เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Netty Dogdaddy ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวการถ่ายพรีเวดดิ้งก่อนการแต่งงานกับสตูดิโอแห่งหนึ่งกลางกรุง ที่ตนเสียค่าบริการกว่าสี่หมื่นบาท แต่สุดท้ายกลับได้รับบริการไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ทั้งเรื่องชุดที่ใส่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ทางร้านบอกมีเลือกเยอะแต่สุดท้ายก็มีชุดให้เลือกน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นชุดที่มีสภาพเก่าๆ บางชุดมีรอยขาดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องช่างแต่งหน้าที่ผิดจากข้อตกลง เจ้าของโพสต์ดังกล่าวจึงออกมาโพสต์เผื่อแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้ทราบกัน
โดยเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า “ทางร้านผิดคำพูดหลายเรื่อง เรื่องช่างแต่งหน้า 1.ในแพ็กเกจบอกว่าจะเปลี่ยนหน้าทำผมให้ใหม่ทุกชุด แต่วันถ่ายจริงแต่งครั้งเดียวแล้วถ่ายหน้าแบบนั้นทั้ง 4 ชุด โดยที่แค่ซับและเติมหน้าให้เท่านั้น ไม่ได้มีการแต่งให้ใหม่อย่างที่โฆษณาในแพ็กเกจ 2.บอกจะเอาช่างแต่งหน้ามืออาชีพที่แต่งหน้าดารามาแต่งให้ แต่วันถ่ายเอาช่างอะไรไม่รู้มาแต่ง แต่งเสร็จแฟนผมไม่โอเคเลย แฟนผมบอกกับทางภรรยาเจ้าของไปว่าไม่ใช่แบบที่เราต้องการ แต่เขาก็บอกให้ถ่ายไปก่อน เดี๋ยวไปรีทัชเอา ตอนจบงานแฟนผมไปพูดกับเจ้าของเรื่องการแต่งหน้า เขาขอโทษแล้วบอกว่าช่างแต่งหน้าคนที่แจ้งไว้ป่วยต้องผ่าตัดกระทันหัน เค้าเพิ่งรู้เมื่อเช้า
“เรื่องชุดวันที่ไปคุยวันแรกผมได้ดูชุดที่สตูเขาคร่าวๆ ซึ่งชุดมีค่อนข้างน้อย เขาบอกกับผมว่าเค้าทำมาสิบกว่าปี มีชุดเยอะกว่าที่เห็นแน่นอน พอวันไปวัดตัวลองชุด ชุดมีอยู่เท่าเดิมไม่ได้มีเพิ่มอย่างที่เขาพูด ผมกับแฟนเลยจำใจต้องเอาชุดที่เค้ามี รองเท้าเจ้าสาว ถุงเท้ายาวผู้ชาย ก็ไม่มีให้ ถ้าจะเอาเราต้องซื้อเพิ่ม รองเท้าส้นสูงราคา 950 บาท ถุงเท้าคู่ละ 250 บาท ซึ่งแพงเกินจริงมาก ผมเลยไม่เอาไปหาซื้อกันเอง เสื้อเชิ้ตขาวข้างในที่ใส่กับสูทผมก็ต้องหาซื้อเอง สรุปราคาแพ็กเกจ 35,000 บาท + ค่าทำกรอบรูปและ photo book 5,700 บาท รวมทั้งหมดเป็น 40,700 บาทครับ ตอนแรกผมมัดจำไปสองหมื่นบาท แล้ววันที่ถ่ายเขาทวงส่วนที่เหลือ 20,700 บาท ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร เลยโอนไปให้ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มถ่าย”
“ต่อมาก็ได้มีการคุยกันว่าไม่ได้เป็นตามที่ตกลงกันไว้ จึงอยากจะขอคืนเงินในส่วนที่โอนเพิ่มไป 15,000 บาท และยอมให้ยึดเงินค่ามัดจำจำนวน 20,000 บาท และขอไฟล์รูปที่ถ่ายไปในวันนั้นทั้งหมด ผมต้องการแค่นี้ ชุดวันจริงหรืออะไรผมไม่ต้องการแล้ว แต่ทางร้านยอมโอนคืนมาให้แค่ 5,700 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นค่ากรอบรูปหน้างาน และ photo book ซึ่งทางแฟนผมได้แจ้งกับทางสตูไปแล้วครับแต่เขาไม่ยอมคืนให้”
“สุดท้ายผมจึงอยากจะฝากบอกว่าแต่งงานครั้งเดียวในชีวิต เราก็อยากจะทำให้ทุกอย่างดีที่สุด สวยที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด เจอแบบนี้เสียความรู้สึกมากๆ ตั้งแต่ถ่ายเสร็จแฟนผมร้องไห้ทุกวันเลย เครียด นอนไม่หลับ สตูแห่งนี้ที่ผมโดนมาเนี่ย มีคนเคยโดนอีกหลายคู่เลย เขาแชทมาคุยกับผมอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง ก็ขอฝากคนที่กำลังจะหาที่ถ่ายพรีเวดดิ้งว่าควรหาข้อมูลดีๆ ก่อนตัดสินใจ เพราะร้านที่ดูดีแต่ภายนอกมันมีเยอะมาก ทางที่ดีควรเลือกจากร้านที่เพื่อนหรือคนใกล้ตัวเคยไปใช้บริการมาแล้วจะดีที่สุด ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบผมอีก”