โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ฮอนด้า “แอคคอร์ด ไฮบริด”  กว้างขวาง นั่งนุ่ม เงียบ 

กรุงเทพธุรกิจ

เผยแพร่ 26 มี.ค. 2562 เวลา 01.30 น.

แอคคอร์ด ไฮริด ที่ใช้เครื่องยนต์แอทกินสัน-ไซเคิล ไอ-วีเทค 2.0 ลิตร กับระบบ ไฮบริด ที่ฮอนด้าเรียกว่า Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD)พร้อมกับย้ำว่าเป็นระบบไฮบริดแท้ๆ คือ มอเตอร์จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนโดยตรง ทั้งการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวในช่วงออกตัว หรือ การขับขี่ที่ความเร็วต่ำ และมีกำลังไฟเพียงพอ และทำงานสนับสนุนเครื่องยนต์ในการขับขี่ที่ความเร็วสูง หรือว่าเมื่อต้องการกำลังเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เช่น ช่วงเร่งแซง เป็นต้น ดังนั้นสิ่งที่จะได้ตามมาก็คือ สมรรถนะ ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงการลดการปล่อยมลพิษ

ระบบไฮบริดจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวหนึ่งใช้ในการขับเคลื่อน และอีกตัวใช้เป็นตัวสร้างพลังงานไฟฟ้าจากป้อนเข้าไปเก็บในแบตเตอรี ซึ่งเป็นชนิดลิเธียม ไออน ขนาด 1.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง

แบตเตอรี มีการจัดเรียงโมดุลใหม่ ทำให้มีขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นเดิม และย้ายมันไปติดตั้งไว้ใต้เบาะนั่งด้านหลัง แทนที่จะเป็นหลังเบาะเหมือนก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่รบกวนพื้นที่อื่นๆ ของรถ ดังนั้น แอคคอร์ด ไฮบริด จะมีพื้นที่ห้องโดยสาร และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเท่ากัน

ระบบขับเคลื่อน ใช้เกียร์อี-ซีวีทีซึ่งก็ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหล นุ่มนวลมากขึ้น และเกียร์ก็ตอบสนองการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ที่การใช้งานทั่วไปได้ดี ไม่ว่าจะเป็นช่วงการออกตัว หรือ เร่งแซง หรือการปรับเปลี่ยนความเร็วในย่านต่างๆ

การออกตัวที่ได้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย ทำให้แอคคอร์ด ไฮบริด ดูเป็นรถที่มีความกระฉับกระเฉงมากทีเดียว แต่ก็สุขุมอยู่ในที ด้วยอารมณ์ของเกียร์ซีวีที ซึ่งเราแค่ค่อยๆ กดน้ำหนักลงบนคันเร่งไปเรื่อยๆ ไม่ต้องใช้ความรุนแรงกับมัน การออกตัวก็ขยับความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ อารมณ์เหมือนกับเวลารถไฟฟ้าออกตัวจากชานชาลานั่นแหละครับ

ช่วงการเพิ่มความเร็วหรือการเร่งแซงก็เหมือนกันครับ ไม่ต้องใช้ความรุนแรง แค่การเพิ่มน้ำหนักให้รถรู้ถึงความต้องการของเรา ก็จะสั่งการให้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้การเพิ่มความเร็วน่าพอใจ

แต่ว่าการขับขี่ครั้งนี้ ซึ่งมีระยะทางไม่ไกลนัก และมีข้อจำกัดด้านความเร็วจากกฎหมายที่เข้มงวดของย่านที่ขับขี่แถบชานเมือง แคลิฟอร์เนีย ที่กำหนดสูงสุดไม่เกิน70 กม./ชม.แม้จะแอบๆ เกินไปบ้าง ก็ไม่เกิน 100 กม./ชม. ดังนั้นการทดลองอัตราเร่ง หรือการเปลี่ยนความเร็วก็เป็นการเปลี่ยนที่ความเร็วช่วงกลางเป็นหลัก ส่วนการตอบสนองของไฮบริด หรือว่าเครื่่องยนต์ที่ความเร็วสูงกว่านี้ คงต้องรอหลังการเปิดตัวที่เมืองไทย

สำหรับแอคคอร์ด ไฮบริด ไม่มีคันเกียร์นะครับ แต่จะใช้เป็นแบบปุ่มกดแทน แนวทางเดียวกับที่ใช้ใน ซีอาร์-วี ดีเซล

การควบคุมคุมขับขี่่ก็ทำได้ดี การยึดเกาะถนนดี ขับขี่ในทางโค้งได้แม่นยำ แม้ว่าหลายช่วงที่ต้องขับขี่กันท่ามกลางสายฝน จนน้ำฝนกระจายก็ตาม ตรงนี้เป็นพัฒนาการจากรุ่นเดิมที่ชัดเจน

แต่ว่าช่วงล่างของไฮบริดเมื่อเทียบกับ 1.5 เทอร์โบ ที่ผมเขียนไปในฉบับที่แล้ว ช่วงล่างของไฮบริดจะดูนุ่มนวลกว่าเล็กน้อย สุภาพกว่า ซึ่งแน่นอนการเซ็ตนั้นต่างกัน จากความแตกต่างของทั้งตลาด และน้ำหนักของระบบไฮบริด มีทั้งมอเตอร์ และแบตเตอรีเพิ่มเข้ามา ขณะที่ 1.5 เทอร์โบ ดูกระด้างกว่า แต่ก็ให้อารมณ์สปอร์ตกว่าก็อยู่ว่าใครจะชอบแบบไหนครับ

โดยภาพรวมเท่าที่มีโอกาสได้ลองขับ แอคคอร์ด การขับขี่ลงตัวกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ต้องขอออกตัวอีกครั้งครับว่า เป็นการลองขับเบื้องต้นที่ยังมีข้อจำกัดอยู่พอควร แต่อดใจอีกไม่นาน ผมจะนำเวอร์ชั่นไทยมาเล่าสู่กันฟังแบบเต็มๆ อีกครั้งครับ

นอกจากเรื่องของเครื่องยนต์ แอคคอร์ด เจนเนอเรชันที่ 10 ยังมีการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น โครงสร้างตัวถัง ที่ฮอนด้าบอกว่านอกจากจะเป็นเจนเนอเรชันใหม่แล้ว ยังจะเป็นต้นแบบในการพัฒนารถรุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย

ฮอนด้าปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่เพื่อเพิ่มทั้งความพอใจในการโดยสาร และขับขี่ โดยยืดฐานล้อให้ยาวขึ้นรวมถึงขยายความกว้างช่วงล้อออกไป ซึ่งก็ทำให้วิศวกรออกแบบภายในทำงานง่ายขึ้น เพราะมีอิสระในการออกแบบมากขึ้น ผลที่ได้มาก็คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเมื่อไปนั่งเบาะด้านหลัง ซึ่งพื้นที่วางเท้า และพื้นทีเข่าเหลือเยอะ ห่างจากเบาะคู่หน้าพอควร

อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงและมีผลในเชิงเทคนิคก็คือการปรับให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงซึ่งตรงนี้ก็มีผลต่อการขับขี่ หรือว่าการทรงตัวของรถ รวมถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในโค้ง หรือการเปลี่ยนเลนไปมาครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่พบได้ในห้องโดยสารก็คือความเงียบที่น่าพอใจซึ่งนอกจากการเก็บเสียงด้วยวัสดุต่างๆ การเชื่อมโลหะแล้ว ยังมาจากระบบที่เรียกว่า"แอคทีฟ นอยส์ คอนโทรล"ซึ่งเป็นการปล่อยเสียงออกมาหักล้างกับเสียงที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสารครับ

ความเงียบยังมาจากสิ่งที่่เรียกว่า สเปรย์ โฟม ซึ่งใช้เป็นครั้งแรกในแอคคอร์ด ช่วยลดเสียงรบกวนได้ และก็ยังเป็นผลพวงมาจากการที่มีศูนย์ถ่วงต่ำลง ซึ่งช่วยให้แอโรไดนามิคใต้ท้องรถดีขึ้น ลดเสียงที่เกิดจากลมปะทะได้มากขึ้น

ตัวถังยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกกับแอคคอร์ด ก็คือ"เลเซอร์ เบลซ"(Laser Blaze) ซึ่่งจะช่วยลดรอยต่อบริเวณหลังคารถกับตัวถัง ทำให้ดูเรียบเนียน หรูหรายิ่งขึ้น และไม่ต้องไปหาวัสดุมาแทรก

ส่วนรูปร่างหน้าตา เปลี่ยนบุคลิกไปพอควร ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นสายหลังคาที่ลาดลงด้านหลัง ได้กลิ่นอายของรถคูเป้มานิดๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเป้าหมายในการสร้าง แอคคอร์ด เจนเนอเรชันที่ 10 ให้ลดอายุลง เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยลง มากขึ้นครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0