงไม่ใช่ไอเดียที่ดีเท่าไรนัก แนะนำว่าควรเป็นรองเท้าที่เราใส่สบาย เดินแล้วไม่เมื่อย ใครกลัวร้อนก็พกหมวกไว้ด้วย
ถ้าตั้งใจมาช้อปจริงจัง แนะนำว่าใส่กางเกง ชุดที่ทะมัดทะแมงพร้อมแบกถุงช้อปกลับบ้านไปเลย
3. ทุกโปรโมชั่นต้องเก็บให้ครบ
ช่วงฤดูกาลพิเศษ เทศกาลต่างๆ ทางเอาท์เล็ตมักมีโปรโมชั่นจัดมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องไม่พลาดอ่านโปรให้ดีก่อนซื้อ จะได้คำนวนยอดซื้อที่คุ้มกับส่วนลดที่เราควรจะได้ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นลองไปสอบถามข้อมูลจากInformation Center มีส่วนลด คูปองอื่นๆ เพิ่มเติมมั้ย เช่นบางที่ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยวอาจจะได้คูปองลดเพิ่มอีก5% เป็นต้น ไม่พอเวลาจะซื้อของในร้านแต่ละร้าน อย่าลืมถามโปรโมชั่นอีกครั้ง พร้อมทั้งถามว่าบัตรเครดิตตัวไหนร่วมรายการเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะเราอาจจะได้คะแนนที่เยอะขึ้น หรือcash back ได้เลยนะ เรียกว่าลดหลายต่อเลยหละ
4. แยกสินค้าให้ถูกประเภท
เราต้องเข้าใจก่อนว่า เอาท์เล็ต จริงๆ แล้วเป็นที่ปล่อยสินค้าที่คุณภาพไม่ได้มาตราฐานพอที่จะขายราคาเต็ม จะทิ้งก็เสียดายเลยเอามาขายลดราคาแทน แต่ปัจจุบันก็กลายมาเป็นที่ปล่อยสินค้าตกรุ่นด้วย ซึ่งปกติมักจะห่างไปประมาณ2-3 ปี เช่นถ้าปีนี้2020 เราอาจจะเจอคอลเลคชั่น2018 มาวางขายลดราคา ของเหล่านี้เป็นของดี แต่เลิกฮิตแค่นั้นเอง อีกแบบนึงคือของที่ผลิตเพื่อเอามาขายในเอาท์เล็ตโดยเฉพาะ ของพวกนี้หาซื้อตามช้อปหลักไม่ได้ ส่วนใหญ่ดีไซน์จะเรียบๆ กว่า ต้นทุนการผลิต และวัสดุที่เอามาทำก็ถูกกว่า แต่หลายคนก็ชอบ อันนี้แล้วแต่เทสต์ สำคัญคือเราต้องรู้ ว่าเราต้องการมาซื้อของแบบไหนกันแน่ ของมีตำหนิ ของตกรุ่น หรือสินค้าของเอาท์เล็ตเท่านั้น จะได้เข้าใจ ยอมรับข้อดีข้อเสียของสินค้าแต่ละแบบได้อย่างสบายใจเนอะ
5. ถูกไม่ได้แปลกว่าคุ้ม
มาที่นี่ทั้งที หลายคนคงมีเป้าหมายที่ของถูกแน่นอน แต่ของถูกไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป แท้จริงแล้วเราควรเลือกของที่เราชอบ ถูกใจจริงๆ มากกว่า ลองคิดถึงเรื่องโอกาสในการใช้งาน อายุการใช้งาน คุณภาพ เสื้อบางตัวเห็นว่ายี่ห้อแพง ลดถูกสุดๆ เลยซื้อมาแต่จริงๆ ไม่ได้เป็นสไตล์เราเลย สุดท้ายก็ไม่ได้เอามาใส่ น่าเสียดายนะ รองเท้าที่ลดราคาคู่นั้นใส่สบายมั้ย ไซล์พอดีเท้าเราจริงรึเปล่า อย่าโดนกับดักเรื่องราคามาทำให้เราซื้อของที่เราไม่ได้ใช้ดีกว่า
คิดว่าเคล็ดลับที่แชร์ไป คงทำให้ใครๆ หลายคนได้ไอเดียตอนไปเที่ยวเอาท์เล็ตครั้งหน้าแล้วเนอะ ยังไงก็ขอให้สนุกกับการช้อปนะคะ
อ้างอิง
https://www.daveramsey.com/blog/the-pros-and-cons-outlet-stores
https://www.realsimple.com/beauty-fashion/clothing/shopping-guide/outlet-mall-shopping-secrets
https://www.smartsme.co.th/content/225932
ติดตามบทความใหม่ ๆ จากเพจฉันเรียนแฟชั่นที่มิลาน ได้ทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจฉันเรียนแฟชั่นที่มิลาน
