ฮาร์วาร์ด และ MIT แสดงความไม่พอใจต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ หลังออกเอกสารแจ้งว่า นักศึกษาที่เรียนแบบออนไลน์จะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศต่อไป พร้อมกับยื่นเรื่องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายแล้ว
วันที่ 8 ก.ค. 2020 เว็บไซต์ Business Insider รายงานว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ได้ทำการยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE) โดยเชื่อว่าประกาศของทางหน่วยงาน ที่ระบุถึงเรื่องการเรียนออนไลน์และสถานะของนักศึกษาต่างชาตินั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประกาศดังกล่าวที่ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของ ICE ระบุว่า นักศึกษาที่เข้าเรียนกับสถาบันที่ทำการสอนทางออนไลน์ทั้งหมด จะไม่สามารถอยู่ในสหรัฐฯ ได้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะไม่ออกวีซ่าให้นักศึกษาที่สมัครเรียนกับสถาบันหรือโปรแกรมที่เป็นการสอนออนไลน์เต็มรูปแบบในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วง และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและปกป้องชายแดน ก็จะไม่อนุญาตให้นักศึกษาเหล่านี้เข้ามาในสหรัฐฯ
สำหรับนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อยู่แล้ว และลงทะเบียนเรียนออนไลน์ทั้งหมด จะต้องออกไปจากประเทศหรือย้ายไปยังสถาบันที่มีการสอนในห้องเรียน เพื่อรักษาสถานะให้ถูกต้องตามกฎหมาย มิฉะนั้นแล้วจะต้องเจอกับผลลัพธ์จากหน่วยงานด้านการตรวจคนเข้าเมือง เช่นการถูกเนรเทศ เป็นต้น
แลร์รี่ บาคาว อธิการบดีม.ฮาร์วาร์ด ซึ่งเคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนมี.ค. ระบุว่าคำสั่งดังกล่าวออกมาโดยปราศจากคำเตือน และไม่มีการไตร่ตรองให้ดีก่อน เป็นเพียงความพยายามที่จะกดดันให้สถาบันการศึกษากลับมาเปิดเรียน โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยเลย
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาตำหนิม.ฮาร์วาร์ด ที่มีแผนจะปิดสถาบันบางส่วนในภาคการศึกษาที่กำลังจะมาถึง และเปลี่ยนมาทำการสอนออนไลน์กับนักศึกษาบางกลุ่ม ด้วยคำกล่าวว่า “ไร้สาระ” และ “หาทางออกง่ายๆ” ขณะที่ตัวผู้นำสหรัฐฯ กำลังพยายามกดดันให้แต่ละรัฐออกคำสั่งให้สถาบันการศึกษาเปิดทำการตามปกติ