อุทยานแห่งชาติเขาสก แจงกลุ่มบุคคลตั้งแคมป์บริเวณคลองแปะ เป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาเส้นทาง ไม่ใช่บุคคลภายนอก

โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ รับรายงานจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก กรณีโลกออนไลน์เผยแพร่ภาพ กังวลว่าอาจเป็นกลุ่มพรานล่าสัตว์
(23 ก.พ.63) นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงกรณีโลกออนไลน์และสื่อโซเชียลมีเดีย มีการเผยแพร่ภาพและข้อความระบุว่ามีกลุ่มบุคคลนำรถยนต์เข้าไปกางเต็นท์พักแรม ลักษณะผ่อนคลายอิริยาบถ ซึ่งสังคมออนไลน์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า กลุ่มบุคคลที่เห็นในภาพอาจเข้าไปในป่าเพื่อกางเต็นท์ล่าสัตว์ป่านั้น
นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ เผยว่า ตนเองได้รับข้อมูลและรายละเอียดจาก นายวิโรจน์ โรจนจินดา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี รายงานว่า กรณีที่มีกลุ่มบุคคลนำรถยนต์ และได้เข้าไปกางเต็นท์พักแรม บริเวณคลองแปะ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสกนั้น ขอชี้แจงว่า แต่เดิมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.99 - คลองแปะ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 7.8 กิโลเมตร ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติเขาสก จึงได้จัดตั้งจุดสกัดเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ป้องกันนักท่องเที่ยวพลัดหลง ซึ่งด้วยสภาพปัจจุบันเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.99 - คลองแปะมีสภาพรกทึบ หญ้าขึ้นสูง ทางเจ้าหน้าที่อำเภอพนม ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน จึงร่วมกันเข้าไปพัฒนาตัดหญ้า เพื่อให้มีความโล่งเตียนมากขึ้น เพราะเกรงว่านักท่องเที่ยวจะเกิดอันตรายได้ และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย จึงประสานองค์การบริหารส่วนตำบลคลองศก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านอำเภอพนม ร่วมเข้าไปพัฒนา โดยเข้าพัฒนาพื้นที่ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลคลองศก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านอำเภอพนม ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาสก เพื่อพัฒนาตัดหญ้าที่รกในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งนี้เมื่อดำเนินการเสร็จ คณะจึงได้พักแรมบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากแล้ว เกรงว่าฝนตกประกอบกับเส้นทางลาดชัน รถและคณะทำงานอาจจะออกจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ และเมื่อพักค้างแรมในวันรุ่งขึ้น จึงได้พากันออกมาจากพื้นที่ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจร่วมพัฒนาเส้นทางแล้ว ดังนั้นกรณีดังกล่าว จึงไม่ใช่กลุ่มบุคคลภายนอกที่นำรถยนต์เข้าไปค้างพักแรม หรือล่าสัตว์ป่า ตามที่ได้มีการตั้งข้อสังเกตแต่อย่างใด แต่เป็นกลุ่มพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าไปพัฒนาเส้นทางศึกษา กม.99 - คลองแปะ เพียงเท่านั้น"
ที่มา : ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช