เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.ศรีวิภา กลางเบิด หรือ "อ้อย เทคมีเอาท์" เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.บุญลือ ทางตรง รองสว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อเอาผิดกับกองปราบปรามในข้อหาข้อหาหมิ่นประมาทละเมิดสิทธิทำให้เกิดความเสียหาย โดยคดีนี้เกิดขึ้นหลังมีการเผยแพร่รูป น.ส.ศรีวิภา ขณะถูกจับกุมในคดีฉ้อโกงเมื่อวันที่ 5 ต.ค.62 โดยจับกุมที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านพระราม 3 โดยน.ส.ศรีวิภาเรียกร้องค่าเสียหายจากกองปราบปรามและสื่อออนไลน์ที่ยังไม่นำข่าวออกจากระบบ ซึ่งค่าเสียหายนั้น น.ส.ศรีวิภา เรียกจากทั้ง 2 แห่ง แห่งละ 10 ล้านบาท รวม 20 ล้านบาท
น.ส.ศรีวิภา เปิดเผยว่า หลังตนตกเป็นข่าวถูกจับกุมในคดีเดือนต.ค.62 นั้น พบว่ามีคลิปภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งจากกองปราบ ที่มาจับกุมตนแล้วเผยแพร่ภาพไปยังสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การเผยแพร่คลิปกับสำนักข่าว ทางกองปราบปรามมีสิทธิ์อะไร ตนไม่ใช่นักโทษ สุดท้ายคดีถอนฟ้องจบไปในเดือนพ.ย.62 แล้ว เรื่องนี้ตนเสียหายมาก มีผลกระทบกับเรื่องการงานกับธุรกิจ การถ่ายแบบก็ถูกยกเลิก มีค่าเสียหายเกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 27พ.ย.62 ตนก็เคยไลฟ์สดกินยาฆ่าตัวตาย ตนทำธุรกิจมา 14 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาแม้แต่น้อย จนมาเจอเรื่องนี้ ทำใจยากเพราะจู่ ๆ ถูกคนด่า ตนไม่มีคดีฉ้อโกงกับใครอื่น มีแค่คู่กรณีคนเดียว “หลังเกิดเรื่อง ทางกองปราบปรามเคยโฟนอินมาในรายการที่ดิฉันไปออกว่า ให้เข้ามาพบผู้ใหญ่ได้เลย แต่วันนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อมา ไม่อยากให้สังคมไทยอยู่กับผู้รักษากฎหมายที่สร้างภาพ ตอนแรกโกรธสื่อมาก แต่พอรู้ความจริงว่าภาพข่าวคลิปมาจากกองปราบปราม จึงติดต่อไปยังสื่อมวลชน ซึ่งจำนวนมากก็ยอมเอาภาพตนออกจากข่าว มีเพียงบางส่วนที่ยังไม่ยอมเอาภาพคลิปข่าวออก จึงจะฟ้องสื่อดังกล่าวด้วย” น.ส.ศรีวิภา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลกับกองปราบปรามและสื่อออนไลน์ดังกล่าวมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป.