โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อโกด้าแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว6 ประเทศที่คนชื่นชอบกาแฟไม่ควรพลาด

สยามรัฐ

อัพเดต 18 ต.ค. 2562 เวลา 03.59 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2562 เวลา 03.59 น. • สยามรัฐออนไลน์
อโกด้าแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว6 ประเทศที่คนชื่นชอบกาแฟไม่ควรพลาด

สำหรับ กาแฟคือหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมของโลก ดังนั้นทาง อโกด้า จึงเอาใจคอกาแฟที่ชอบท่องเที่ยว ด้วยการคัดสรร 6 ประเทศทั่วโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟรสชาติเข้มข้นและวัฒนธรรมการดื่มกาแฟอันมีเอกเอกลักษณ์ มาเป็นไอเดียให้คนรักกาแฟได้ไปเติมคาเฟอีน เพิ่มพลังในช่วงเดินทางกันให้เต็มที่

เมื่อพูดถึงกาแฟก็ต้องเริ่มที่อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมการดื่มกาแฟสมัยใหม่มาก เริ่มจากกาแฟลิงโก้ เช่น คาปูชิโน่ ลาเต้ และมัคคิอาโต ไปจนถึงกาแฟลุงโก้ หรือกาแฟสไตล์อิตาลีที่ทำจากเครื่องชงเอสเปรสโซ่และมีน้ำเป็นส่วนผสมมากกว่ากาแฟลิงโก้ โดยคนอิตาลีมีวิธีการดื่มกาแฟที่น่าสนใจ เนื่องจากพวกเขาจะดื่มกาแฟที่บ้าน และถือว่านมมีไว้สำหรับมื้อเช้าและนักท่องเที่ยวเท่านั้น ดังนั้นถ้าสั่งลาเต้ตบท้ายมื้อกลางวัน คนขายอาจจะมองด้วยสายตาแปลกๆ เพราะปกติแล้วหลังจากเวลาเที่ยงวัน หากอยากดื่มกาแฟ คนอิตาลีจะดื่มแต่เอสเพรสโซเท่านั้น

ส่วน การซื้อกาแฟแบบกลับบ้าน อาจเป็นเรื่องปกติสำหรับประเทศอื่นๆ แต่วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนอิตาลีจะต่างออกไปเล็กน้อย โดยคนอิตาลีมักไปดื่มกาแฟกันที่บาร์ และอุณหภูมิของกาแฟก็จะต่ำกว่าของกาแฟในประเทศอื่นเล็กน้อย เหมาะสำหรับยกดื่มทันที แล้วก็จ่ายเงินเดินออกไปทำธุระของตัวเองต่อ

ซึ่งอาจจะยากที่จะตัดสินว่ากาแฟจากที่ไหนในอิตาลีดีที่สุด แต่เมืองตูริน บ้านเกิดของแบรนด์ Lavazza และเมืองทรีเอสเต้ บ้านเกิดของแบรนด์ Illy เป็นสองเมืองที่มีชื่อเสียงมากเรื่องกาแฟ สำหรับที่พักในเมืองทางเหนือติดเทือกเขาแอลป์อย่า งตูริน ที่มีพิพิธภัณฑ์ Lavazza อโกด้าขอแนะนำโรงแรม NH Torino Santo Stefano ส่วนที่พักในเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือติดทะเล อย่าง ทรีเอสเต้ อโกด้าขอแนะนำโรงแรม Hotel Continentale เพราะไม่ไกลจากโรงงาน Illy Caffe สถานที่ประดิษฐ์เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติเครื่องแรก เปิดให้เข้าเยี่ยมชมในวันธรรมดา

ขณะที่ถ้าไปเที่ยวฟินแลนด์ คอกาแฟไม่ควรพลาด kaffeost หรือกาแฟชีส หนึ่งในเมนูสุดคูลที่คนนอร์ดิก สร้างสรรค์ขึ้นมาจากความคิดที่ว่า ถ้าจุ่มก้อนชีสลงไปในกาแฟ จะเป็นยังไง ด้วยความที่อาหารฟินแลนด์และอาหารสวีเดนทางเหนือเป็นอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น รวมถึงให้เนื้อสัมผัสแบบครีม คนในท้องถิ่นจึงพยายามผสมผสานเอกลักษณ์นี้กับกาแฟ เพื่อให้กาแฟมีรสชาติถูกปากมากขึ้น เหตุนี้เองคนฟินแลนด์จึงเป็นผู้บริโภคกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก เฉลี่ยแล้วแต่ละคนจะดื่มกาแฟ 12 กิโลกรัมต่อปี ส่วนใครที่วางแผนไปผจญภัยฟินแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงหน้าหนาวที่ระยะเวลากลางวันสั้นกว่ากลางคืน หรือในช่วงหน้าร้อนที่ระยะเวลากลางวันยาวกว่ากลางคืน อโกด้าแนะนำโรงแรม Scandic Aviacongress

ด้านประเทศ ตุรกี เป็นชาติที่จริงจังเรื่องการดื่มกาแฟถึงขนาดมีคำพูดที่ว่า เมื่อคุณดื่มกาแฟตุรกีหนึ่งแก้ว คุณจะจำรสชาติของมันไปได้นานสี่สิบปี โดยกาแฟตุรกี มี 4 ระดับ ขึ้นอยู่กับปริมาณของกาแฟที่ใส่ลงไปในหม้อต้มกาแฟขนาดเล็ก และตัวกาแฟขณะต้ม Sade หรือ şekersiz คือ กาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาล Az şekerli คือกาแฟที่ใส่น้ำตาลครึ่งช้อน Orta คือกาแฟที่ใส่น้ำตาลหนึ่งช้อน สุดท้าย Şekerli คือกาแฟหวานที่ใส่น้ำตาลสองช้อน

โดย กาแฟตุรกี จะผ่านการชงให้ได้อุณหภูมิที่พอเหมาะคนให้เข้ากัน จากนั้นจึงเสิร์ฟพร้อมฟองครีมด้านบน และชั้นกาแฟดำบดด้านล่าง หาดื่มได้ทั่วไปทั้งในโรงแรมระดับไฮเอนด์และตามถนนในอิสตันบูล เมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน ส่วนที่พัก อโกด้าขอแนะนำโรงแรม Tria Hotel Istanbul ซึ่งผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำกับกาแฟบนระเบียง พร้อมชมวิวอันสวยงามของช่องแคบบอสพอรัส มัสยิดสีน้ำเงิน และสุเหร่าโซเฟีย

เวียดนาม ถือเป็นผู้ส่งออกกาแฟอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟซึ่งสัมผัสได้แทบทุกมุมถนน โดยกาแฟเวียดนามจะชงผ่าน 'ฟิน' (phin) หรือเครื่องดริปของคนเวียดนาม โดยคนเวียดนามจะรอให้กาแฟค่อย ๆ หยดจากเครื่องลงมาในแก้วที่มีน้ำแข็งและนมข้นอยู่ทีละหยดจนทุกอย่างผสมเข้ากัน กลายเป็นกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศ หรือหากใครอยากดื่ม cà phê sữa đá เป็นกาแฟเย็นที่หาได้ทั่วไป ต้องลองลิ้มรสสูตรพื้นบ้านของคนเวียดนาม ที่ผสมไข่ลงไปในกาแฟด้วย

โดยมีร้านกาแฟ Giant Coffee นอกเขตเมืองเก่าในเมืองฮานอย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหลากหลายรูปแบบอีกด้วย แต่ถ้าคอกาแฟคนไหนอยากพักใกล้ๆ หนึ่งในร้านกาแฟที่ดีที่สุดในโลก อโกด้าแนะนำโรงแรม Grand Cititel Hanoi

อย่างไรก็ตาม กาแฟ ได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมอย่างเมลเบิร์น ที่ซึ่งกาแฟไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่คือไลฟ์สไตล์ ด้วยการเปลี่ยนจากร้านกาแฟชื่อดัง มาเดินเท้าสำรวจตรอกซอกซอยของเมลเบิร์น ซึ่งเต็มไปด้วยสีสัน และคาแรกเตอร์ รวมถึงร้านกาแฟสุดฮิปมากมาย สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิวัติกาแฟในท้องถิ่น พร้อมดื่มด่ำกับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่ชงโดยบาริสต้ามากประสบการณ์ สำหรับที่พัก อโกด้าขอแนะนำ Turnkey Accommodation ทางเหนือของเมลเบิร์น เพื่อความสะดวกในการตื่นเช้าไปเดินชิมกาแฟหอมกรุ่น

สุดท้ายที่ บราซิล ผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สำหรับคนบราซิลแล้วทุกเวลาคือเวลากาแฟ คนบราซิลชื่นชอบการดื่ม cafézinho (ภาษาโปรตุเกสของคำว่า 'little coffee') หรือกาแฟดำแท้รสชาติหวานเข้มข้น ซึ่งมีเสิร์ฟที่บาร์และร้านค้าเล็ก ๆ ในแทบทุกมุมของประเทศ และเป็นเมนูที่คนบราซิลนิยมกว่าไอซ์คาราเมลแฟรบปูชิโน่ โดยเฉพาะงาน Carnivale เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 เป็นช่วงที่เหมาะกับการเติมคาเฟอีนเข้าร่าง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปาร์ตี้ตลอดทั้งวันทั้งคืนในเมืองริโอ สำหรับที่พัก อโกด้าขอแนะนำโรงแรม Gerthrudes Bed & Breakfast

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0