โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อ้าง ‘ยืมเพื่อน’ ก็ไม่รอด ศาลพิพากษายืนจำคุกอดีตปลัดคมนาคม 10 เดือน ฐานไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน

The MATTER

อัพเดต 20 ต.ค. 2561 เวลา 10.34 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2561 เวลา 06.31 น. • Brief

คำอ้างว่าที่ “ยืมทรัพย์สินของเพื่อนมาใช้” เลยไม่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. ไม่ได้มีแต่กรณีนาฬิกาหรูเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้มีคนใช้คำอ้างนี้มาคนหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือ ป.ป.ช.ไม่เชื่อ และศาลเองก็ไม่เชื่อ พิพากษาให้จำคุก ..คนๆ นั้นก็คือ ‘สุพจน์ ทรัพย์ล้อม’ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม

และในวันนี้ก็มีคดีล่าสุด เกี่ยวกับตัวสุพจน์และข้ออ้าง “ยืมเพื่อน”

หากใครยังจำกันได้ 6-7 ปีก่อน สุพจน์เคยถูกโจรขึ้นบ้านและปล้นทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง แต่ที่เป็นปัญหาก็คือทรัพย์สินที่ถูกทิ้งไว้บางส่วน กว่า 20 ล้านบาท ไม่ได้แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่เจ้าตัวต้องยื่นต่อ ป.ป.ช.

อธิบายข้อกฎหมายไว้ก่อนว่า บุคคลที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ไม่ได้มีแค่นักการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้าราชการระดับสูงและบอร์ดรัฐวิสาหกิจ โดยจะต้องยื่น 3 ครั้ง คือ (1) เข้ารับตำแหน่ง (2) ออกจากตำแหน่ง (3) อยู่ในตำแหน่งเดิมครบ 3 ปี และ 5 ปี

ป.ป.ช.ใช้เวลาไม่ถึงปี ก็ชี้มูลความผิดว่าสุพจน์แจ้งบัญชีเท็จ เป็นเงินสด 17.6 ล้านบาท และรถยนต์โฟล์กวาเก้น 3 ล้านบาท และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ตัดสินให้จำคุกเขาเป็นเวลา 10 เดือน (ไม่แจ้งบัญชี 5 ครั้งๆ ละ 2 เดือน) โดยคำชี้แจงที่น่าสนใจของสุพจน์ ก็คือกรณีรถยนต์โฟล์กวาเก้น ที่อ้างว่าไม่ใช่ของตัวเอง แต่ยืมเพื่อนมาใช้งาน แต่ศาลไม่ได้เชื่อแค่หลักฐานความเป็นเจ้าของเท่านั้น ยังดูไปถึงเบื้องหลังการ ‘ให้ยืม’ ทรัพย์สินนั้นๆ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้ยืม-ผู้ยืม พฤติกรรมการใช้งาน จอดอยู่ในบ้านใคร ใครซ่อม ใครเติมน้ำมัน ฯลฯ เพื่อดูว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง

(The MATTER เคยเขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ย้อนไปอ่านกันได้ https://bit.ly/2ClzdJr)

ต่อมาสุพจน์ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลฎีกาฯ ก็นัดอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ในวันนี้ ก่อนจะยืนตามคำพิพากษาเดิม ซึ่งในเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ของศาล ได้ระบุข้อความว่า การที่กฎหมายกำหนดให้ผู้มีอำนาจต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ก็เพื่อ..

“ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์มิชอบ แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฎว่าผู้คัดค้านไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินทั้ง 2 รายการ (คือเงินสดและรถยนต์) ทั้งที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ควรต้องเป็นตัวอย่างที่ดี แต่กระทำผิดเสียเองจึงนับว่าพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง”

ให้จำคุกสุพจน์เป็นเวลา 10 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทำให้เจ้าตัวถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำโดยทันที พร้อมกับห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เป็นเวลา 5 ปี

.

อ้างอิงจาก

https://www.thaipost.net/main/detail/20195

https://www.isranews.org/isranews/70379-isranews444-70379.html?fbclid=IwAR1M4wGFeYzY8METv1o4_u2Yn9i2-VXL-d_BX__5xTDcyF1Y31aZu6FnBDg

https://www.nacc.go.th/ewt_news.php?nid=780&filename=index

ที่มาภาพประกอบ

https://www.thairath.co.th/tags/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%8C%20%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1

#Brief #TheMATTER

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0