อ่านฉลากอย่างฉลาด เคล็ดลับสุขภาพดีเพื่อสาวกร้านสะดวกซื้อ

ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น หรือกลางดึก ต้องยอมรับว่าปัจจุบันคนไทยฝากท้องไว้ที่ร้านสะดวกซื้อเป็นจำนวนมาก เพราะ แค่หยิบ จ่าย กิน มันช่างแสนสะดวกสบายสมชื่อร้านเสียจริง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ถ้าคุณเพิ่มขั้นตอน “การอ่านฉลากโภชนาการ” เข้าไปอีกเพียงหนึ่งขั้น คุณจะสามารถอิ่ม อร่อย และสุขภาพดีไปได้พร้อม ๆ กัน
ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งส่วนใหญ่มักอุดมไปด้วยโซเดียม เนื่องจากต้องเพิ่มรสเค็มเพื่อรักษารสชาติให้อยู่ในระดับอร่อย ส่วนขนมหวานก็มักมีปริมาณน้ำตาลสูง เราอาจมองว่า การกินอาหารพวกนี้เพียงวันละมื้อสองมื้อคงไม่เป็นอะไร แต่ในความเป็นจริง เรากำลังมีพฤติกรรมกินตามใจปากอย่างไม่รู้ตัว
โดยคนที่กินอาหารที่มีปริมาณโซเดียม น้ำตาล และไขมันสูงในทุก ๆ วัน เป็นระยะเวลานาน ในอนาคตมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค NCDs หรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตสูงมาก ทั้งโรคไต เบาหวาน และมะเร็ง
“การอ่านฉลากโภชนาการ” จึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนก่อนซื้ออาหารและขนมที่ไม่ควรมองข้าม ตัวเลขที่คุณเห็นยุบยิบชวนมึนงง จนไม่อยากจะอ่านนั้น หากศึกษาให้ดี การอ่านฉลากโภชนาการก็ไม่ยากอย่างที่คิด3 ขั้นตอน การอ่านฉลากโภชนาการที่ถูกต้องและแสนง่าย

ด้วยความห่วงใย เราได้เคี้ยวและย่อยฉลากอาหารแสนงงให้เหลือเพียง 3 ขั้นตอนแสนง่ายเท่านั้น ขอกระซิบว่า เป็นเวอร์ชั่นที่เข้าใจง่ายที่สุดในโลก ถ้าพร้อมที่จะมีสุขภาพดีจากการเลือกทานอาหารที่เหมาะสมกันแล้ว ก็ลุยเลย! ขั้นที่ 1 : หนึ่งหน่วยบริโภคหนึ่งหน่วยบริโภค หมายถึง ปริมาณที่คุณควรกินต่อครั้ง เช่น ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต หนึ่งหน่วยบริโภค = 2 ชิ้น, จำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่อง = 4 แปลว่า ช็อกโกแลตกล่องนี้มีทั้งหมด 8 ชิ้นเล็ก และคุณต้องแบ่งกินทั้งหมด 4 ครั้งขั้นที่ 2 : พลังงานทั้งหมดพลังงานทั้งหมด หมายถึง พลังงานของหนึ่งหน่วยบริโภคเท่านั้นนะ ถ้าเห็นตัวเลขน้อย ๆ อย่าเผลอกินเพลินจนหมดกล่องล่ะ 
จากผลิตภัณฑ์เดียวกันกับขั้นตอนที่แล้ว ถ้าช็อกโกแลตกล่องนี้บอกว่า พลังงานทั้งหมด = 100 กิโลแคลอรี่ แปลว่า ช็อกโกแลต 2 ชิ้น = 100 กิโลแคลอรี่นะ ถ้าคุณกินจนหมดกล่องในคราวเดียว ก็เท่ากับว่าคุณจะได้รับพลังงานสูงถึง 400 กิโลแคลอรี่ เพราะว่า เจ้าช็อกโกแลตกล่องนี้มีจำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่องอยู่ที่ 4 ครั้ง น้ำตาลพุ่งปรี๊ดและอ้วนแน่นอน
หากนึกภาพไม่ออก 400 กิโลแคลอรี่ ก็เท่ากับข้าวไข่เจียวกรอบ ๆ ฟู ๆ 1 จาน นั่นแหละ ขั้นที่ 3 : ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวันเจ้าฉลากโภชนาการได้คำนวนบรรดาสารอาหารต่าง ๆ ทั้งไขมัน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม น้ำตาล โปรตีน ไปจนถึงใยอาหาร มาเป็นเปอร์เซ็นต์ให้เราแล้ว 
ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ไขมันทั้งหมด 9 กรัม = 14% แปลว่า ถ้าคุณกินช็อกโกแลตไปหนึ่งหน่วยบริโภค คุณจะได้รับไขมัน 14% และใน 1 วันนี้ คุณจะสามารถกินไขมันจากอาหารอื่น ๆ ได้อีก 86 %
หากคุณมีนัดไปกินมื้อเย็นแบบจัดหนักจัดเต็มกับเพื่อน ๆ คุณก็ต้องเลือกอาหารที่มี % น้อย ๆ และไม่กินจุบจิบระหว่างวัน เพื่อเก็บโควต้าไปกินในมื้อเย็นได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลว่า % ของสารอาหารชนิดนั้น ๆ จะเกินกว่าความจำเป็นของร่างกาย
ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าชิ้นไหนควรไปต่อ ชิ้นไหนควรวางคืนที่ชั้น เพียงแค่อ่านฉลากอาหารก่อนรับประทาน คุณก็มีสุขภาพดีได้แล้ว

กินแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอ ?เมื่ออ่านฉลากเป็นแล้ว ก็ต้องรู้ว่าปริมาณอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวันด้วย เพื่อที่คุณจะได้สามารถกะปริมาณและเลือกประเภทอาหารในแต่ละมื้อจากการอ่านฉลากได้ถูกต้องและเหมาะสม ไปเริ่มกันเลย!- ปริมาณน้ำตาลต่อวัน ควรได้รับไม่เกิน 25 กรัม หรือ 6 ช้อนชา- ปริมาณน้ำมันต่อวัน ควรได้รับไม่เกิน 65 กรัม หรือ 16 ช้อนชา- ปริมาณโซเดียมหรือเกลือต่อวัน ควรได้รับไม่เกิน 2300 มิลลิกรัม หรือ 1 ช้อนชาส่วนพลังงานงานที่ควรได้รับต่อวัน ก็จะแตกต่างกันออกไปตามวัยและลักษณะการใช้ชีวิต ดังนี้- เด็กและผู้สูงอายุ ควรได้รับพลังงาน 1,600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน- ผู้หญิงและผู้ชาย อาชีพทำงานนั่งโต๊ะ 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน- ผู้หญิงและผู้ชาย อาชีพทำงานใช้แรง 2,400 กิโลแคลอรี่ต่อวันFoodChoice เลือกช้อยส์ที่ใช่ เพื่อสุขภาพที่ชอบ

 
สำหรับคนที่สายตาไม่ดี ไม่อยากจะเพ่งอักษรจิ๋ว ๆ บนฉลาก หรือเร่งรีบเกินกว่าจะมาคำนวนปริมาณที่ควรได้รับต่อวันแบบแมนนวล ปัจจุบันก็มีแอปพลิเคชันสำหรับอ่านฉลากโภชนาการออกมาจำนวนมาก เพียงแค่สแกนแป๊บเดียวก็เข้าใจข้อมูลบนฉลากแล้ว อดคิดไม่ได้ว่า บางทีเทคโนโลยียังใส่ใจสุขภาพของเรามากกว่าตัวเราเองเสียอีก
FoodChoice เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่ช่วยเราอ่านข้อมูลบนฉลากโภชนาการ ผ่านการสแกนบาร์โค้ดข้างผลิตภัณฑ์ จากนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกแสดงบนมือถือของเราอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากฐานข้อมูลของสำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข รับรองว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้แน่นอน

นอกจากนี้ FoodChoice ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้เราเลือกใช้อีกด้วย เช่น คุณสแกนบาร์โค้ดของมันฝรั่งทอดกรอบยี่ห้อ A เข้าไป แต่พลังงานมันช่างเยอะเหลือเกิน คุณก็สามารถกดที่ช่องพลังงานได้ และระบบจะประมวลผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันจากยี่ห้ออื่น ๆ ที่ให้พลังงานน้อยกว่ามาให้คุณเลือกสรร
สำหรับคนที่มีปัญหาทางสุขภาพ FoodChoice ก็มีช่องคำแนะนำทางสุขภาพให้เช่นกัน เช่น ถ้าคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูง คุณควรรับประทานมันฝรั่งทอดกรอบแต่น้อย เลือกชนิดที่มีไขมัน น้ำตาล และโซเดียมต่ำ ส่วนโรคเบาหวาน คุณสามารถมันฝรั่งทอดกรอบได้ แต่ในปริมาณ 100 กิโลแคลอรี่เท่านั้น
ที่สำคัญในแอปพลิเคชันยังมีหน้าประวัติค้นหาของคุณด้วย ผลิตภัณฑ์ไหนที่กินเป็นประจำ คุณก็สามารถคลิกดูข้อมูลจากหน้าประวัติได้เลย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาสแกนอีกรอบ สะดวกสบายเป็นที่สุด
อย่าปล่อยให้โรคร้ายต้องถามหาเรา เพราะ การกระทำของตัวเราเองเลย หิว หยิบ “อ่าน” จ่าย กิน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนซื้อ ไม่ว่าจะอ่านฉลากโภชนาการเองแบบแมนนวล หรือใช้แอปพลิเคชันที่แสนสะดวกสบาย แค่ยอมเสียเวลาไม่ถึง 30 วินาที ดีกว่าเสียสุขภาพในระยะยาวนะดาวน์โหลดคลิกApp StorePlay Store

_ 

รวมบทความสุขภาพ #HealthyLiving

_เพิ่มช่องทางการรับข่าวสารและข้อมูลดี ๆ ผ่าน Line Official AZAYfan ที่จะช่วยทำให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ได้ที่