โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อุทาหรณ์สอนหญิง คิดว่า'อ้วนเหมือนท้อง'ภัยร้ายแฝง!

เดลินิวส์

อัพเดต 24 พ.ค. 2561 เวลา 06.55 น. • เผยแพร่ 24 พ.ค. 2561 เวลา 06.50 น. • Dailynews
อุทาหรณ์สอนหญิง คิดว่า'อ้วนเหมือนท้อง'ภัยร้ายแฝง!
สาวสวยขอแชร์อุทาหรณ์.. เตือนสาวพุงย้อยต้องระวัง คิดว่าอ้วนจนถูกทักเหมือนคนท้อง สุดท้ายเจอ “ถุงน้ำในรังไข่” ภัยเงียบใกล้ตัวหวิดเป็น “มะเร็ง!”

จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Dew Dararat ที่ได้แชร์เรื่องราวการเป็นสาวมีพุงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนถูกทักว่าเหมือนคนตั้งครรภ์ และไม่มีอาการปวด จนสุดท้ายไปพบหมอจึงทราบว่ามีอาการ "ถุงน้ำในรังไข่" อีกทั้งเกือบจะเป็น "มะเร็ง" จนกลายเป็นกระแสแชร์เรื่องราวไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างล้นหลามกว่า 3.7 หมื่นครั้งนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พ.ค. "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้พูดคุยกับ น.ส.ดารารัตน์ วงศ์ใหญ่ หรือดิว อายุ 25 ปี สาวสวยเจ้าของโพสต์ดังกล่าวเผยว่า ปกติก่อนหน้านี้ เป็นคนที่เครียดมาก ทำงานหนักตลอดเวลาตั้งแต่เรียนหนังสือ เพราะต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยเพื่อส่งตัวเองและน้องสาวเรียน อีกทั้งคุณแม่ซึ่งเป็นโรคไตต้องฟอกไตทุกสัปดาห์ จนเรียนจบเริ่มทำงานประจำ ก็ยังรับงานฟรีแลนซ์เพิ่มเติม มีเวลานอนเพียงวันละ 2-3 ชม. ก็มีพุงบ้างเป็นปกติ

จนปี2560 คิดว่าอยากหาประสบการณ์ให้ตัวเองก็ไปเรียนภาษาที่ประเทศออสเตรเลีย ตอนนั้นก็พยามทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก-ผลไม้ จัดระเบียบการทานอาหาร ออกกำลังกาย แต่พุงที่มีก็ยังไม่ยุบจนถูกทักว่าผิดปกติ แต่ก็ยังคิดว่าตัวเองอ้วน ผ่านไป 4 เดือน เรียนจบกลับมาประเทศไทย ได้ทานอาหารไทยที่อยากทาน พุงก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถูกทักว่าเหมือนคนท้อง เมื่อได้คุยวีดิโอคอลกับคุณแม่ ท่านจึงบอกว่าถ้าไม่ได้ท้องก็อาจจะเป็นเนื้องอกได้ ให้เร่งไปตรวจ

โดยวันที่ไปตรวจกับคุณหมอก็เล่าพฤติกรรมที่มีแต่เรื่องเครียดให้คิดตลอดเวลาแม้จะพยายามให้เครียดน้อยลง ถ้าเครียดมาก ประจำเดือนก็จะมาแต่มาแบบกระปิดกระปอย ไม่มีอาการปวดเหมือนคนอื่นๆ เวลาทานอาหารได้ไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกแน่น อึดอัดตลอดเวลา จนถูกคุณหมออัลตร้าซาวด์ พบว่าเป็นเนื้องอกในรังไข่ข้างขวาชนิดถุงน้ำ ถุงโตบีบปีกมดลูกคับท้องขยายจนจะถึงลิ้นปี่ ต้องทำการผ่าตัด โดยเอาทั้งก้อนเนื้อ รังไข่และปีกมดลูกข้างขวาออก ซึ่งก้อนเนื้อที่ออกมาเท่าลูกบอลลูกกลาง หนัก 3 กก. อีกทั้งผลชิ้นเนื้อยังก้ำกึ่งว่าจะเป็นมะเร็ง ต้องฉีกสี รักษาต่อเนื่อง ติดตามอาการทุกๆ 3 เดือน โดยตอนนี้ผ่านไป 6 เดือนแล้วตรวจวัดค่ามะเร็งน้อยลง แต่ก็ยังต้องติดตามผลเป็นระยะเวลา 2 ปี

"ดิวได้พูดคุยเรื่องของเรากับพี่ที่รู้จัก จนพี่เขาไปตรวจแต่พบว่าเป็นมะเร็งระยะที่ 2-3 แล้ว เราก็รู้สึกเฟลมากๆ เลยอยากจะนำเรื่องของดิวให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้หญิงทุกคน ขนาดช่วงนั้นดิวอายุแค่ 24 ปี ยังเกือบจะเป็นมะเร็งเลย เพราะฉะนั้นเมื่อเราไม่ใช่หมอก็อย่าคาดเดาอาการตัวเองเลยค่ะ อย่าคิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย หรือเดี๋ยวค่อยไปตรวจก็ได้ ยิ่งเฉพาะผู้หญิง ตรวจสุขภาพแล้วก็อย่าอายที่จะตรวจภายในด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าภัยเงียบที่อยู่ในร่างกายเราจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ร่างกายของเราไม่มีอะไหล่ ฉะนั้นอย่าอายที่จะตรวจเลยค่ะ" คุณดิว กล่าวทิ้งท้าย..

ขอบคุณข้อมูลจาก @Dew Dararat

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0